ฉะเชิงเทรา พระปลัดเอกลักษณ์ ปัญญาคโม วัดพุทธพรหมยาน

วัดพุทธพรหมยาน แดนสวรรค์บนสายน้ำบางปะกง แห่งเกาะลัด

วัดพุทธพรหมยาน ตั้งอยู่บนเกาะลัด เกาะเล็กๆ ในอำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเมืองแห่งสายน้ำ พระปลัดเอกลักษณ์ ปัญญาคโมเป็นเจ้าอาวาส

Home / ฉะเชิงเทรา / วัดพุทธพรหมยาน แดนสวรรค์บนสายน้ำบางปะกง แห่งเกาะลัด

วัดพุทธพรหมยาน ตั้งอยู่บนเกาะลัด เกาะเล็กๆ ในอำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเมืองแห่งสายน้ำ พระปลัดเอกลักษณ์ ปัญญาคโม หรืออีกสมัญญานามคือ “พระผู้สร้างโบสถ์สีทอง” เจ้าอาวาสแห่งวัดพุทธพรหมยาน ผู้มีจิตศรัทธาและความเชื่อมั่นอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนาและในปฏิปทาพระราชพรหมยาน ” หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ” แห่งวัดท่าซุง เมื่อท่านได้มาถึงเกาะลัด ณ ตรงนี้ จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีคุณพระพุทธเจ้าและหลวงพ่อฤาษีลิงดำในการสร้างวัดบนเกาะแห่งนี้ จึงได้ก่อเกิดพระอุโบสถขาว สว่างไสว สดใสดั่งแก้ว โดดเด่นเป็นสง่าบนเกาะลัด งดงามดุจดั่งแดนพระนิพพาน โดยมีท่านท้าววิรูปักโขพญานาคห้อมล้อมพระอุโบสถไว้ ดั่งจะสื่อว่า จะดูแลพระพุทธศาสนาสืบต่อไปตราบนานเท่านาน

วัดพุทธพรหมยาน

ภายในพระอุโบสถ ยังเป็นที่ประดิษฐานของ พระวิสุทธิเทพ สมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพาน

พระวิสุทธิเทพ สมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพาน

” พระวิสุทธิเทพ คือ พระอริยบุคคลที่หมดแล้วซึ่งกิเลส ถือเป็นผู้บริสุทธิ์ หรือพระอรหันต์นั่นเอง เมื่อดับธาตุขันธ์สิ้นท่านจะเข้าสู่แดนอสังขตะธรรม คือ ดินแดนที่สิ้นแล้วซึ่ง ราคะ โทสะ โมหะ จะมีสภาวะเปรียบเป็นดั่งพระวิสุทธิเทพ
ฉะนั้น พระวิสุทธิเทพ คือ ผู้ที่อยู่บนพระนิพพานทุกๆ พระองค์ ทั้งสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้า พระปัจเจกกับพุทธเจ้า รวมถึงพระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ที่ละจากโลกนี้ไปแล้ว”

พระวิสุทธิเทพ

ปณิธานของการสร้างพระวิสุทธิเทพ เป็นพระประธานในพระอุโบสถนั้น พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปัญญาคโม ได้ไขข้อสงสัยให้กับทางเราว่า

” ปณิธานการสร้างพระวิสุทธิเทพของพระอาจารย์คือ เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง เพราะหลวงพ่อได้เคยปรารภขึ้นและมีใจความตรงกับพระไตรปิฎก ซึ่งโดยส่วนตัวพระอาจารย์เอง มีความนับถือพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นที่สุด ดูได้จากชื่อของวัดก็จะมีนามของท่านอยู่ คือ วัดพุทธพรหมยาน

และในขณะนี้ ก็ยังไม่มีผู้ใดสร้างพระวิสุทธิเทพเป็นพระประธานในอุโบสถเป็นจริงเป็นจัง และเจตนารมณ์อีกข้อเพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้ และไม่ปรามาสเพราะความไม่รู้ และยังถือเป็นมรดกทางธรรมสืบต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน เพราะถ้าคนที่ไม่เคยเห็น ก็จะคิดว่าท่านเป็นเพียงเทวดา และก็จะเกิดการปรามาสโดยไม่ตั้งใจ

