Omicron โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอมิครอน

รายงานข่าวย้อนหลังเกี่ยวกับโควิด-19 โอไมครอน

รวมประเด็นข่าวย้อนหลังรายวัน สำหรับการพบโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

Home / โควิด-19 / รายงานข่าวย้อนหลังเกี่ยวกับโควิด-19 โอไมครอน

สรุปรายงานประจำวันย้อนหลังการพบโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์โอไมครอน หลัง WHO ประกาศยกระดับให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล

>>> เช็คข่าวโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนล่าสุดได้ที่นี่ พร้อมตารางรายงานยอดผู้ติดเชื้อ

28 ธ.ค.

  • สหรัฐฯ เร่งระดมเจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อเร่งจำกัดวงการระบาดให้ได้มากที่สุด ในขณะที่ได้กำหนดมาตรการการกักตัวที่บ้านสำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ โดยให้กักตัวที่บ้านเป็นเวลา 5 วัน ลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ 10 วัน
  • ฝรั่งเศส ยกระดับมาตรการเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ 3 ม.ค. นี้ ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มในที่สาธารณะอย่างโรงหนัก โรงละคร การแข่งขันกีฬา ขนส่งสาธารณะ, จำกัดการวมกลุ่มทั้งกลางแจ้งและในร่วม สำหรับงานอีเวนท์ ฯลฯ
  • มาเก๊า รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รายแรก เป็นชาวมาเก๊าที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา
  • อินเดีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจำนวน 52 รายในเดลี ไม่มีประวัติการเดินทาง หรือเชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายอื่นก่อนหน้านี้ ทำให้จำเป็นต้องเร่งการสอบสวนโรคเพิ่มเติม เพื่อจำกัดวงของการระบาดให้ได้เร็วที่สุด

    ซึ่งผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พบในอินเดีย ส่วนใหญ่พบว่า มีค่า CT ต่ำกว่า 25 ซึ่งแสดให้เป้นหว่า มีโอกาสที่จะเกิดการระบาดได้ง่าย

27 ธ.ค.

  • ออสเตรเลีย รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นชาย อายุ 80 ปี ติดเชื้อในสถานดูแลผู้สูงอายุ โดยมีประวัติการได้รับวัคซีนครบ
  • เกาหลีใต้ รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 69 รายรวมเป็น 445 รายแล้ว โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยนำเข้า ( Imported Case) 181 ราย และเป็นการติดเชื้อในชุมชน 264 ราย
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในชุมชนเพิ่มขึ้น ซึ่งในขณะนี้ทางการญี่ปุ่นพบผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอน 58 ราย ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในโตเกียว โอซาก้า เกียวโต ไอจิ ฟุกุโอกะ ที่เป็นการพบผู้ป่วยโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน ที่ไม่มีประวัติการเดินทาง ไม่มีประวัติเชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายก่อนหน้าแต่อย่างใด และเป็นเคสที่ไม่สามารถหาความเชื่อมโยงใด ๆ ได้เลย

    นอกจากนี้ แนวโน้มของการพบผู้ป่วยในกลุ่มที่ไม่สามารถหาความเชื่อมโยงได้นี้ เริ่มมีมากขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ทางการญี่ปุ่น จำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมและระบุว่า อาจจะมีการยกระดับมาตรการป้องกันเพิ่ม หากการระบาดพุ่งสูงขึ้น
  • สิงคโปร์ หลังจากที่มีรายงานการพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่ไม่สามารถหาความเชื่อมโยงมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่จากข้อมูลต่าง ๆ ทางการสิงคโปร์ระบุว่า จะมีการปรับมาตรการให้ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เข้ารักษาตัวที่บ้านได้ เนื่องจากแม้ว่าอัตราการแพร่เชื้อจะสูง แต่ระดับความรุนแรงที่น้อยกว่า
  • กัมพูชา รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว รวม 31 ราย โดยทั้งหมดยังคงเป็นผู้ป่วยนำเข้า (Imported Case) และทางการกัมพูชาระบุว่า ยังคงไม่พบการติดเชื้อในชุมชน
  • สหรัฐฯ จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางการพบการระบาดของโควิด19 สายพันธุ์โอมิครอนที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ระบบสาธารณสุขของสหรัฐฯ เริ่มต้องเตรียมพร้อมรับมือการระบาดที่จะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง หลายพื้นที่ต้องเรียกเจ้าหน้าที่ของ National Guard เข้ามาเสริม เพื่อลดความตึงเครียดโรงพยาบาล

26 ธ.ค.

  • อิสราเอล ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนพุ่งหลังพบติดเชื้อในสถานดูแลผู้สูงอายุ โดยพบเพิ่มอีก 591 ราย และมีผู้ที่สงสัยว่าอาจจะติดเชื้อในสายพันธุ์นี้อีก 861 ราย

    ทางการอิสราเอลยกระดับมาตรการ และออกประกาศเตือนประชาชนว่ากำลังเผชิญกับคลื่นลูกที่ 5 ของการระบาดหลังยอดผู้ป่วยโควิด-19 กลับพาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง และคาดว่า อิสราเอลอาจจะเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยระดับ 1 หมื่นราย ต่อวันในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
  • สหรัฐฯ – ยุโรป บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่กำลังเผชิญกับความตึงเครียดอีกครั้งหลังผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก หลายโรงพยาบาลต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น บางแห่งสูงถึง 16 ชม./วัน
  • ญี่ปุ่น รายงานยืนยันการพบการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในโอซาก้า พบการระบาดในชุมชนแล้ว หลังจากที่พบผู้ป่วย 2 รายที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ไม่มีประวัติการเดินทาง และเชื่อมโยงกับเคสผู้ป่วยรายก่อนหน้า
  • มาเลเซีย รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 49 ราย รวมเป็น 62 ราย โดยเกือบทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ในขณะที่มี 1 รายที่รัฐซาราวัก เป็นชาวจีน อายุ38 ปี ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน จึงอยู่ในระหว่างการเร่งสอบสวนโรค เพื่อหาที่มาของการติดเชื้อต่อไป
  • ไต้หวัน รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 24 ราย รวมสะสม 27 ราย โดยผู้ป่วยทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้งหมดมีประวัติการฉีดวัคซีนครบถ้วนทุกราย ซึ่งพบมากที่สุดคือ ผู้ที่เดินทางมาจากสหรัฐฯ จำนวน 12 ราย
  • อินโดนีเซีย รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 11 ราย รวมเป็น 19 ราย โดยทั้งหมดเป็นผู้ที่เดนิทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักตัวทั้งหมด ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจาก ตุรกี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และซาอุฯ
  • สิงคโปร์ รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน สะสม 448 ราย แล้ว โดยมี 79 รายที่เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ ซึ่งมี 10 รายที่เป็นการพบการเชื่อมโยงจากบาร์แห่งหนึ่งในถนนริเวอร์วัลเลย์ ของสิงคโปร์

    ซึ่งเคสแรกที่พบเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และไปร่วมพบปะกับเพื่อนในบาร์ดังกล่าว ก่อนพบว่า มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นกลายเป็นคลัสเตอร์

25 ธ.ค.

