กราบหลวงปู่โต๊ะ ขอพรการงาน การค้า วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ

วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ

วัดประดู่ฉิมพลี หนึ่งในวัดดังกรุงเทพ สายมูต้องห้ามพลาด ตั้งอยู่ย่านถนนเพชรเกษม บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ นี่เองค่ะ ซึ่งวัดนี้โด่งดังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในวงกว้าง ด้วยบารมีของหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ หรือ พระราชสังวราภิมณฑ์ อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังแห่งคลองบางกอกใหญ่ หรือ คลองบางหลวง ย่านฝั่งธนฯ ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมายอยู่ทั่วทุกสารทิศ หนึ่งในวัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้สร้างไว้คือ พระปิดตา อันเป็นวัตถุมงคลระดับตำนานของไทยเราเลยทีเดียว

ประวัติ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ

เดิมชื่อว่า วัดฉิมพลี เพราะบริเวณที่ตั้งวัดเต็มไปด้วยต้นงิ้ว แต่ชาวบ้านในพื้นที่นิยมเรียกกันว่า “วัดประดู่นอก” คู่กับ “วัดประดู่ใน” (วัดประดู่ในทรงธรรม) ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ในสมัยรัชกาลที่ 3 สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) เมื่อครั้งดำรงยศเป็นพระยาศรีพิพัฒนรัตนราชโกษา จางวางพระคลังสินค้า ได้จัดหาที่ดินและก่อสร้างวัด โดยใช้เวลานานถึง 8 ปี จึงแล้วเสร็จในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ในเวลานั้นถือเป็นวัดราษฎร์ที่ใหญ่และงดงามกว่าวัดราษฎร์โดยทั่วไป

พระพุทธชินราชจำลอง และรูปหล่อหลวงปู่โต๊ะที่ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้ทรงหล่อถวายวัด

เมื่อวัดสร้างแล้วเสร็จนั้น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) ได้เพียรพยายามเสาะหาพระพุทธรูปที่สวยงาม เพื่อนำมาประดิษฐานในพระอุโบสถ ซึ่งตามประวัติกล่าวว่า เจ้าอธิการวัดอ้อยช้าง หรือวัดบางอ้อยช้าง จังหวัดนนทบุรี ได้อัญเชิญพระพุทธรูปพระศรีศาสดามาจากจังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วัดอ้อยช้าง แต่ความทราบไปถึงสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) ท่านจึงไปอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดประดู่ฉิมพลี ครั้นความทราบไปถึงรัชกาลที่ 4 จึงทรงมีพระบรมราชโองการลงมาว่า เนื่องจากพระศรีศาสดาเป็นพระพุทธรูปสำคัญอยู่คู่กับพระชินสีห์มาก่อน จึงให้อัญเชิญพระศรีศาสดาจากวัดประดู่ฉิมพลี มาประดิษฐานที่วัดบวรนิเวศวิหารแต่ขณะที่เชิญมานั้น ยังสร้างพระวิหารไม่เสร็จ จึงโปรดให้นำไปไว้ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม ชั่วคราวก่อน เมื่อเดือน 4 แรม 10 ค่ำ ปีฉลู เบญจศก พ.ศ. 2396

ที่มาของ หลวงพ่อสุโขทัย พระประธานองค์ปัจจุบันในอุโบสถวัดประดู่ฉิมพลี

พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน กว้าง 13 เมตร ยาว 32 เมตร สร้างตามศิลปะแบบพระราชนิยมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ซุ้มประตูหน้าต่างปั้นลายปูนเป็นลายดอกไม้-ใบไม้ บานประตูและหน้าต่างปิดทองประดับกระจกลายยา

เมื่อพระประธานของวัดประดู่ฉิมพลีไม่มีแล้ว สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) จึงได้ไปเลือกหาพระพุทธรูปที่มีลักษณะพุทธศิลป์ที่สวยงาม และมีขนาดเท่ากับพระศรีศาสดาจากวัดอ้อยช้าง เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะศิลปะสุโขทัย พระพักตร์เอิบอิ่ม ผิวองค์พระผ่องอร่ามดั่งทองคำ จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถ วัดประดู่ฉิมพลี และได้ตั้งชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระสุโขทัย หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อสุโขทัย หรือ พระพุทธสัมพันธมุนี