บางคนที่เพิ่งเคยมาวัดพระอาจารย์เอง ก็จะคิดว่าทำไมพระอาจารย์เอาเทวดาไว้ข้างบนและพระไว้ข้างล่าง เพราะคนยังไม่เข้าใจไม่ได้ศึกษา จึงไม่รู้ว่าท่านคือใคร จึงต้องการถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องออกไป โดยพระอาจารย์เองได้ตั้งใจไว้ว่าจะจัดทำเป็นหนังสือแจก และอาจจะมีป้ายติดตั้งไว้บอกเพื่อเป็นความรู้ ว่าพระอรหันต์ทุกพระองค์ ที่กายสังขารดับลงแล้ว ก็จะมีกายเป็นองค์วิสุทธิเทพ นั้นเอง
…..คำว่า เทวะ หรือ เทพ นั้นแบ่งเป็น 3 ประการ คือ

1.สมมติเทพ ได้แก่ ผู้เป็นเทพโดยสมมติ เช่น พระราชา มหากษัตริย์ต่างๆ ที่ปกครองบ้านเมือง เทพสมมติที่เราให้ความเคารพ

2.อุปัตติเทพ ได้แก่ บุคคลที่ทำคุณงามความดีและกุศลธรรม เมื่อตายไปก็ได้ไปจุติเป็นเทพบุตรหรือเทพธิดาที่สถิตบนสรวงสวรรค์ ซึ่งมีทั้งหมด ๖ ชั้น อันได้แก่
๑. จาตุมหาราชิกาเทวภูมิ
๒. ดาวดึงส์เทวภูมิ
๓. ยามาเทวภูมิ
๔. ดุสิตเทวภูมิ
๕. นิมมานรตีเทวภูมิ
๖. ปรนิมมิตวสวัตตีเทวภูมิ
รวมถึงชั้นพรหมด้วย

3.วิสุทธิเทพ ได้แก่ พระอริยบุคคลที่หมดกิเลสและบริสุทธิ์ หรือพระอรหันต์นั้นเอง เมื่อดับธาตุขันธ์เมื่อไหร่ ท่านก็จะเข้าสู่แดนพระนิพพาน

พระวิสุทธิเทพ สมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพานเริ่มสร้างในปี พ.ศ 2561 เป็นผลงานปฎิมากรรมการปั้นโดยอาจารย์สุชาติ เลิศภูมิปัญญา เป็นผู้รังสรรค์ประติมากรรมอันงดงาม ขนาดองค์พระสูง 11 เมตร

ใส่บาตรพระ


คำนิยามของการสร้างพระวิสุทธิเทพในทางโลกคือ “กายาดั่งพระ กิริยาดั่งเทพ” ความหมายคือ รูปร่าง ทรวดทรงดั่งเทพ พระพักตร์ดั่งพระ เพื่อเป็นจุดสังเกตดังนี้แต่ในความเป็นจริง บนแดนอมตะนิพพานนั้น พระองค์จะมีพระวรกายโปร่งแสงและมีฉัพพรรณรังษี สว่างไสวมากกว่าทุกชั้น “

อุโบสถ

อีกสิ่งหนึ่งที่ใครหลายๆ คนคงมีคำถามเดียวกันว่า เหตุใดพระอาจารย์เอกลักษณ์จึงสร้างหลังคาอุโบสถด้วยสแตนเลส และไม่ร้อนหรือ เราจึงได้คำตอบมาว่า

” ตัวพระอาจารย์เอง คำนึงถึงเรื่องภูมิทัศน์ของวัด ซึ่งวัดอยู่บนเกาะ การขนโครงสร้างหนักๆ ข้ามมานั้นจึงมีความลำบากและยาก จึงต้องมาคำนึงถึงโครงสร้างที่เบา ไม่ยากต่อการขนส่งเกินไปนักและยังต้องเลือกโครงสร้างยังไงให้มีความทนทาน สว่างไสว มีความคล้ายคลึงกับแก้ว เป็นประกายคล้ายกระจก จึงมาสรุปที่สแตนเลส ซึ่งมีความทนต่อสภาพอากาศและหมองยาก อายุการใช้งานนาน มีความโปร่งแสง สว่างไสวที่ดี และเข้ากับ Concept ของวัด”

นี่คือความชาญฉลาด และละเอียดอ่อนในการพิจารณาถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่จำเป็นต้องคำนึงถึงโดยรอบของพระผู้สร้างโดยแทนจริง ทั้งเรื่องภูมิทัศน์ การขนย้าย สร้างการทำงานที่มีความสะดวกให้กับทุกส่วนมากขึ้น

ครุฑ

สำหรับสถานที่เช็กอินภายในวัดตามจุดต่างๆ นั้นก็มีด้วยกันหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นศาลาเรือนแก้วเป็นศาลาที่ใช้ในการฝึกพุทธนิมิตและกิจกรรมทางวัดในช่วงสุดสัปดาห์

ศาลา 1 ไร่
พระพุทธรูป

ศาลา 1 ไร่

มีพระพุทธรูปปางนาคปรก รูปปั้นเหมือนของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง และ พระชำระหนี้สงฆ์ เป็นศาลาที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา เช่น พิธีไหว้ครู กฐินประจำปี พิธีมุทิตาจิตโดยลูกศิษย์จากทั่วสารทิศที่หลั่งไหลกันมาอย่างมากมาย และด้านบนของประตูทางเข้าก็จะมีรูปวาดภาพของท่านปู่และท่านย่า

พระนาคปรก
พระชำระหนี้สงฆ์

แต่มีสถานที่หนึ่งที่อยากจะแนะนำเป็นพิเศษ เรียกว่าถ้าไปวัดพุทธพรหมยานแล้ว ห้ามพลาดที่นี้ คือ

เรือทิพย์วิมาน

เรือทิพย์วิมาน

จุดประสงค์การสร้างของพระอาจารย์ เปรียบเป็นวิมานทิพย์อย่างหนึ่ง รูปแบบโครงสร้างเป็นเรือกำปั้นสีขาวมุก 2 ชั้น
ชั้นบนสุดของเรือเป็นที่ประดิษฐาน องค์พระวิสุทธิเทพ ให้ผู้ไปเยือนได้ไปสักการะบูชาและชั้นล่างลงมาจะมี องค์พญายมราช ประดิษฐานตั้งอยู่ ซึ่งอานิสงค์ของการบูชานับถือพญายมราชนั้น เชื่อกันว่าภูติผี ปีศาจต่างๆ ไม่กล้าระราน ป้องกันภัยให้ผู้สวดเพื่อให้แคล้วคลาดจากอันตราย มีอายุยืนยาว และมักนิยมสวดเพื่อต่ออายุให้ผู้ป่วยหนักอีกด้วย

ผู้ที่ภาวนาคาถาบูชาพญายมราชนั้นจะมีตบะบารมีที่น่าเกรงขาม ใครคิดร้ายด้วยอกุศลจิต อิจฉาตาร้อน จะแพ้ภัยตัวเขาเองไป
……หลายคนอาจสงสัยว่า ท่านท้าวเวสสุวรรณกับท่านพญายมราช เป็นเทพองค์เดียวกันไหม

คำตอบคือ ไม่ใช่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ คือ หนึ่งใน ท้าวจตุโลกบาล ทั้ง 4 สถิตอยู่บนชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นผู้ดูแลกุมภัณฑ์อยู่ทางทิศเหนือ ส่วนองค์พญายมราชนั้น ท่านเป็นพรหม ทำหน้าที่ช่วยคนไม่ให้ตกนรก หากผู้นั้นยังคงมีความดีงามที่ยังระลึกได้ ท่านอยู่ที่สำนักพญายมราช

พระพุทธรูป

ส่วนจุดเช่า-บูชาวัตถุมงคล จะอยู่ที่เรือนแก้วริมน้ำ มีวัตถุมงคลมากมายให้ผู้ที่สนใจศรัทธาได้นำกลับไปบูชาต่อที่บ้าน แต่วัตถุมงคล ของวัดพุทธพรหมยาน ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือ…

ศาลาเรือนแก้ว
  • พระปัจเจกพุทธเจ้า

ปางประทานพร ขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว พุทธลักษณะ เป็นปางนั่งประทานพร ห่มจีวรคลุม

  • ตะกรุดแสนรัก

จะเน้นในเรื่องของความรัก ความสามัคคีของคนในครอบครัว ในหมู่คณะการติดต่ออะไรต่างๆ จะทำให้คนใจอ่อนเกิดความเมตตา เวลาคุยอะไรก็จะโน้มน้าวไปในแนวทางเดียวกัน ลดทิฐิมานะในตัวของคนที่มาคุยด้วย ทำให้การเจรจาครั้งนั้นประสบความสำเร็จ ข้อห้ามของการบูชาตะกรุดแสนรักคือ ไม่พูดโกหก มีวาจาอันไพเราะ ไม่หลอกลวงหรือว่าหยาบคาย

  • ผ้ายันต์มหาลาภหรือยันต์ขายที่

ขั้นตอนมีเป็นลำดับขั้น จะขอเกริ่นเพียงคราวๆ ไว้ดังนี้ คือ ผู้ที่ต้องการขายที่ดิน หลังจากที่เช่าบูชาผ้ายันต์มหาลาภไปแล้ว ให้ท่านไปบอกกล่าว ตามลำดับสถานที่ดังนี้