  • ไทย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 51 ราย รวมเป็น 205 รายแล้ว โดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนผู้ป่วยในประเทศ 25 ราย ที่ติดเชื้อมาจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นอีก 26 ราย โดย 16 รายเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ในขณะที่อีก 10 ราย พบในเกียวโต, โตเกียว, โอซากา และยามากูจิ

    โดยเฉพาะในโตเกียว ทางการญี่ปุ่นระบุว่า เป็นการระบาดในชุมชนแล้ว เช่นเดียวกับในเกียวโตที่พบ 3 ราย ซึ่งไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ และยังไม่สามารถหาความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายอื่นได้

    ส่วนที่โอซาก้า พบว่าเป็นการติดเชื้อมาจากผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และในจังหวัดยากมากูจิ พบ ชาวญี่ปุ่นติดเชื้อจำนวนหนึ่งราย ซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานในฐานทัพอากาศสหรัฐฯ อิวาคุนิ
  • สหราชอาณาจักร ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่พบเพิ่มยังคงทำสถิตินิวไฮ โดยเพิ่มอีก 122,186 ราย โดยพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ยืนยันผลตรวจสายพันธุ์แล้ว เป็นจำนวน 23,719 ราย
  • ยุโรป หลายประเทศยกระดับมาตรการเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 เพิ่มขึ้นหลังจากยอดผู้ป่วยโควิด-19 ทำสถิติสูงที่สุดอย่างต่อเนื่อง และมีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมากขึ้น เช่น
    • ฝรั่งเศส จำกัดการเดินทางจากสหราชอาณาจักร, ประกาศงดการรวมกลุ่ม, งดจัดกิจการส่งท้ายปีใหม่-คอนเสิร์ต-จุดพลุ รวมถึงงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะด้วย
    • สเปน ประกาศยกระดับมาตรการบังคับสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะ บางรัฐได้มีการห้ามจัดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น, ในคาตาโลเนีย ประกาศเคอร์ฟิวส์ช่วงกลางคืน จำกัดการรวมกลุ่ม
    • อิตาลี ปิดไนท์คลับ งดรับประทานอาหารในพื้นที่สาธารณะ สั่งสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะ กำหนดใช้งาน covid passport
    • เนเธอแลนด์ ล็อกดาวน์เข้มงวด ห้ามการรวมกลุ่ม ยกเว้นวันคริสมาส และปีใหม่
    • เบลเยียม ยกเลิกกิจกรรมที่จัดในพื้นที่ในร่ม งดให้บริการโรงภาพยนตร์ โรงละคร รวมถึงสวนสาธารณะ สวนสัตว์ ยกเว้นการจัดงานแต่งงาน งานศพ
    • เยอรมนี ยกระดับมาตรการเข้มงวด กำหนดห้ามรวมกลุ่มเกิน 10 คน สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว มีผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนร่วมได้ไม่เกิน 2 คน ทั้งในพื้นที่กลางแจ้งหรือในร่ม

24 ธ.ค.

  • ญี่ปุ่น เตือนประชาชนถึงความาสมารถในการระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และอาจจะทำให้จำนวนผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลได้ เนื่องจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วในระยะเวลาสั้น ๆ

    โดยญี่ปุ่นยืนยันการติดเชื้อในชุมชน แบบที่ไม่ทราบที่มาของการติดเชื้อหรือหาความเชื่อมโยงได้แล้ว ในโอซาก้า และอีกหนึ่งเคสในเกียโต ที่ยังคงไม่สามารถหาที่มาหรือติดตามหาความเชื่อมโยงกับการติดเชื้อได้

    ซึ่งยอดรวมผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในญี่ปุ่นอยู่ที่ 200 ราย เพิ่มขึ้น 40 ราย โดยในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยในประเทศ 7 ราย

  • อิตาลี ยกระดับมาตรการป้องกันการระบาดเพิ่มเติม โดยกำหนดให้มีการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ กรณีเข้าสนามกีฬา, โรงภาพยนตร์, พิพิธภัณฑ์ รวมถึงขนส่งสาธารณะให้สวมหน้ากากสองชั้น รวมถึงการสั่งปิดไนท์คลับ, การห้ามรับประทานอาหารในที่สาธารณะด้วย

  • เยอรมนี รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเสียชีวิตเป็นรายแรก โดยเป็นผู้ป่วยในกลุ่มผู้สูงอายุ และในขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ 48 ราย ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

  • สหรัฐฯ นักวิจัยคาดว่า การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะมีผู้ป่วยสูงที่สุดในช่วงเดือนมกราคม และค่อย ๆ ลงไปลงในช่วงเดือนมีนาคม 65

23 ธ.ค.

  • องค์การอนามัยโลก เตือนการเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในหลายประเทศที่ร่ำรวย ทำให้ส่งผลกระทบกับการกระจายวัคซีนให้กับประเทศที่ยากจน ที่ต้องเผชิญความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในประเทศที่ยากจนยังมีต่อไป และทำให้การต่อสู้กับโควิด-19 ของทั้งโลกยังเป็นไปได้ยากขึ้น

    นอกจากนี้ การกักตุนวัคซีนไว้เป็นจำนวนมาก และไม่สามารถกระจายใช้งานได้ทัน ทำให้จำเป็นต้องมีการทำลายวัคซีนเป็นจำนวนมาก เช่นในประเทศไนจีเรียจำเป็นต้องทำลายวัคซีนจำนวนกว่าล้านโดส เนื่องจากหมดอายุ
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยจำนวน 3 รายในโอซากา ติดเชื้อโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอน โดยไม่พบความเชื่อมโยงใดๆ กับเคสผู้ป่วยก่อนหน้า หรือแม้แต่ประวัติการเดินทาง ที่คาดว่าจะทำให้ติดเชื้อได้