วิหารพระนอน และ พระพุทธไสยาสน์

วิหารพระนอน สร้างขึ้นพร้อมกับอุโบสถ นับเป็นปูชนียสถานบริวารของอุโบสถสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2375เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์ หรือที่คนทั่วไป เรียกว่า พระนอน

พระพุทธไสยาสน์ หรือ พระนอน เป็นปูชนียวัตถุสำคัญ ที่สร้างขึ้นไว้เพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้าในคราวเสด็จดับขันธปรินิพพาน ให้ผู้มานมัสการได้เตือนตนเองไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่มีอะไรแน่นอน แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่อาจพ้นจากธรรมชาตินี้ได้ พระนอนนี้ สร้างขึ้นโดย พระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ) สมัยที่ท่านกลับจากการจาริกออกธุดงค์ตามสถานที่ต่างๆ ในต่างจังหวัด

ในการบูรณะวิหารนี้ครั้งหลังสุด ได้รับพระราชทานตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ ของ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒนรัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี”

เจดีย์วิหารแปดเหลี่ยม และ รอยพระพุทธบาทจำลอง

• เจดีย์วิหารแปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ทรงรามัญ องค์เจดีย์กลม ฐานกับบัลลังก์เป็น 8 เหลี่ยม เพราะสร้างไว้เหนือเรือนหรือวิหาร 8 เหลี่ยม มีเสารายและชานโดยรอบแบบมณฑป นับเป็นปูชนียสถานบริวารของอุโบสถ สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2375
  
• รอยพระพุทธบาทจำลอง คือ ปูชนียวัตถุสำคัญ สร้างด้วยไม้สักแกะสลักประดับมุก วัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้า ที่ทรงฝากรอยพระบาทไว้แก่มวลมนุษยชาติอันหมายถึงรอยทางเดินอันยอดเยี่ยมที่มนุษย์ทุกคนพึงเดินตาม ซึ่งรอยพระพุทธบาทจำลองนี้ สร้างโดย พระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ) สมัยที่ท่านกลับจากการจาริกออกธุดงค์ตามสถานที่ต่างๆ ในต่างจังหวัด ผู้ได้นมัสการรอยพระพุทธบาทนี้ ย่อมได้รับอานิสงส์ คือ มีบุตรหลานหรือผู้ใต้ปกครองเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย มีสติปัญญาดี เป็นคนดี มีเกียรติยศชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับนับถือของผู้คน และเป็นผู้นำที่ดีของสังคม

พระคาถาบูชารอยพระพุทธบาท

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ (ว่า ๓ จบ)
วันทามิ เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเน สุปะติฏฐิตัง

ทั้งนี้กรมการศาสนา ได้คัดเลือกวัดประดู่ฉิมพลีให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างในปี พ.ศ. 2535 และ กรมศิลปากร ได้ประกาศรายชื่อโบราณสถานวัดประดู่ฉิมพลี ลงในราชกิจจานุเบกษา เล่ม135 ตอนพิเศษ 165ง (หน้า 12) ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2561

วิหารพระยืน และ พระพุทธรูปปางประทับยืน

วิหารพระยืน สร้างขึ้นพร้อมกับอุโบสถ นับเป็นปูชนียสถานบริวารของอุโบสถ สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2375 เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป ปางประทับยืน เกือบทั้งหมดเป็นพระรัตนโกสินทร์ ซึ่งจะมีพุทธลักษณะพิเศษ ผสมผสานระหว่างพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยและอยุธยา ส่วนใหญ่ผ้าจีวรจะเป็นลายดอกพิกุล มีการแต่งองค์ทรงเครื่อง

พระพุทธรูปยืนหลายองค์ มีการจารอักษรภาษาไทยสมัยเก่าไว้ที่ฐาน บอกให้ทราบใครเป็นผู้สร้าง สร้างอุทิศให้ผู้ใด เช่น องค์ใหญ่สุด สร้างเมื่อ 2416 พระวสา วัน 1 แรม 13 ค่ำเดือน 4 ปีระกา เป็นต้น