  • เทพเจ้าประจำศาลหลักเมือง บนที่ดินที่จะขาย
  • ท้าวมหาราชทั้ง ๔ พระภูมิเจ้าที่รักษาที่ดินแปลงนี้
  • ทำบุญและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทร์ธรเทพยวรางกูร เพราะพระมหากษัตริย์เป็นเจ้าของแผ่นดิน
    และก็ดำเนินตามพิธีกรรมที่จะมีแนบมาให้ แต่ไม่ได้มีความยุ่งยากลำบากอะไร สามารถปฏิบัติได้ ก็ให้ปฎิบัติตามขั้นตอนนั้น
    ทำอย่างนี้สัก ๒ – ๓ เดือนจะขายที่ได้โดยฉับพลัน
  • นกสาริกาเรียกทรัพย์

เด่นในเรื่อง เมตตา เสน่ห์ ค้าขาย เรียกทรัพย์ ความรุ่งเรือง ความคล่องตัว และ สุขภาพแข็งแรง

วัดพุทธพรหมยานนั้นยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของผู้ใฝ่ธรรม ซึ่งแนวทางการปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์เอกลักษณ์นั้น จะเน้นแนวทางพุทธานุสติและอานาปานสติ ส่วนการฝึกมโนยิกธินั้น จะมีเป็นรอบๆ ถ้ามีก็จะประกาศออกไปตามเพจของวัด แต่โดยปกติจะสอนเรื่องพุทธนิมิต คือ พุทธานุสติกรรมฐาน ควบคู่กับอานาปานสติกรรมฐาน การฝึกพุทธนิมิตของพระอาจารย์เอกลักษณ์ ปัญญคโมนั้น จะได้กรรมฐานครบทั้ง 3 กองด้วยกัน คือ

พระพุทธรูป

พุทธานุสติ เป็นการทำสมาธิ โดยการน้อมจิตระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ด้วยความเลื่อมใส ศรัทธา เพื่อให้จิตรวมเป็นหนึ่งเดียว
อานาปานสติ หมายถึง การมีความระลึกรู้ตัวในลมหายใจเข้าออก อานาปานสติเป็นได้ทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน
กสิน คือ การฝึกกรรมฐานหมวดหนึ่ง ว่าด้วยการใช้วัตถุสำหรับเพ่งเพื่อจูงจิตให้เป็นสมาธิ ไม่ฟุ้งซ่าน
เพราะสีของพระพุทธเจ้า เป็นกสินอยู่แล้ว จึงทำให้ได้กรรมฐานทั้งสามกองในเวลาเดียวกัน โดยที่วัดจะมีการฝึกพุทธนิมิตทุกวันอาทิตย์ในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือน เป็นการฝึกกรรมฐานประจำวัด

วัดพุทธพรหมยาน

ส่วนผู้ที่สนใจจะมาบวชชีพราหมณ์ แบบค้างคืน จะถือศีล 5 หรือศีล 8 กฎระเบียบการเข้าบวช คือ
” รักษาศีลที่ตนเองถืออยู่ จะศีล 5 หรือ 8 ก็ตามอย่างเคร่งครัด ภาวนาเป็นนิจ ตัดความกังวลของโลกภายนอกให้ได้ และปฏิบัติตามกฎระเบียบทางวัดที่ตั้งไว้ แล้วฝึกพุทธานุสติได้ หรือถ้ายังฝึกไม่ได้ทางวัดก็ยินดีต้อนรับเช่นกัน ” ตามที่พระอาจารย์เอกลักษณ์ ได้เมตตากล่าวไว้

พระพุทธรูป

อิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งใจ และกิจกรรมอันมากมาย ตามจุดเช็กอินต่างๆ พร้อมทั้งบรรยากาศที่ร่มรื่น เย็นสบายของสายลม บน สายน้ำบางปะกง สามารถทำให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนเพลิดเพลินได้ทั้งวันจนแทบลืมเวลา

เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-17.00 น
ติดต่อสอบถาม 095-514-1999
กดลิ้งก์ด้านล่างนำทางมาจอดรถ ลงเรือที่ ท่าเทียบเรือวัดพุทธพรหมยาน
วัดพุทธพรหมยาน(ท่าเทียบเรือ-ลานจอดรถ) กดกริ่งเรียกเรือ
095 519 4999 (คนขับเรือ)
Google Map : https://maps.app.goo.gl/Y112CmzEi5Bvub8B7?g_st=ic

อ.บุญลาด

บทความโดย อ.บุญลาด

ภาพโดย วิชาญ โพธิ

เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

Murico” (มูริโค) ผลิตแรร์ไอเทมที่สายมู และแฟชั่นต้องมี

ทำความรู้จัก ยันต์ ศรัทธาที่นำมาซึ่งปาฏิหาริย์ ทำไมยังคงอยู่ในยุค 5G

วิธีบูชาพญานาค และเคล็ดลับการตั้งบูชาพญานาคในบ้าน