    ทำให้ทางการญี่ปุ่นกังวล ต่อการระบาดที่เกิดขึ้นในชุมชน ที่ไม่สามารถติดตามที่มาที่ไปของเชื้อได้ และอาจจะกลายเป็นการระบาดใหญ่ในที่สุด
  • สหราชอาณาจักร พบว่า การติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนนี้ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการน้อยกว่า สายพันธุ์อื่น ๆ เช่น เดลต้า แต่ความเสี่ยงที่ต้องกังวลเนื่องจาก อัตราการระบาดที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบต่อจำนวนเตียงในโรงพยาบาลที่จะเพิ่มสูงขึ้นได้

    โดยล่าสุด สหราชอาณาจักร พบผู้ป่วยเพิ่มทะลุ 1 แสนราย/วัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19
  • นิวยอร์ก กำลังเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น โดยพบเพิ่มอีกกว่า28,000 ราย หรือเพิ่มขึ้น 1 ใน 3 ทำให้ทางการนิวยอร์กจำเป็นต้องเร่งในการเปิดจุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งค้นหาผู้ป่วย และจำกัดวงการระบาด

    ในขณะที่บางโรงพยาบาลในนิวยอร์กซิตี้ จำเป็นต้องเริ่มจำกัดจำนวนผู้ที่เดินทางมาโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ใช่ผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ ในช่วง 48 ชม. อีกด้วย
  • แอฟริกาใต้ ระบุว่า ในขณะนี้ การระบาดระลอกใหม่ในประเทศกำลังผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว หลังจากจำนวนผู้ป่วยเริ่มลดลงต่อเนื่อง ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง เพราะอาจจะเกิดการระบาดได้อีกครั้งในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะถึงนี้

22 ธ.ค.

  • WHO พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้วอย่างน้อย 106 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในขณะนี้จากรายงานของหลายประเทศพบว่า ทั่วโลกพบผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นเป็น 1.6% จากสัปดาห์ก่อนที่อยู่เพียง 0.4% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน โดยระบุว่า

    สถานการณ์ของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในยุโรปขณะนี้“เรากำลังจะได้เห็นพายุอีกลูกที่กำลังพัดเข้ามา”
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจำนวน 3 ราย โดยพบในโตเกียว2 ราย เป็นหญิงอายุ 40 ปี และเด็กชาย อายุ 10 ปี โดยทั้งคู่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากผู้ป่วยก่อนหน้า ส่วนอีกหนึ่งราย พบที่ไซตามะ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
  • ฝรั่งเศส ระบุว่า ในขณะนี้ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในประเทศราว 1 ใน 3 จะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน
  • อิสราเอล ประกาศเดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ให้กับกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้มีโรคประจำตัว และผู้สูงอายุ

    นอกจากนี้ ยังได้รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เสียชีวิตแล้ว 1 ราย
  • เยอรมัน ยกระดับมาตรการป้องกันมาตรการเพิ่มในช่วงหลังวันคริสต์มาส โดยสั่งปิดไนท์คลับ และห้ามรวมตัวเกิน 10 คน ตั้งแต่ 28 ธ.ค.
  • โปรตุเกส สั่งปิดให้บริการผับ บาร์ ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 64 ถึง 9 ม.ค. 65, จำกัดการวมกลุ่มในพื้นที่โล่ง ไม่เกิน 10 คน และให้ทำงานที่บ้าน
  • สวีเดน เริ่มมาตรการทำงานที่บ้าน, บาร์ – ร้านอาหารให้บริการแบบ sit-down service เท่านั้น, ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนรวมกลุ่มได้ไม่เกิน 8 คน
  • เนเธอร์แลนด์ ยกระดับโดยใช้มาตรการล็อกดาวน์
  • แคนาดา บางรัฐเริ่มออกมาตรการเพิ่ม เช่น บริติท โคลัมเบีย สั่งปิดบาร์ และยิม รวมถึงงดการรวมตัวกันในพื้นที่ในร่ม ตั้งแต่ 22 ธ.ค. ถึง 4 ม.ค.65 ส่วนที่เมืองมอนทรีอัล ในควิเบก ประเทศแคนาดาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 แล้ว

21 ธ.ค.

  • สหรัฐฯ รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเสียชีวิตแล้ว 1 ราย โดยเป็นผู้ที่ไม่ยังไม่ได้รับวัคซีนและเคยป่วยเป็นโควิด-19 มาก่อน โดยอยู่ในรัฐเท็กซัส

    ซึ่งในขณะนี้ มีเพียง 2 จาก 50 รัฐเท่านั้นที่ยังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอน และ CDC สหรัฐฯ ยังระบุว่า ในขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 73% ของผู้ป่วยรายใหม่ในสหรัฐฯ แล้ว

    ผู้ว่าฯ รัฐเคนตักกี ขอให้ประชาชน ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน ก่อนถึงเทศกาลวันหยุดช่วงคริสมาส และปีใหม่ที่กำลังจะถึง เพื่อเป็นการควบคุมการระบาดที่อาจจะเกิดขึ้น
  • สิงคโปร์ เร่งติดตามคลัสเตอร์ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน หลังพบผู้ป่วย 3 รายที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ ผลการสอบสวนโรคเบื้องต้น พบว่า ทั้ง 3 รายมีประวัติการไปยังฟิตเนสแห่งเดียวกัน ที่ศูนย์การค้า Bukit Timah ในช่วง 15-17 ธ.ค. ที่ผ่านมา

    ทำให้ทางการสิงคโปร์เร่งสอบสวนโรคเพิ่มเติม ซึ่งในขณะนี้สิงคโปร์มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้วรวม 71 ราย เป็นผู้ที่มาจากต่างประเทศ 65 ราย และเป็นผู้ป่วยในประเทศ 6 ราย
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 17 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 14 ราย และอีก 3 รายพบที่โอกินาวา, โตเกียว และกุนมะ

    โดยในรายที่พบที่โอกินาวา ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในฐานทัพสหรัฐฯ ส่วนอีก 2 รายนั้นมีประวัติเดินทางมาจากเคนยา และเข้ากักตัวที่บ้าน-โรงแรม
  • ฮ่องกง พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 5 ราย โดยมาจากอิตาลี สหราชอาณาจักร และไนจีเรีย
  • โคลัมเบีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเคสแรก โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จำนวน 3 ราย โดยมาจากสหรัฐฯ และ สเปน
  • ลอนดอน ประกาศยกเลิกงานปีใหม่แล้ว
  • เมืองควิเบก, แคนาดา สั่งงดการเรียน/การสอนในโรงเรียนจนถึง 10 ม.ค. ในขณะที่สถานบันเทิง บาร์ โรงยิม โรงภาพยนตร์ คอนเสิร์ต สปา ปิดให้บริการ และเริ่มมาตรการทำงานที่บ้าน

20 ธ.ค.

  • เอสโตเนีย พบติดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 87 ราย ซึ่งในขณะนี้ 80% ของเอสโตเนีย เป็นการพบการติดเชื้อในประเทศ
  • เกาหลีใต้ ระบุว่า จากประวัติผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอนที่พบเมื่อวานนี้ มี 4 รายที่มีประวัติได้รับวัคซีนที่เป็น Booster dose แล้ว
  • กัมพูชา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 4 รายแล้ว โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากฝรั่งเศส, สหรัฐฯ และเคนยา
  • ญี่ปุ่น ติดตามการระบาดของโควิด-19 คลัสเตอร์สายพันธุ์โอมิครอนในฐานทัพสหรัฐฯ ที่โอกินาวา หลังมีผลการตรวจหาสายพันธุ์ยืนยันแล้ว อย่างน้อย 3 รายเป็นการติดเชื้อในสายพันธุ์โอมิครอน โดยทางการญี่ปุ่น ตรวจยืนยันในผู้ป่วยที่เป็นจนท.ชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในฐานทัพดังกล่าว

    โดยในขณะนี้พบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนกว่า 150 รายแล้ว และเป็นผู้ป่วยรายใหม่ถึง 31 ราย ซึ่งทางการโอกินาวาขอให้ทางกองทัพสหรัฐฯ ทำการตรวจหาสายพันธุ์ในทหารอเมริกันที่เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ด้วย เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลต่อประชาชนชาวญี่ปุ่นในพื้นที่
  • ไซปรัส พบคลัสเตอร์สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศเชื่อมโยงกับผู้ป่วยจำนวน 5 รายแรกที่พบ โดยมีผู้ป่วยเพิ่มอีก 28 ราย ที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดในวงที่ 1 และ 2 ซึ่งกลุ่มผู้ป่วยที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมของโรงเรียน

19 ธ.ค.

  • จังหวัดภูเก็ต พบผู้ป่วยโควิด-19 ที่คาดว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอนทั้งหมด 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด 4 รายแรกมาถึงไทยเมื่อวันที่ 13 พ.ย. และรายที่ 5 ถึงไทยวันที่ 14 ธ.ค. ทั้งหมดอยู่ใน Hospitel ยกเว้นชายไทย ที่ได้ส่งตัวไปรักษาที่ปัตตานีแล้ว ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการส่งตัวอย่างมาตรวจจีโนม เพื่อยืนยันอีกครั้งที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
    • ชาย อายุ 31 ปี ชาวอเมริกัน มาจากอังกฤษ
    • ชาย อายุ 36 ปี ชาวสวีเดน มาจากสวีเดน
    • ชาย อายุ 36 ปี ชาวไทย มาจากซาอุฯ
    • ชาย อายุ 32 ปี ชาวตูนีเซีย มาจากฝรั่งเศส
    • หญิง อายุ 24 ปี ชาวเยอรมัน มาจากอังกฤษ
  • องค์การอนามัยโลก ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนั้นกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยประเทศที่มีรายงานการพบการระบาดในชุมชน จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว ในทุก ๆ 1.5-3 วัน
  • สหราชอาณาจักร พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีกกว่า 1 หมื่น ราย รวมยอดสะสมในขณะนี้เกือบ 25,000 รายแล้ว นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนี้ เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย รวมเป็น 7 รายแล้ว ในขณะที่ยอดผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอนที่เข้า รพ. เพิ่มเป็น 85 ราย
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่ม 13 ราย โดยมีจำนวน 2 รายที่พบที่โอกินาว่า ส่วนที่เหลือเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ คือ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เคนยา มาลาวี ไนจีเรีย แซมเบีย ตูนีเซีย
  • เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่ม 12 ราย รวมสะสม 178 ราย ส่วนใหญ่เป็นการพบการติดเชื้อในประเทศ
  • มาเลเซีย รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 11 ราย จากผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้จำนวน 18 ราย โดยมาจาก สหราชอาณาจักร 3 ราย, สหรัฐฯ 3 ราย, ไนจีเรีย 2 ราย, ซาอุฯ 2 ราย และออสเตรเลีย 1 ราย

    ส่วนผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนอีก 7 รายนั้น ยังรอการตรวจซ้ำอีกครั้งเนื่องจากปริมาณเชื้อมีน้อยทำให้ผลตรวจจีโนมยังไม่ชัดเจนพอ ทำให้ในขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในมาเลเซียแล้ว รวม 13 ราย
  • ออสเตรเลีย พบติดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 119 ราย โดยส่วนใหญ่พบในรัฐนิวเซาท์เวลส์ จำนวน 87ราย จากการระบาดในพื้นที่ที่ยังคงมีการพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • เนเธอร์แลนด์ ยกระดับมาตรการเข้มงวด โดย
    • มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค. นี้ จนถึงวันที่ 14 ม.ค.
    • การรวมกลุ่มในพื้นที่ในร่มได้ไม่เกิน 2 ราย
      (ยกเว้นกรณีผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกันในครอบครัว)
    • ช่วงวันคริสมาสต์และวันปีใหม่ อนุญาตให้รวมตัวกันได้ไม่เกิน 4 คน
      (ยกเว้นกรณีผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกันในครอบครัว)
    • โรงเรียน – กิจกรรมนอกหลักสูตร งดจนถึง 9 ม.ค.
    • ร้านค้าที่ไม่จำเป็น ร้านอาหาร โรงหนัง ปิดให้บริการ
    • กีฬาในร่มงดให้บริกการ ยกเว้นการเรียนว่ายน้ำ การแข่งขันกีฬาจัดได้แต่ต้องไม่มีผู้เข้าชม
    • กิจกรรมส่วนใหญ่จะมีการสั่งระงับการจัดงาน ยกเว้นพิธีศพ

18 ธ.ค.

