วัดปากน้ำโจ้โล้
วัดปากน้ำโจ้โล้ เป็นวัดดังฉะเชิงเทรา มีอายุกว่า 200 ปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย นับเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ด้วยทำเลปากน้ำนี้เป็นที่ตั้งของทัพพม่าในคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ซึ่งมีทั้งทัพบกและทัพเรือ พระยาตาก (พระนามของพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ขณะนั้น) ทรงวางแผนเข้าตีทหารพม่าโดยการที่ทรงโล้เรือมาตามน้ำเพียงลำพังให้ทหารพม่าเห็นเพื่อให้ทัพพม่าตายใจ แล้วให้ทหารซุ้มล้อมโจมตีจนได้รับชัยชนะ พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ (แต่ต่อมาเจดีย์นี้ถูกน้ำกัดเซาะพังทลายลงไปหมด กรมศิลปากรจึงได้สร้างขึ้นมาใหม่ในบริเวณเดิม)
จากมุมนี้จะเห็นเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินตั้งอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำบางปะกง
ชื่อวัดตั้งมาจากทำเลที่อยู่บริเวณปากน้ำแม่น้ำบางปะกง ส่วนคำว่า โจ้โล้ มาจากการที่พระยาตากได้โล้เรือมาตามน้ำเพียงลำพังให้ทัพพม่าตายใจ และได้เรียกกันต่อมาว่า “เจ้าโล้” แต่ต่อมาเพี้ยนมาเป็น “โจ้โล้” จากข้อมูลกรมการศาสนา ระบุว่าตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2336
แต่เดิมวัดนี้ไม่ได้มีสีทองอร่ามดังที่เห็นกันในปัจจุบัน แต่พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปัญญาคโม เจ้าอาวาสวัดพุทธพรหมยาน ได้มีนิมิตรว่าหลวงปู่พรหมยานมาบอกให้สร้างเป็นสีทองเหมือนสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์จึงได้ตกแต่งวัดออกมาเป็นสีทองอร่ามทั้งวัด ห้อมล้อมด้วยสัตว์หิมพานต์ คชปักษาสิงห์ ช้างสามเศียรเอราวัณ ท้าวเวสสุวรรณ ดังที่เห็นกันในปัจจุบัน ทำให้เป็นวัดที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ ด้วยอุโบสถสีทอง หนึ่งเดียวในไทย ที่ทาสีทองทั้งหลัง ทั้งภายในและภายนอกตัวอุโบสถ หลังคาประดับด้วยพญานาคและธรรมจักรตรงกลางมีบุษบกยอดฉัตร ส่วนบริเวณกำแพงแก้วชั้นนอกตกแต่งด้วยลวดลายธรรมจักรสลับกับโคมไฟรูปช้างสามเศียรเป็นระยะ ๆ ภายในอุโบสถประดิษฐานองค์หลวงพ่อโตเป็นพระประธาน จำลองมาจากพระพุทธชินราช ซึ่งนิยมมาขอพรการงานกันจากหลวงพ่อเป็นอย่างมาก
หลวงพ่อโต
ภายในบุษบกที่ด้านบนอุโบสถนั้นบรรจุพระบรมธาตุ ส่วนการตกแต่งภายในใช้ลวดลายปูนปั้นจำหลักหรือใช้แม่พิมพ์สร้างงานขึ้นมาประดับตกแต่งภายในอุโบสถซึ่งใช้สีทองทั้งหมดเหมือนกับภายนอก แทนการใช้ภาพจิตรกรรมฝาผนัง
เทคนิคมูขอพรวัดปากน้ำโจ้โล้ที่ต้องห้ามพลาด
เมื่อมาที่วัดแห่งนี้ สิ่งสำคัญที่แนะนำให้ทำ คือ การลอดใต้ฐานพระประธาน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล โดยเดินเข้าทางซ้ายและเดินทะลุออกมายังฝั่งขวาของพระประธาน ขณะที่ลอดไปนั้น ก็จะมีบทสวดมนต์ให้ภาวนาอธิษฐาน ทำจิตให้สงบเป็นสมาธิ
นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีจุดมูอีกมากมายให้สาธุชนได้กราบสักการะขอพรตามปรารถนา ทั้ง ศาลาปู่หมอชีวกโกมารภัทร ปู่นารอดปู่ตาไฟ และ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงประทับท่านั่งพระหัตถ์สองข้างกำดาบที่วางอยู่บนพระเพลา ด้านข้างเป็นรูปปั้นทหารองครักษ์ ที่ชาวบ้านนิยมมาขอพรการสอบ การแข่งขันต่างๆ ด้วยท่านศักดิ์สิทธิ์มากจนมีของมาแก้บนไม่ขาด ทั้งดาบคู่ รูปปั้นไก่และประทัดที่มักดังกระหึ่มทุกวัน
สำหรับสายอาร์ท ภายในวัดยังมีงานภาพเขียนเชิงพุทธศิลป์ให้ได้ชมกันอีกด้วย สามารถเข้าวัดกันได้ทุกวันตามเวลาเปิด – ปิด โดยไม่เสียค่าเข้าชม
ภาพโดย แพรว
ที่อยู่ : ถนนวนะภูติ ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 24110
Google map : https://maps.app.goo.gl/e1MF3Hw9LNzyPgA17
เวลาทำการ : 08.00-17.00 น.
เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
วัดพุทธพรหมยาน แดนสวรรค์บนสายน้ำบางปะกง แห่งเกาะลัด
พระชำระหนี้สงฆ์ คืออะไร ทำไมเราต้องทำบุญชำระหนี้สงฆ์
พระวิสุทธิเทพ แตกต่างหรือเหมือนกับ สมเด็จองค์ปฐม อย่างไร