ลดน้ำหนัก หยุดลดน้ำหนัก โรคคลั่งผอม

หยุด! ลดน้ำหนัก ถ้าคุณกำลังเผชิญ 5 ข้อ ที่กำลังเสี่ยงเป็นโรคคลั่งผอม

ช่วงนี้กระแสลดความอ้วนมาแรง ใครๆ ก็อยากมีหุ่นดี โดยเฉพาะสาวๆ ได้ใส่เสื้อผ้าตัวสวยๆ เอวเล็กๆ ขาเรียวน่ามอง แถมในโลกโซเชียลก็เต็มไปด้วยไอดอลและบทความรีวิว ลดน้ำหนัก จนเกิดการกระตุ้นให้ต้องมองย้อนดูตัวเอง ว่าอ้วนถึงขั้นไหน ต้องลดแล้วหรือยัง? ซึ่งถ้าคนปกติเมื่อลดได้ถึงจุดที่พอใจแล้ว หุ่นดี สุขภาพดี…

Home / แฟชั่น / หยุด! ลดน้ำหนัก ถ้าคุณกำลังเผชิญ 5 ข้อ ที่กำลังเสี่ยงเป็นโรคคลั่งผอม

ช่วงนี้กระแสลดความอ้วนมาแรง ใครๆ ก็อยากมีหุ่นดี โดยเฉพาะสาวๆ ได้ใส่เสื้อผ้าตัวสวยๆ เอวเล็กๆ ขาเรียวน่ามอง แถมในโลกโซเชียลก็เต็มไปด้วยไอดอลและบทความรีวิว ลดน้ำหนัก จนเกิดการกระตุ้นให้ต้องมองย้อนดูตัวเอง ว่าอ้วนถึงขั้นไหน ต้องลดแล้วหรือยัง?

ซึ่งถ้าคนปกติเมื่อลดได้ถึงจุดที่พอใจแล้ว หุ่นดี สุขภาพดี กล้ามเนื้อแน่น ไขมันลีน ก็คงจะหยุดและประคองหุ่นให้ยังเหมือนเดิมต่อไป แต่จะมีบางคนที่โฟกัสการลดน้ำหนักผิดจุด จนเกิดความเครียดหนักและไม่รู้ตัวเองว่ากำลังเสี่ยงที่จะเป็นโรคคลั่งผอม เรามาเช็กลิสต์กันหน่อย ว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มีข้อไหนที่ตรงบ้าง!

1. ไม่มีความสุข

ความตื่นเต้น ปาร์ตี้ วันหยุดสุดหรรษา คุณไม่มีสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป มันยิ่งทำให้คุณไม่มีความสุขเอาซะเลย เพราะมัวแต่เดินหน้าไดเอทอย่างจริงจัง กฏระเบียบต่างๆ เช่น ห้ามกินหลัง 1 ทุ่ม, ห้ามกินน้ำตาล ยกเว้นดาร์คช็อคโกแลต 1 อัน , ของกินเล่นกินได้แค่อัลมอนด์ , ออกกำลัง 2 ครั้งต่อวัน  กฏเหล่านี้ยิ่งทำให้คุณรู้สึกเครียด สิ้นหวัง จำไว้ว่า อาหารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต หากคุณชอบจะกินอะไร ก็กินไป ใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบที่พอดี

2. น้ำหนักสวิงขึ้นลงไม่คงที่

อาจเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณของการ “โยโย่” คุณอาจจะใช้วิธีลดน้ำหนักที่ผิดๆ จนทำให้ร่างกายเริ่มเสียศูนย์ แสดงว่าการลดน้ำหนักที่ทำอยู่นั้นมันไม่เหมาะกับสภาพร่างกายของคุณ กลับมาคิดให้ดีว่า คุณอยากจะผอมเร็วๆแล้วกลับมาอ้วนฉุได้อย่างรวดเร็วด้วยหรือเปล่า หรืออยากจะผอมลงช้าๆ แต่ผอมลงเรื่อยๆ หาวิธีที่ถูกต้องและเลิกไดเอทวิธีที่ทำอยู่เดี๋ยวนี้

3. วิตกกังวลอยู่กับตัวเลขบนตาชั่ง

เมื่อตื่นเช้าขึ้นมา สิ่งแรกที่คิดคือ ” นี่เราอ้วนขึ้นหรือเปล่านะ” และวิ่งไปชั่งน้ำหนักทุกเช้า จนเหมือนเป็นเพื่อนรักที่เจอกันทุกวัน โดยใช้น้ำหนักเป็นตัววัดความสุขในชีวิต ถ้าวันไหนน้ำหนักขึ้นแทบจะไม่อยากกินอะไร แทนที่จะมีความสุขกับการใส่ชุดนี้ได้ ใส่แล้วดูสวย ให้ร่างกายมันมีความสุขในแบบของมันดีกว่านะ

4. คิดว่าตัวเองอ้วนอยู่ตลอดเวลา

ในขณะที่คนอื่นทักคุณว่าผอมลงนะ ผอมไปหรือเปล่า? คุณกลับเห็นตัวเองในกระจกว่าอ้วนหนักมาก ไม่มีส่วนไหนที่ผอมน่าพอใจเลย ยิ่งส่องกระจกยิ่งเครียด ไม่อยากกินอะไร เพราะกลัวจะทำให้อ้วนหนักกว่าเดิม อย่าให้ถึงขั้นนั้น ควรมีลิมิต ตั้งเป้าหมายว่าอยากให้ตัวเองไปถึงจุดไหน เมื่อถึงแล้วก็ควรพอ และหมั่นออกกำลังกายให้พอดี ไม่ต้องโหมทุกวัน และเลือกกินในสัดส่วนที่ของมีประโยชน์มากกว่าของไม่มีประโยชน์ เท่านี้ก็แฮปปี้แล้ว

5. ทุกครั้งหลังกินข้าวจะรู้สึกอยากอาเจียน

ไม่มีความสุขกับการกินอีกต่อไป เพราะต้องมานั่งคำนวณว่า อันนี้กี่แคล อันนี้กินเยอะไม่ได้ กินได้แค่คำเดียวนะ ห้ามกินอันนี้มันเยอะกิจกรรมที่เคยทำแล้วมีความสุขกับเพื่อนๆ เป็นสิ่งที่คุณไม่อยากทำอีกต่อไป หนักสุดคือกินแล้วรู้สึกผิด อยากจะอาเจียนออกมาให้หใด นี่คือสัญญาณที่อันตรายมากๆแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์ด่วนๆ จำไว้ว่า ความสุขของชีวิตคือการได้ใช้ชีวิตของตัวเอง และนั่นก็รวมเรื่องกินด้วย

เทคนิคกินคลีนให้แฮปปี้ >> คลิก

รูปภาพและเรียบเรียงโดย : Women MThai Team