  • สหราชอาณาจักร พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 3,201 ราย มากกว่าเมื่อวานที่ผ่านมาเป็นเท่าตัว (วานนี้ – 1,691 ราย) ยอดสะสม 14,909 ราย
  • เดนมาร์ก พบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 2,550 ราย ทำให้ยอดสะสมในสายพันธุ์นี้ เกิน 1 หมื่นรายแล้ว
  • อาร์เจนติน่า พบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอน เพิ่ม 453 ราย จากจำนวน 1 รายแรกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากพบการติดเชื้อในประเทศ รวมถึงคลัสเตอร์จนท.สาธารณสุขจำนวน 10 รายที่มีติดเชื้อจากงานเลี้ยงจบการศึกษา

    นอกจากนี้ ยังพบว่า กลุ่มเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอีกกว่า 1 พันราย
  • อิสราเอล พบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอน เพิ่ม 44 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 20 ราย จาก 3 คลัสเตอร์หลัก ทำให้ในขณะนี้มีผู้ป่วยสะสม 134 ราย โดย 92 รายเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว และอีก 42 ราย ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนยังไม่ครบถ้วน
  • สิงคโปร์ พบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอน เพิ่ม 1 ราย เป็นชายอายุ 42 ปี ทำงานที่สนามบินชางงี มีอาการไข้เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ผลตรวจยืนยันสายพันธุ์โอมิครอน

    โดยผู้ป่วยรายนี้ ไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่ระบาด หรือสัมผัสกับผู้โดยสารรายใด เนื่องจากเป็นพนง.ผู้ช่วยเกี่ยวกับการโหลดสัมภาระบนใต้ท้องเครื่อง
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอน เพิ่ม 17 ราย รวมสะสมในขณะนี้ 50 รายแล้ว โดยผลตรวจจีโนมยืนยันเป็นสายพันธุ์ดังกล่าว และเกิดการติดเชื้อในประเทศแล้ว

    นอกจากนี้ ยังพบการผู้ป่วยชาวญี่ปุ่น จำนวน 1 ราย ซึ่งทำงานในฐานทัพสหรัฐฯ ในโอกินาว่าด้วย ในขณะนี้ทางการญี่ปุ่นเร่งสอบสวนที่มาที่ไปเพิ่ม เพื่อยืนยันที่มาของการติดเชื้อในครั้งนี้

    อย่างไรก็ตาม มีรายงานทหารสหรัฐฯ ป่วยด้วยโควิด-19 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจำนวน 99 ราย และกักตัวอยู่ในฐานทัพ หลังจากที่เดินทางมาจากสหรัฐฯ โดยเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ และในขณะนี้ ทางการญี่ปุ่นได้ร้องขอไปยังกองทัพสหรัฐฯ ให้มีการตรวจสายพันธุ์ เนื่องจากทางการญี่ปุ่นไม่สามารถเข้าไปทำการตรวจสอบสายพันธุ์ได้

    นอกจากนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 อีกหนึ่งรายที่ต้องสงสัยว่า ติดเชื้อในสายพันธุ์โอมิครอนก่อนหน้านี้ ก็ได้ผลยืนยันแล้วว่า เป็นสายพันธุ์โอมิครอน และเป็นการติดเชื้อในประเทศ (โตเกียว) ในไทม์ไลน์ พบว่า ผู้ป่วยรายนี้ ได้ไปร่วมชมฟุตบอลที่คานากาวาด้วย ซึ่งนอกจากจะมีผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 10 รายแล้ว ทางการญี่ปุ่นยังต้องเร่งติดตามผู้ชมที่อยู่ในโซนเดียวกันและใกล้กับที่นั่งของผู้ป่วยอีกราว 80 ราย, เพื่อนร่วมงานอีกราว 40 ราย

    โดยในวันดังกล่าวนั้น มีผู้เข้าชมการแข่งขันกว่า 17,000 คน

17 ธ.ค.

  • สหราชอาณาจักร โดยล่าสุด เพิ่มขึ้นอีก 1,691 ราย รวมสะสมในขณะนี้ 11,708 ราย
  • เดนมาร์ก พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอีก เกือบ 3,000 ราย ยอดรวมอยู่ที่กว่า 9 พันรายแล้ว และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 1 ราย และผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย โดยรายแรกเป็นหญิงชาวญี่ปุ่น เดินทางกลับจากสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผลตรวจที่สนามบินไม่พบเชื้อ จึงเข้ารับการกักตัวที่บ้าน

    หลังจากนั้นมีอาการป่วย ตรวจภายหลังพบติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งมีผู้สัมผัสเสี่ยงอีก 1 รายเป็น ชาย โดยในขณะนี้ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงรายนี้ ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 และกำลังรอการยืนยันผลตรวจจีโนมยืนยันอีกครั้ง

    นอกจากนี้ ผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนยังมีประวัติไปรวมการเล่นฟุตบอลอีกด้วย ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงเพิ่มอีก 10 ราย และทางการญี่ปุ่นระบุว่า นี่อาจจะเป็นการติดเชื้อในประเทศเป็นครั้งแรก
  • ปาเลสไตน์ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเคสแรก จำนวน 3 รายด้วยกัน เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
  • นิวซีนแลนด์ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยพบว่า มาจากดูไบ 1 ราย, มาจากลอนดอน และสเปน แห่งละ 1 ราย ซึ่งได้มาต่อเครื่องที่ดูไบเช่นกัน
  • ออสเตรเลีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มต่อเนื่อง จากคลัสเตอร์ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้รัฐนิวเซาท์เวลส์ พบผู้ป่วยโควิด 185 ราย เพิ่มขึ้นถึง 63 ราย

    ซึ่งยอดรวมทั้งหมดที่พบผู้ป่วยในรัฐเซาท์เวลส์ยังทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง โดยล่าสุดพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มกว่า 2 พันราย

16 ธ.ค.

  • อินโดนีเซีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก จำนวน 1 ราย เป็นจนท.ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา และไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน

    ซึ่งในขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนอีก 5 ราย ที่รอการตรวจจีโนมยืนยันอีกครั้งหนึ่ง โดย 2 ใน 5 รายนี้ มีประวัติเพิ่งเดนทางกลับมาจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร

    อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ทางการอินโดฯ ระบุว่า ยังไม่พบการระบาดในชุมชนแต่อย่างใด
  • นิวซีแลนด์ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก จำนวน 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากเยอรมนี ผ่านดูไบ โดยมาถึงนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มีประวัติการได้รับวัคซีนครบแล้ว
  • ยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในสหราชอาณาจักรพุ่งทะลุ 1 หมื่นรายแรกแล้ว โดยล่าสุด เพิ่มขึ้นอีก 4671 ราย
  • เดนมาร์ก พบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 1,512 ราย ทำให้ยอดสะสมในขณะนี้ ทะลุ 6 พันรายแล้ว
  • ไทย ผลตรวจจีโนมของ 1 ใน 3 ผู้ป่วยโควิด19 ที่เข้าข่ายติดเชื้อในสายพันธุ์โอมิครอนออกแล้ว พบว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิด19 ในสายพันธุ์นี้ในประเทศไทยรวมเป็น 9 ราย และมีผู้ที่เข้าข่ายเป็นโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ยังรอผลการตรวจจีโนมอีก 5 ราย
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 15 ราย โดยเป็นการตรวจพบที่สนามบิน ทำให้ยอดสะสมในประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 32 ราย ซึ่งในขณะนี้ยังคงเป็นการพบในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด

    แม้ว่าจะมีพบ 1 รายที่เป็นการพบที่บ้านภายหลังจากการพ้นระยะกักตัว 14 วันแล้วก็ตาม แต่จากประวัติมีการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดมาก่อน
  • รวันดา พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เคสแรก จำนวน 6 ราย ในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย
  • เคนยา พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เคสแรก จำนวน 3 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด

15 ธ.ค.

  • ฟิลิปปินส์ รายงานยืนยันผลตรวจจีโนม พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 2 รายแรก เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
    • ชาวฟิลิปปินส์ เดินทางมาจากญี่ปุ่น เมื่อ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตรวจพบเชื้อในวันที่ 5 ธ.ค. โดยก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยระบุ มีอาการคล้ายหวัด ไอ แต่ในขณะนี้ไม่มีอาการใดๆ
    • ชาวไนจีเรีย มาถึงฟิลิปปินส์ เมื่อ 30 พ.ย. ผลตรวจพบเชื้อ 7 ธ.ค.
  • กัมพูชา พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก เป็นหญิง อายุ 23 ปี ชาวกัมพูชา เดินทางกลับมาด้วยเครื่องบินจาก กานามาลงที่ดูไบ และบินต่อจากดูไบมายังประเทศไทย จากนั้นต่อเครื่องจากไทย ไปยังกัมพูชา
  • แอฟริกาใต้ ระบุว่า แม้จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาการเบาถึงปานกลาง และอีกจำนวนไม่น้อย ไม่มีอาการ

    ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่จำเป็นต้องให้ออกซิเจนก็มีจำนวนไม่มากนัก ซึ่งสวนทางกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น
  • เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 9 ราย รวมเป็น 128 ราย แล้ว ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อในประเทศ
  • องค์การอนามัยโลกระบุว่า การระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนนี้จะสามารถแพร่ระบาดได้ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว มากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่พบก่อนหน้านี้ ซึ่งแม้ว่าสายพันธุ์โอมิครอนจะมีความรุนแรงของโรคที่น้อยกว่า แต่อัตราการแพร่ระบาดได้เร็ว จะทำให้ผู้ป่วยมีจำนวนสูงขึ้นอีกครั้ง และอาจมากเกินที่อัตราการรองรับของระบบสาธารณสุขได้ หากไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือไว้
  • อิตาลี ต่ออายุมาตรการการประกาศภาวะฉุกเฉินไปจนถึง 31 มีนาคม 2565 โดยระบุว่า เนื่องจากความกังวลจากการระบาดในสายพันธุ์โอมิครอน
  • นอร์เวย์ ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุโอมิครอนมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยพบเพิ่มอีก 218 ราย ทำให้ทางการนอร์เวย์ได้ประกาศในการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ผับ-บาร์ ต่อไป
  • จีน พบผู้ป่วยโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน เป็นรายที่ 2 โดยในรายนี้ทำให้ทางการจีนมีความกังวลต่อการระบาดมากขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยเดินทางเข้าประเทศจีนมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ผ่านการกักตัวที่บ้านเป็นทีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับเป็นระยะเวลาเกิน 14 วันแล้ว
  • อังกฤษ จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ยังคงเพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า ในช่วงเวลา 4 สัปดาห์ข้างหน้านี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของระบบสาธารณสุขในประเทศ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น
  • สหรัฐฯ คาดว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จะกลายมาเป็นสายพันธุ์หลักที่มีการระบาดในประเทศ ซึ่งในขณะนี้มีรายงานพบผู้ป่วยในสหรัฐฯ ที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว อย่างน้อย 32 รัฐ

14 ธ.ค.

  • สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ยอดผู้ป่วยยังพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในช่วงอีกไม่กี่วันข้างหน้าสถานการณ์การการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนใน 3 ประเทศนี้จะยิ่งเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นไปอีก
  • แอฟริกาใต้ จากการระบาดของโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอนนี้ ทำให้ยอดการตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 พุ่งเป็น 31% หรือ หากตรวจชาวแอฟริกาใต้ 10 รายจะพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 3 ราย โดยเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  • สหราชอาณาจักร รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เสียชีวิตเป็นรายแรก
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่ม 4 ราย โดยยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งเดินทางมาจากสหรัฐฯ ถึงญี่ปุ่นในช่วงระหว่างวันที่ 6-9 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยพบที่สนามบินนาริตะ 2 ราย และพบที่สนามบินคันไซ กับสนามบินฮาเนดะ ที่ละ 1 ราย
  • จีน พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก ในเมืองเทียนจิน โดยเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และไม่มีอาการป่วย
  • ฮังการี, โอมาน พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเคสแรก ประเทศละ 2 ราย

13 ธ.ค.

