ข่า มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Galanga และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Alpinia galanga (L.) Willd. เป็นพืชพื้นเมืองของไทยซึ่งมีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศเขตร้อนในเอเชีย ข่าเป็นสมุนไพรและเครื่องเทศที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหล็ก ใยอาหาร และคาร์โบไฮเดรต และข่ายังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย เช่น เควอซิทิน (Quercetin) , อัลไพน์ (alpine), กาแลนจิน (Galangin) และ เบต้าซิโตสเตอรอล (Beta-sitosterol)
6 สรรพคุณทางยาของ ข่า
ต้านมะเร็ง
กาแลนจิน (Galangin) เป็นสารที่พบในข่า ซึ่งมีการค้นพบว่ามีสรรพคุณช่วยต้านมะเร็ง ในปี 2559 ได้มีการตีพิมพ์ในวารสารสารอาหาร จากศึกษาพบว่าข่ามีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังมะเร็ง มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ จากนั้นได้มีการวิจัยอีกครั้งในปี 2014 ข่ายังช่วยยับยั้งต้านการเกิดเซลล์มะเร็งของมะเร็งกระเพาะอาหาร
ต้านการอักเสบ
ข่ามีฤทธิ์คล้ายกับขมิ้นและขิง เครื่องเทศชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบรวมถึง โรคไขข้ออักเสบ, โรคเกาต์, แก้ปวดหัว, อาการลำไส้แปรปรวน
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ข่ามีวิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอในการต่อต้านสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น อัลไพน์ (alpine), กาแลนจิน (Galangin) ข่ายังช่วยต้านเชื้อวัณโรค ต้านภูมิแพ้ แก้ลมพิษได้ผลดีเยี่ยม
โรคเรื้อรัง
โรคเรื้อรังมักเกิดจากการอักเสบเรื้อรังและเกิดจากอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่มีอยู่ในข่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคข้ออักเสบ โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจ
บำรุงสมอง
ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระอีกอย่างหนึ่งก็คือช่วยให้สมองทำงานได้ดี โดยข่าจะช่วยลดการสะสมของเบต้า – อะไมลอยด์ในสมอง จึงทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ข่ายังสามารถชะลอและป้องกันโรคโรคความเสื่อมของระบบประสาทได้อีกด้วย
บำรุงระบบเจริญพันธุ์
จากการศึกษาพบว่าข่าสามารถช่วยให้สเปิร์มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นและยังช่วยให้การผลิตสเปิร์มเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย ข่าจึงเป็นสมุนไพรที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศ
