ประเพณีเลี้ยงผีดง ปู่แสะ - ย่าแสะ พิธีบูชายักษ์

ปู่แสะ ย่าแสะ ตำนานบูชายักษ์ผู้พิทักษ์เชียงใหม่กว่า 200 ปี

พิธีบูชา ปู่แสะ ย่าแสะ ก็เป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมที่สืบทอดกันมากว่า 200 ปี ด้วยมีความเชื่อว่าหากปีไหนไม่จัดพิธีบูชา จะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ขาดหาย ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล!

Home / เชียงใหม่ / ปู่แสะ ย่าแสะ ตำนานบูชายักษ์ผู้พิทักษ์เชียงใหม่กว่า 200 ปี

หากจะพูดถึงพิธีกรรมในประเทศไทย พิธีบูชา ปู่แสะ ย่าแสะ ก็เป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมที่สืบทอดกันมากว่า 200 ปี ด้วยมีความเชื่อว่าหากปีไหนไม่จัดพิธีบูชา จะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ขาดหาย ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล!

ปู่แสะ ย่าแสะ

ปู่แสะ ย่าแสะ พิธีบูชายักษ์

ปู่แสะ ย่าแสะ เป็นตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงยักษ์สองผัวเมีย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นเค้าบรรพบุรุษของชาวลัวะ ที่ได้กลายมาเป็นผู้พิทักษ์รักษาเมืองเชียงใหม่ โดยตำนานปู่แสะย่าแสะมีปรากฏทั้งในเอกสารโบราณ เช่น ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ตำนานเชียงใหม่ปางเดิม ธรรมตำนานวัดนันทาราม รวมถึงเอกสารร่วมสมัย เช่น ตำนานพระธาตุดอยคำ นอกจากนี้ยังปรากฏเป็นมุขปาฐะสำนวนชาวบ้าน ซึ่งมักมีเนื้อหาพิสดารออกไป

ทุกตำนานให้ความสำคัญกับปู่แสะย่าแสะในฐานะที่เป็น “เก๊าผี” หรือ ต้นตระกูลของผีที่สำคัญทั้งปวงของเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากมีลูกมากถึง 32 ตน บรรดาลูก ๆ เช่น เจ้าหลวงคำแดง ผู้เป็นใหญ่ในผีทั้งปวงของล้านนา เจ้าสร้อยดูแลรักษาเมืองแม่แจ่ม (อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่) เจ้าบัวระพาดูแลรักษาเมืองแหง (อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่) เจ้าสมภะมิตรดูแลรักษาดง แม่คะนิล (อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่) ฯลฯ การที่ปู่แสะย่าแสะเคยเป็นยักษ์มาก่อนจึงขออนุญาตต่อพระพุทธเจ้า ที่จะกินสัตว์ตามสัญชาติญาณยักษ์ ความเชื่อดังกล่าวนำมาสู่การฆ่าควายเพื่อเซ่น สังเวยปู่แสะย่าแสะ

ตำนานยักษ์ผู้พิทักษ์นครเชียงใหม่

เมืองระมิงค์นคร หรือบุพพนครเป็นเมืองของชนชาติลัวะ ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำปิงและดอยอ้อยช้าง มียักษ์ 3 ตน พ่อแม่ลูก จับชาวเมืองไปกินทุก ๆ วัน จนชาวเมืองต้องหนีออกจากเมือง ต่อมาพระพุทธเจ้ารับรู้ถึงความเดือดร้อนของชาวลัวะในเมืองระมิงค์นคร จึงได้เสด็จมาโปรดเพื่อแสดงอภินิหารและแสดงธรรม ปรากฏว่ายักษ์สามตนนั้นเกิดความเลื่อมใส และให้ยักษ์ทั้งสามตนสมาทานศีลห้าสืบไป แต่ยักษ์ทั้งสามตนได้ทูลขอกับพระพุทธเจ้าว่า พวกตนเป็นยักษ์ต้องประทังชีวิตด้วยการกินเนื้อมนุษย์ หากมิได้ก็ขอกินเนื้อสัตว์จึงได้ขอพระพุทธเจ้ากินควายปีละ 1 ตัว แต่พระพุทธองค์ไม่ตอบอะไร ยักษ์ทั้งสามตนจึงได้ไปขอกับเจ้าเมืองลัวะ ซึ่งทางเจ้าเมืองก็ได้นำควายมาเซ่นสังเวยให้ปีละ 1 ตัว โดยตั้งข้อแม้ว่า ยักษ์ต้องรักษาพระพุทธศาสนาให้ครบ 5,000 ปี ตลอดจนปกปักรักษาชาวเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข

ปู่แสะ ย่าแสะ

พระพุทธเจ้าได้มอบหมายให้ยักษ์สองผัวเมียดูแลรักษาดอยคำและดอยอ้อยช้าง ส่วนลูกยักษ์ได้บวชเป็นพระภิกษุ ต่อมาลาสิกขาออกมาถือเพศเป็นฤๅษี มีนามว่า สุเทพฤๅษี ส่วนดอยอ้อยช้าง (ดอยสุเทพ) สุเทพฤๅษีได้บำเพ็ญพรตอยู่ที่ถ้ำฤๅษีหลังดอยสุเทพ (ปัจจุบันปรากฏร่องรอยของบ่อน้ำ ชาวบ้านเรียกกันว่า บ่อฤๅษี) ภายหลังปู่แสะย่าแสะได้สิ้นอายุขัยแล้วแต่ชาวเมืองระมิงค์นครยังคงเกรงกลัวอิทธิฤทธิ์ และต้องการให้วิญญาณปู่แสะย่าแสะช่วยรักษาพระศาสนาและปกป้องคุ้มครองชาวเมือง จึงจัดให้มีพิธีเซ่นสรวงหรือประเพณีเลี้ยงผีดงเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 เหนือ (เป็งเดือนเก้า) และชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะชาวบ้านแม่เหียะ ยังเชื่อว่ายักษ์ทั้งสองยังคงสถิตอยู่ในป่าทั้งสองดอย มีดอยคำ และดอยสุเทพ ให้ฝนตกตามฤดูกาลชาวบ้านทำเกษตรได้ผลดี

ความเชื่อต่อพิธีบูชาปู่แสะ – ย่าแสะ

ล้มควาย

การบูชาปู่แสะ – ย่าแสะในจังหวัดเชียงใหม่นั้น เป็นพิธีสืบทอดรุ่นสู่รุ่นกันมากว่า 200 ปี ในทุกวันที่ 14 ค่ำ เดือน 9 เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะทำให้การเกษตรมีความอุดมสมบูรณ์ น้ำดี ดินดี มีกินมีใช้ตลอดทั้งปี ไม่แห้งแล้ง โดยการทำพิธีบูชาปู่แสะ – ย่าแสะ คือการล้ม ควายตัวใหญ่ แล้วร่างทรงของปู่แสะ – ย่าแสะ กินเลือดและเนื้อควายสดๆ เพื่อเป็นการเซ่นไหว้ต่อยักษ์ผู้พิทักษ์ทั้งสองท่าน

ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมทั้งคนไทยและคนต่างชาติกว่า 3,000 คน หากใครมีโอกาสไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วตรงกับเทศกาลบูชาปู่แสะ – ย่าแสะ ก็อย่าลืมหาเวลาแวะเข้าไปร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลกันด้วยนะ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Nuttapong Punjaburi

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

5 จุดเช็กอินวัดสวยเชียงใหม่ มูเตลูเรื่องคู่ ปีนี้รักพี่ต้องปัง!

สวยดั่งต้องมนต์สะกด “วัดหลวงขุนวิน” วัดเก่าแก่กลางป่าลึกอายุกว่า 700 ปี

วัดผาลาด วัดสวยกลางป่า พิกัดดอยสุเทพ เชียงใหม่