องค์พิเศษสำคัญองค์หนึ่ง คือ พระปางเปิดโลก แกะด้วยไม้สักทั้งองค์ ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ โดยช่างปู้ ช่างฝีมือจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่นำรถลงมาบรรทุกไปบูรณะที่บ้าน ด้วยตนเอง และได้ใช้อิสรภาพของตนเองเป็นประกัน โดยได้ลงบันทึกข้อความไว้ที่ สน.ท่าพระว่าการบูรณะพระพุทธรูปองค์นี้จะต้องสำเร็จเท่านั้น จะไม่มีการเสียหายหรือสูญหายในระหว่างและจะต้องนำกลับมายังวัดประดู่ฉิมพลีในสภาพที่เรียบร้อยสมบูรณ์ ภายใน 2 เดือน หากไม่เป็นไปตามนี้ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับตนเอง แต่ด้วยจิตใจที่เด็ดเดี่ยว มีศรัทธา และบริสุทธิ์ ของทุกฝ่าย ทั้งนายช่างและอุบาสกผู้ร่วมทำบุญกับวัดในการรับภาระค่าใช้จ่ายทำให้งานนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดียิ่ง ช่างปู้ได้นำองค์พระที่สมบูรณ์และงดงามมาประดิษฐานไว้ที่วิหารหลังนี้ตามเดิม เมื่อ 26 กันยายน 2563

นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของรูปเหมือนหลวงปู่โต๊ะองค์ยืน ให้สาธุชนได้ปิดทองสักการะบูชาด้วย

ในการบูรณะวิหารนี้ครั้งหลังสุด ได้รับพระราชทานตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ของ “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ”

ศาลาราชสังวราภิมณฑ์

อาคารทรงไทย ก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น กว้าง 11 เมตร ยาว 16.50 เมตร เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อเหมือนพระราชสังวราภิมณฑ์ หรือ หลวงปู่โต๊ะ อดีตเจ้าอาวาส และพระอัฐิธาตุของหลวงปู่โต๊ะ

รูปหล่อเหมือน หลวงปู่โต๊ะ อดีตเจ้าอาวาส

เทคนิคการมู มากราบขอพรหลวงปู่โต๊ะ แนะนำให้กินเจมาก่อนจะมาขอพรจากหลวงปู่ โดยเครื่องไหว้สามารถถวาย ของเจ ผลหมากรากไม้ โดยเฉพาะมะขามเทศ เป็นของโปรดหลวงปู่ ซึ่งพรที่ขอ แนะนำให้ขอเรื่องการงาน การค้าขาย เนื่องจากหลวงปู่ชอบคนขยัน อย่าขอโชคลาภ การพนันเพราะหลวงปู่ไม่ชอบ

นอกจากนี้ ขอพรโชคลาภ ขอลูก ขอพรการเรียน การศึกษาจาก กุมารฟ้าน้อย ที่อยู่ด้านข้างพระพุทธชินราชจำลองได้

เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีจุดมูมากมาย สามารถมากราบขอพรได้ตามจุดต่างๆ และห้ามพลาดมากราบสักการะเจ้าแม่กวนอิมภายในวัดก่อนกลับกันนะคะ

ภาพโดย แพรว

ที่อยู่ : 168 ซอยเพชรเกษม 15 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
Google map : https://maps.app.goo.gl/B7Kz8tkHBSP2T51C8
เวลาทำการ : 06.30 น. – 18.00 น.

เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ชมอุโบสถสีทอง กราบหลวงพ่อโต วัดปากน้ำโจ้โล้ ขอพรการงาน
กราบ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขอพรการงาน การเงิน ณ วัดหัวคู้
วัดแก้วฟ้า บางกรวย ขอพรการงานการเงิน แก้กรรมเพ่งกสิณไฟ

คำทำนายดวงชะตาของคุณวางจำหน่ายแล้ววันนี้
ช่องทางการสั่งซื้อที่แอปพลิเคชัน MTHAI
มือถือแอนดรอยด์ : https://play.google.com/store/apps/details
มือถือ iOS ไอโฟน : https://apps.apple.com/gr/app/mthai-com/id471243201