วัดสวยน่านอีกหนึ่งแห่งที่มีตำนานเล่าขาน และเป็นที่มาของพระประธานเบี่ยงซ้ายแห่งเดียวในไทย นั่นคือ วัดหัวข่วง จ.น่าน ที่หากคุณอยากให้ชีวิตสุขสงบ ไม่ต้องทะเลาะเบาะแว้ง ขัดแย้งมีเรื่องมีราวกับใคร รวมไปถึงการง้อขอคืนดีคนรัก คนใกล้ชิด ก็ให้มากราบพระประธานที่นี่ค่ะ
วัดนี้ตั้งอยู่ริมถนนมหาพรหม ตำบลในเวียง เป็นวัดที่มีความสำคัญในเขตหัวแหวนเมืองน่าน วิหารและเจดีย์มีลักษณะศิลปกรรมแบบท้องถิ่นล้านนา สกุลช่างเมืองน่าน ฝีมือประณีตงดงาม วัดนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด มีเพียงหลักฐานว่าได้รับการบูรณะในราว พ.ศ. 2425 โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองน่าน และต่อมาราวปี พ.ศ. 2472 ในสมัยเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองน่านองค์สุดท้าย จนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2533 กรมศิลปากรได้ส่งเจ้าหน้าที่มาบูรณะเจดีย์วัดหัวข่วง และประกาศเป็นโบราณสถานของชาติ
พระประธานเบี่ยงซ้าย แห่งเดียวในไทย วัดหัวข่วง จ.น่าน
วิหารวัดหัวข่วง เป็นอาคารทรงจั่วมีหน้าบันประดับลวดลายไม้จำหลักรูปพรรณพฤกษา ประตูหน้าต่างประดับลายปูนปั้นคล้ายกับใบผักกาดเลียนแบบศิลปะตะวันตก แสดงว่าในยุคนั้นได้มีการติดต่อกับชาวตะวันตกแล้ว ทำให้วิหารที่นี่ค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่น ภายในวิหารเองยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม พระพุทธรูปปางมารวิชัย ลักษณะพุทธศิลป์แบบล้านนา และยังเป็นพระประธานเบี่ยงซ้ายแห่งเดียวในไทย
เมื่อเข้าสู่ภายในวิหารแล้วลองมองไปตรง ๆ จะเห็นได้ชัดเลยว่าพระประธานไม่ตรงกับประตูวิหาร ซึ่งเหตุที่ว่าทำไมพระประธานต้องเบี่ยงซ้าย นั่นก็เป็นเพราะตามตำนานเรื่องเล่าของชาวน่านเล่าว่า
สมัยก่อนชาวบ้านคุ้มวัดหัวข่วงกับชาวบ้านคุ้มวัดภูมินทร์ทะเลาะกัน ไม่สามารถปรองดองกันได้ จนในที่สุดผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 คุ้ม (คุ้ม แปลว่า หมู่บ้าน) ได้เห็นว่าพระประธานของวัดหัวข่วงและวัดภูมินทร์นั้นหันหน้าเผชิญกัน เพื่อให้เกิดความสงบสุข วัดหัวข่วงจึงยอมขยับพระประธานให้เบี่ยงมาทางด้านซ้าย หลังจากนั้นชาวบ้านทั้ง 2 คุ้มก็เป็นมิตรกันและสงบสุขเรื่อยมา
นับเป็นเวลา 500 กว่าปีแล้ว จนถึงปัจจุบันพระประธานไม่ได้ถูกขยับไปไหนอีกเลย ชาวบ้านจึงถือว่าเป็นพระประธานแห่งสันติภาพและเชื่อกันว่า เมื่อมากราบไหว้พระประธานก็จะพบกับความสันติสุข ใครที่ทะเลาะกัน คู่รักที่บาดหมางกัน มาไหว้พระที่นี่ก็อาจจะคืนดีกันได้
คาถาบูชาดอกไม้ ธูป เทียน
ตั้ง นะโม 3 จบ
อิมานิ มะยัง ภันเต ทีปะธูปะบุปผะวะรานิ ระตะนะต ตะยัสเสวะ
อะภิปูเชมะ อัมหากัง ระตะนัตตะยัสสะ ปูชา ทีฆะรัตตัง หิตะสุขาวะหา
โหตุ อาสะวักขะยัปปัตติยา ฯ
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอบูชา ธูป เทียน และดอกไม้ อันประเสริฐเหล่านี้แด่พระรัตนตรัย
กิริยาที่บูชาแด่พระรัตนตรัยนี้ จงเป็นผลที่นำมาซึ่งประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าตลอดกาลนาน
จงเป็นไปเพื่อให้ถึงซึ่งพระนิพพานเป็นที่สิ้นไปแห่งอาสวะกิเลสเทอญ
หอธรรมวัดหัวข่วงหรือหอไตร เป็นอาคารที่มีลักษณะทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุขใต้ถุนก่อทึบทรงสี่เหลี่ยมยอดเป็นรูปเต้าสลักลายลงรักปิดทองประดับกระจก ใช้เป็นสถานที่เก็บคัมภีร์โบราณและพระไตรปิฏก
เจดีย์วัดหัวข่วง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาท หรือ เรือนทอง ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปกรรมล้านนา ฐานล่างทำเป็นหน้ากระดานสี่เหลี่ยมรับฐานบัวลูกแก้ว 2 ชั้น มีชั้นหน้ากระดานคั่นกลางฐานบัวแก้ว ชั้นบนยอเก็จรับเรือนธาตุไปจรดชั้นบัวถลาใต้องค์ระฆัง ส่วนเรือนธาตุมีซุ้มจรนัมด้านละซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสำริด มุมผนังทั้งสองข้างปั้นเป็นรูปเทวดาทรงเครื่องยืนพนมมือ เหนือชั้นอัสดงตอนสุดเรือนธาตุเป็นชั้นบัวถลาซ้อนกัน 3 ชั้น องค์ระฆังมีขนาดเล็ก ไม่มีบัลลังก์ ลักษณะของรูปทรงโดยส่วนรวมคล้ายกับเจดีย์วัดโลกโมฬี อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างรัชกาลพระเมืองเกษเกล้า ปีพ.ศ. 2071 แต่ส่วนฐานล่างและชั้นบัวถลาของเจดีย์สูงขึ้นทำให้มีลักษณะเรียวสูงกว่า แสดงถึงพัฒนาการทรงรูปแบบที่ชาวเมืองน่านดัดแปลงนำมาใช้ระยะหลัง ซึ่งมีอายุไม่เก่าไปกว่าครึ่งแรกของพุทธทศวรรษที่ 224
ในปีพ.ศ. 2554 คุณบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย ได้บริจาคเงินจำนวน 2,300,000 บาท เพื่อทำการบูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาทรงประกอบพิธียกช่อฉัตรเจดีย์วัดหัวข่วง เมื่อวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555
ภาพโดย อ.ณัฐ
ที่อยู่ : 77 ถนนมหาพรหม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน 55000
Google map : https://maps.app.goo.gl/WbcRrttvdDSYfWV2A
เวลาทำการ : 06.00 น. – 18.00 น.
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ไหว้พระ 5 วัดเมืองน่าน เอกลักษณ์ล้านนา เสน่ห์แดนเหนือ
วัดมิ่งเมือง กราบเสาหลักเมืองน่าน ขอพรแคล้วคลาด ปลอดภัย
เชอรี่ เข็มอัปสร คนงามเมืองน่าน นุ่งซิ่นคำเคิบเที่ยววัด