หากจะพูดถึงพิธีกรรมในประเทศไทย พิธีบูชา ปู่แสะ ย่าแสะ ก็เป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมที่สืบทอดกันมากว่า 200 ปี ด้วยมีความเชื่อว่าหากปีไหนไม่จัดพิธีบูชา จะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ขาดหาย ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล!
![ปู่แสะ ย่าแสะ](https://img-ha.mthcdn.com/Q74-Bmg2qDzfD7k1tn65eQOxK8w=/mthai.com/app/uploads/2023/06/01_northen_traditional_thailand_66.jpg)
ปู่แสะ ย่าแสะ พิธีบูชายักษ์
ปู่แสะ ย่าแสะ เป็นตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงยักษ์สองผัวเมีย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นเค้าบรรพบุรุษของชาวลัวะ ที่ได้กลายมาเป็นผู้พิทักษ์รักษาเมืองเชียงใหม่ โดยตำนานปู่แสะย่าแสะมีปรากฏทั้งในเอกสารโบราณ เช่น ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ตำนานเชียงใหม่ปางเดิม ธรรมตำนานวัดนันทาราม รวมถึงเอกสารร่วมสมัย เช่น ตำนานพระธาตุดอยคำ นอกจากนี้ยังปรากฏเป็นมุขปาฐะสำนวนชาวบ้าน ซึ่งมักมีเนื้อหาพิสดารออกไป
ทุกตำนานให้ความสำคัญกับปู่แสะย่าแสะในฐานะที่เป็น “เก๊าผี” หรือ ต้นตระกูลของผีที่สำคัญทั้งปวงของเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากมีลูกมากถึง 32 ตน บรรดาลูก ๆ เช่น เจ้าหลวงคำแดง ผู้เป็นใหญ่ในผีทั้งปวงของล้านนา เจ้าสร้อยดูแลรักษาเมืองแม่แจ่ม (อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่) เจ้าบัวระพาดูแลรักษาเมืองแหง (อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่) เจ้าสมภะมิตรดูแลรักษาดง แม่คะนิล (อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่) ฯลฯ การที่ปู่แสะย่าแสะเคยเป็นยักษ์มาก่อนจึงขออนุญาตต่อพระพุทธเจ้า ที่จะกินสัตว์ตามสัญชาติญาณยักษ์ ความเชื่อดังกล่าวนำมาสู่การฆ่าควายเพื่อเซ่น สังเวยปู่แสะย่าแสะ
ตำนานยักษ์ผู้พิทักษ์นครเชียงใหม่
เมืองระมิงค์นคร หรือบุพพนครเป็นเมืองของชนชาติลัวะ ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำปิงและดอยอ้อยช้าง มียักษ์ 3 ตน พ่อแม่ลูก จับชาวเมืองไปกินทุก ๆ วัน จนชาวเมืองต้องหนีออกจากเมือง ต่อมาพระพุทธเจ้ารับรู้ถึงความเดือดร้อนของชาวลัวะในเมืองระมิงค์นคร จึงได้เสด็จมาโปรดเพื่อแสดงอภินิหารและแสดงธรรม ปรากฏว่ายักษ์สามตนนั้นเกิดความเลื่อมใส และให้ยักษ์ทั้งสามตนสมาทานศีลห้าสืบไป แต่ยักษ์ทั้งสามตนได้ทูลขอกับพระพุทธเจ้าว่า พวกตนเป็นยักษ์ต้องประทังชีวิตด้วยการกินเนื้อมนุษย์ หากมิได้ก็ขอกินเนื้อสัตว์จึงได้ขอพระพุทธเจ้ากินควายปีละ 1 ตัว แต่พระพุทธองค์ไม่ตอบอะไร ยักษ์ทั้งสามตนจึงได้ไปขอกับเจ้าเมืองลัวะ ซึ่งทางเจ้าเมืองก็ได้นำควายมาเซ่นสังเวยให้ปีละ 1 ตัว โดยตั้งข้อแม้ว่า ยักษ์ต้องรักษาพระพุทธศาสนาให้ครบ 5,000 ปี ตลอดจนปกปักรักษาชาวเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข
![ปู่แสะ ย่าแสะ](https://img-ha.mthcdn.com/a6i3ElMZeJOPsfBRbocgyMtZ9uw=/mthai.com/app/uploads/2023/06/03_northen_traditional_thailand_66.jpg)
พระพุทธเจ้าได้มอบหมายให้ยักษ์สองผัวเมียดูแลรักษาดอยคำและดอยอ้อยช้าง ส่วนลูกยักษ์ได้บวชเป็นพระภิกษุ ต่อมาลาสิกขาออกมาถือเพศเป็นฤๅษี มีนามว่า สุเทพฤๅษี ส่วนดอยอ้อยช้าง (ดอยสุเทพ) สุเทพฤๅษีได้บำเพ็ญพรตอยู่ที่ถ้ำฤๅษีหลังดอยสุเทพ (ปัจจุบันปรากฏร่องรอยของบ่อน้ำ ชาวบ้านเรียกกันว่า บ่อฤๅษี) ภายหลังปู่แสะย่าแสะได้สิ้นอายุขัยแล้วแต่ชาวเมืองระมิงค์นครยังคงเกรงกลัวอิทธิฤทธิ์ และต้องการให้วิญญาณปู่แสะย่าแสะช่วยรักษาพระศาสนาและปกป้องคุ้มครองชาวเมือง จึงจัดให้มีพิธีเซ่นสรวงหรือประเพณีเลี้ยงผีดงเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 เหนือ (เป็งเดือนเก้า) และชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะชาวบ้านแม่เหียะ ยังเชื่อว่ายักษ์ทั้งสองยังคงสถิตอยู่ในป่าทั้งสองดอย มีดอยคำ และดอยสุเทพ ให้ฝนตกตามฤดูกาลชาวบ้านทำเกษตรได้ผลดี
ความเชื่อต่อพิธีบูชาปู่แสะ – ย่าแสะ
![ล้มควาย](https://img-ha.mthcdn.com/M8_lfvSsIek_gFEy4KOvkwu9KsQ=/mthai.com/app/uploads/2023/06/02_northen_traditional_thailand_66.jpg)
การบูชาปู่แสะ – ย่าแสะในจังหวัดเชียงใหม่นั้น เป็นพิธีสืบทอดรุ่นสู่รุ่นกันมากว่า 200 ปี ในทุกวันที่ 14 ค่ำ เดือน 9 เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะทำให้การเกษตรมีความอุดมสมบูรณ์ น้ำดี ดินดี มีกินมีใช้ตลอดทั้งปี ไม่แห้งแล้ง โดยการทำพิธีบูชาปู่แสะ – ย่าแสะ คือการล้ม ควายตัวใหญ่ แล้วร่างทรงของปู่แสะ – ย่าแสะ กินเลือดและเนื้อควายสดๆ เพื่อเป็นการเซ่นไหว้ต่อยักษ์ผู้พิทักษ์ทั้งสองท่าน
ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมทั้งคนไทยและคนต่างชาติกว่า 3,000 คน หากใครมีโอกาสไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วตรงกับเทศกาลบูชาปู่แสะ – ย่าแสะ ก็อย่าลืมหาเวลาแวะเข้าไปร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลกันด้วยนะ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Nuttapong Punjaburi
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
5 จุดเช็กอินวัดสวยเชียงใหม่ มูเตลูเรื่องคู่ ปีนี้รักพี่ต้องปัง!
สวยดั่งต้องมนต์สะกด “วัดหลวงขุนวิน” วัดเก่าแก่กลางป่าลึกอายุกว่า 700 ปี