Panettone คืออะไร ปาเนตโตเน่นิยมกินในช่วงไหน
ปาเนตโตเนคืออะไร
ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุกปี ขนมปังก้อนโตอย่าง Panettone ( อ่านว่า ปาเน็ตโตเน) กลายเป็นสินค้าขึ้นเชลฟ์ ของทุกห้างร้าน ทั้งในต่างประเทศโดยเฉพาะโซนยุโรป รวมไปถึงประเทศไทยเราเอง แล้ว ปาเนตโตเนคืออะไร นิยมกินในช่วงไหน มีรสชาติอย่างไร เราจะพาทุกท่านมาหาคำตอบกันค่ะ
ปาเนตโตเน เป็นขนมสัญชาติอิตาลี ถือกำเนิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ซึ่งคำว่า ‘ปาเน็ต’ แปลว่าขนมปัง และ ‘โตเน’ แปลว่าใหญ่ รวมกันก็แปลว่า ‘ขนมปังชิ้นใหญ่‘ โดยเป็นขนมที่ชาวอิตาลีนิยมรับประทานและเป็นของฝากให้กันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ตามธรรมเนียมของชาวคริสต์ที่มอบของขวัญแก่ญาติสนิทมิตรสหายเพื่อเฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนาเช่นนี้
ปาเนตโตเนมีรสชาติอย่างไร
ปาเนตโตเน มีลักษณะเป็นขนมปังทรงสูง เนื้อขนมปังนุ่มฟู ออกรสหวาน สอดไส้ลูกเกด ผลไม้ และเปลือกส้มเชื่อม เป็นขนมที่มีกระบวนการทำที่ซับซ้อน และใช้เวลานาน ส่วนใหญ่แล้วใช้เวลาเกือบสองวัน เกิดจากแป้งยีสต์ธรรมชาติถูกหมักให้พองใหญ่ โดยเติมแป้ง ไข่ เนย น้ำตาล และผลไม้หวาน จนได้ขนาดที่ต้องการ เมื่อแป้งพร้อมแล้วให้ใส่ลงในถ้วยอบกระดาษ พักไว้ให้ขึ้นฟูอีกครั้ง จากนั้นจึงค่อยอบ และพักทำให้เย็น
รู้จักที่มาของขนมปาเนตโตเน
ขนมปาเนตโตเน มีเรื่องเล่าหลากหลายที่มาเลยทีเดียวค่ะ แต่เรื่องเล่าที่กล่าวขานบอกต่อกันมามากที่สุด คือ หัวหน้าพ่อครัวในราชสำนัก ต้องอบเค้กที่ต้องใช้เลี้ยงแขกในงานเลี้ยงวันคริสต์มาสไหม้ จึงให้ผู้ช่วยพ่อครัวที่ชื่อว่าโทนี่ (Toni) อบเค้กขึ้นมาใหม่ เขาจึงเลือกใช้หัวเชื้อส่วนผสมที่มีอยู่ในตอนนั้น อย่าง แป้ง น้ำตาล ไข่ และเติมผลไม้แห้งเข้าไป จนทำให้เกิดขนมที่มีลักษณะฟู ใหญ่ และสร้างความประทับใจให้แก่เหล่าแขกในงาน จึงตั้งชื่อขนมปังให้เป็นเกียรติแก่พ่อครัวคนนี้ คือ Pane di toni หรือที่มีความหมายว่า ขนมปังของโทนี่ จนกลายเป็น Panettone หรือปาเนตโตเน ขนมหวานประจำเทศกาลคริสต์มาส นั่นเอง
จนกระทั่งในศตวรรษที่ 20 ปาเนตโตเนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะอิตาลี แต่ยังส่งออกไปจนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และได้มีการพัฒนาทั้งสูตร รสชาติ วัตถุดิบ และรูปทรงใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เหมาะกับรสนิยมของคนในยุคปัจจุบัน ในแต่ละประเทศอีกด้วย
ปาเนตโตเน จึงเป็นขนมตัวแทนของการเฉลิมฉลอง นิยมเสิร์ฟคู่กับสปาร์กลิงไวน์ และตกแต่งด้วยถั่วพิสตาชิโอ ครีมอัลมอนด์ ครีมมาสคาโปน และส่วนใหญ่ขนมชนิดนี้จะไม่มีสารกันบูด เนื่องจากกระบวนการผลิตนั้นทำมาจากยีสต์ธรรมชาติ ที่ส่งผลให้คงความสด และเก็บได้เกิน 1 เดือน ทำให้การบรรจุปาเนตโตเนจะสามารถเก็บไว้ได้นาน และหากเลยเทศกาลคริสต์มาสไปแล้วก็ยังสามารถนำกลับมากินต่อได้
เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ปีศาจนักล่า ครัมปัส krampus ฝันร้ายคริสต์มาสของเด็กนิสัยไม่ดี
11 สัญลักษณ์ วันคริสต์มาส มีความหมายซ่อนอยู่นะ
27 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับ วันคริสต์มาส