  • ไทย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ยืนยันผลแล้วเพิ่มอีก 5 ราย รวมเป็น 8 ราย และยังคงรอผลการตรวจจีโนมอีก 3 ราย รวมผู้ที่เข้าข่ายทั้งหมด 11 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด (อ่านเพิ่มเติม – ไทยพบติดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่ม)
  • สหราชอาณาจักร พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ เพิ่มอีก 1,239 ราย เกิน 1 พันรายเป็นครั้งแรก โดยเพิ่มขึ้นราว 2x ในช่วง ไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้ยอดสะสมตอนนี้ เกิน 3,100 รายแล้ว และทางการต้องเตรียมรับมือกับการระบาดใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

    ซึ่งในขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยในสายพันธุ์โอมิครอนจำนวน 1 รายที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
  • อิสราเอล ประกาศยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยได้ประกาศเตือนประชาชนชาวอิสราเอล ไม่เดินทางไปยังสหราชอาณาจักร และเดนมาร์กแล้ว เนื่องจากมีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในชุมชนแล้ว และคาดว่า อาจจะมีการพิจารณายกระดับห้ามการเดินทางเข้าประเทศจากทั้งสองประเทศนี้เพิ่มเติมด้วย หากสถานการณ์การระบาดเพิ่มสูงขึ้น
  • เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอนเพิ่มอีก 24 ราย รวมสะสมในขณะนี้ 114 ราย และแนวโน้มยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
  • ตุรี พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอนเคสแรก รวม 6 รายด้วยกัน โดยพบในอิสตันบูล 1 รายและอีก 4 รายใน İzmir โดยผู้ป่วยทั้งหมดในขณะนี้ เป้นผู้ป่วยอาการเบา ไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวใน รพ.แต่อย่างใด
  • ยิบรอลตาร์ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอนเคสแรก รวม 3 ราย โดยรายแรกเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากการรวมงานปาร์ตี้สังสรรในประเทศสเปน ส่วนอีก 2 รายเป็นเพื่อนร่วมงาน
  • แอฟริกาใต้ รายงานว่า ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของประธานาธิบดี Cyril Ramaphosa เป็นบวก หลังจากที่มีอาการไม่สบายเล็กน้อย แม้ในขณะนี้ยังไม่มีผลตรวจยืนยันสายพันธุ์ แต่หลายฝ่ายคาดว่า อาจจะได้รับเชื้อในสายพันธุ์โอมิครอน
  • ออสเตรเลีย ระบุว่า เคสผู้ป่วยที่คาดว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อในสายพันธุ์โอมิครอนกำลังเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้ต้องสงสัยคลัสเตอร์ใหญ่สุดในขณะนี้เป็นคลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับไนท์คลับแห่งหนึ่ง ซึ่งพบผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 84 ราย โดยทั้งหมดเป็นเข้าข่ายว่า อาจจะเป็นการติดเชื้อในสายพันธุ์โอมิครอน เนื่องจากรายงานยืนยันแล้วว่า ผู้ป่วยในสายพันธุ์โอมิครอน มีประวัติเดินทางมายังไนท์คลับแห่งนี้

12 ธ.ค.

  • เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 15 ราย รวมเป็น 90 รายแล้ว ซึ่งในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นการพบการติดเชื้อในคลัสเตอร์ในประเทศ
  • ออสเตรเลีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 10 ราย และมีผู้ป่วย 1 รายที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเป็นรายแรก

    ซึ่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ รายงานว่ายังมีผู้ป่วยรอผลการตรวจยืนยันสายพันธุ์อยู่อีก จากคลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับไนท์คลับแห่งหนึ่ง และเชื่อมโยงไปยังคลัสเตอร์ปาร์ตี้บนเรือในซิดนีย์อีกด้วย
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 1 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากศรีลังกา เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลทดสอบที่สนามบินนาริตะ พบว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีนครบถ้วน และมีผลเป็นลบ จึงได้เดินทางกลับบ้านในจังหวัดกิฟุ ด้วยรถยนต์ในวันที่ 5 ธ.ค.

    ต่อมาวันที่ 7 ธ.ค. มีอาการไข้ต่ำ ๆ ผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ได้มีการส่งตัวเข้ารักษา และผลตรวจสายพันธุ์ในภายหลังพบว่า เป็นสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งทางการญี่ปุ่นกำลังเร่งติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติม
  • สหรัฐฯ รัฐแคลิฟอร์เนียร์ รายงานพบข้อบ่งชื้ว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะประกาศการยกระดับให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลเสียอีก หลังจากพบจากตัวอย่างในน้ำเสีย และมีความเป็นไปได้ว่า เชื้อในสายพันธุ์โอมิครอนนี้ จะระบาดไปทั่วโลกก่อนที่จะมีการค้นพบเสียอีก
  • มอริเชียส พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 2 รายแรก เป็นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้

11 ธ.ค.

  • สิงค์โปร์ รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนติดเชื้อในประเทศอีก 1 ราย โดยเป็น ชายอายุ 38 ปี พนักงานในสนามบินชางงี บริเวณประตูผู้โดยสารขาออก ของเทอร์มินัล 3 โดย ผู้ป่วยรายนี้ ไม่ความเชื่อมโยงกับ 3 รายก่อนหน้านี้

    ผู้ป่วยรายนี้ ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด ถูกตรวจพบจากการตรวจหาเชื้อประจำสัปดาห์

    นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยในสายพันธุ์โอมิครอนอีก 2 ราย เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร
  • ไต้หวัน พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก เป็นหญิง อายุ 30 ปี เดินทางมาจากประเทศเอสวาตินี ที่เดินทางเข้ามายังไต้หวันและได้รับการกักตัวอยู่ ซึ่งผู้ป่วยไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด
  • เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 12 ราย รวมสะสม 75 ราย
  • สหราชอาณาจักร และเดนมาร์ก ยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เริ่มพุ่งสูงขึ้น โดยทั้งสองประเทศ พบเพิ่มอีกกว่า 400 ราย ยอดสะสมทะลุ 1,200 รายแล้ว

    ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในจำนวนเดิม คูณ 2 จากเมื่อวันก่อนราว 50 ราย เป็น 100 และเพิ่มเป็น 200 กว่ารายเมื่อวานที่ผ่านมา
  • เนเธอร์แลนด์ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่ม 44 ราย รวมผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอนทั้งหมด 80 รายแล้ว และมี 6 ราย ที่ไม่พบประวัติการเดินทางไปยังแอฟริกาใต้ หรือเชื่อมโยงกับผู้ป่วยก่อนหน้า
  • ฟินแลนด์ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่ม 11 ราย ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยที่พบรายก่อนหน้า แต่มี 2 รายที่ไม่พบประวัติการเดินทาง หรือเชื่อมโยงกับเคสก่อนหน้านี้
  • ไซปรัส พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 3 รายแรก เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
  • มาลาวี พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 3 รายแรกในตัวอย่างที่รวบรวมไว้ตั้งแต่เมื่อ 9 พ.ย. – 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากการเก็บตัวอย่างผู้ที่เดินทางเข้าประเทศมาลาวี

10 ธ.ค.

  • อินเดีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่ม 2 ราย รวมเป็น 25 ราย
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 8 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ รวมยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในญี่ปุ่นทั้งหมด 12 ราย
  • เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 63 รายแล้ว โดยในขณะนี้ เป็นผู้ป่วยนำเข้า ( Imported Case) 15 ราย และอีก 48 รายเป็นการติดเชื้อในประเทศ โดยส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองอินชอน
  • สิงค์โปร์ รายงานผู้ป่วยโควิด-19 ที่คาดว่าจะเป็นการติดเชื้อในสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 2 ราย โดยหนึ่งใน 2 ราย คาดว่าน่าจะเป็นเคสการติดเชื้อในประเทศสิงคโปร์เป็นเคสแรก
    • หญิงชาวสิงคโปร์ อายุ 24 ปี เป็นพนักงานสนามบินชางงี บริเวณ Terminals 1 และ 3 และได้ทำงานใน Transit Area ซึ่งอาจจะทำให้ได้รับเชื้อจากผู้โดยสาร
    • หญิง อายุ 46 ปี เดินทางมาจากประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา
  • สหราชอาณาจักร – เดนมาร์ก รายงานผู้ป่วยเพิ่มอีกประเทศละกว่า 200 ราย แนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานที่ผ่านมาเป็นเท่าตัว
  • เยอรมัน รายงานผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 50 ราย รวมสะสมในขณะนี้ 65 ราย
  • สหรัฐฯ พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกหลายรัฐ โดยในขณะนี้ พบแล้ว 71 รายใน 21 รัฐ และยังคงมีรายงานพบเพิ่มเติมในรัฐฯ ที่ยังไม่มีรายงานก่อนหน้า ในขณะท่รัฐที่พบแล้วก็มีรายงานพบเคสใหม่เพิ่มเติม

9 ธ.ค.

  • ประเทศไทย พบผู้ป่วยโควิด-19 ที่สงสัยว่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอนอีก 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 41 ปี เดินทางมาจากประเทศ DR. Congo มีประวัติได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าแล้ว 2 โดส เข้ามาด้วยระบบ Test & Go

    ซึ่งผลตรวจมีความเป็นไปได้สูง ว่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน โดยในขณะนี้ ผู้ป่วยยังอยู่ที่โรงพยาบาล และทางเจ้าหน้าที่ได้ลงสอบสวนโรคเพิ่มเติม

    สรุป – ขณะนี้ประเทศไทย ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 3 ราย และกำลังรอผลอีก 1 ราย โดยทั้งหมดยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
  • ปากีสถาน รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก เป็นหญิง อายุ 65 ปี ไม่มีประวัติการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาดมาก่อน รวมถึงไม่มีประวัติในการฉีดวัคซีนด้วย
  • เดนมาร์ก รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 179 ราย รวมเป็น 577 รายแล้ว
  • เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 22 ราย โดยเพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อวานที่ผ่านมาที่พบเพิ่ม 20 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในเกาหลีใต้สะสมในขณะนี้ 60 รายแล้ว

    ส่วนยอดผู้ป่วยโควิด-19 วันนี้ในเกาหลีใต้เพิ่มเกิน 7 พันรายเป็นวันที่ 2 แล้ว
  • สหราชอาณาจักร พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 128 ราย รวม 568 ราย ซึ่งทางการระบุว่า ตตัวเลขที่แท้จริงของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนั้นน่าจะสูงกว่านี้อีกมา อาจจะเกือบถึง 1 หมื่นราย

    โดยอัตราของผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอนนี้ เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวในทุก 2.5-3 วัน ดังนั้นคาดว่า ในช่วงสิ้นเดือนนี้ อาจจะมีผู้ติดเชื้อสูงเกิน 1 ล้านราย ทำให้สหราชอาณาจักรเตรียม “Plan B” มาใช้ โดยไม่ต้องมีการล็อกดาวน์เหมือนที่ผ่านมา
  • นิวเซาท์เวลส์, ออสเตรเลีย รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 8 ราย รวมในรัฐเป็น 42 รายแล้ว อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ทั้ง 42 ราย ยังไม่มีผู้ป่วยรายใดที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแต่อย่างใด
  • คูเวต พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก เป็นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ โดยผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว
  • คิวบา พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก เป็นเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข เดินทางกลับมาจากโมซัมบิก เมื่อ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่เริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ ในวันถัดมา ซึ่งผลตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลตรวจสอบสายพันธุ์ในภายหลังพบติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน
  • ฮ่องกง มหาวิทยาลัยฮ่องกง เปิดภาพเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในสายพันธุ์โอมิครอนเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการแยกเซลล์ของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนออกมา และนำเซลล์ที่ได้มาส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ได้ภาพถ่ายหน้าตาของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนี้ออกมาเป็นครั้งแรก
Photo credit: Professor John Nicholls, Clinical Professor of Department of Pathology; and Professor Malik Peiris, Tam Wah-Ching Professor in Medical Science and Chair Professor of Virology, School of Public Health, HKUMed; and Electron Microscope Unit, HKU.

8 ธ.ค.

  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 1 ราย เป็นชาย อายุ 50 ปี เดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย ถึงสนามบินนาริตะ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา

    ผลตรวจโควิด-19 ที่สนามบินเป้นบวก จึงได้มีการส่งตรวจหาสายพันธุ์เพิ่มเติม และพบติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ในขณะนี้ผู้ป่วยยังไม่มีอาการป่วยใดๆ
  • ประเทศไทย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอีก 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา (รายละเอียด-ไทม์ไลน์)

    โดยเป็นหญิงไทย อายุ 36 และ 46 ปี ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมที่ประเทศไนจีเรีย ช่วงวันที่ 13 – 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ผลการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ผลไม่พบเชื้อ

    มีอาการเจ็บคอเล็กน้อย – ไอ เมื่อเดินทางมาถึงไทย เข้าสถานที่กักตัว เนื่องจากทั้งคู่ไม่มีประวัติได้รับวัคซีน/ไม่อยู่ในประเทศที่อนุญาตฯ

    ตรวจหาเชื้อครั้งแรกในไทย พบว่าผลเป็นบวก ส่งเข้ารับการรักษา ต่อมา 26 พ.ย. WHO ประกาศสายพันธุ์โอมิครอนเป็น VOC จึงได้มีการส่งตรวจหาสายพันธุ์ย้อนหลัง
  • แคนาดา พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมาอีก 20 ราย รวมเป็น 39 รายแล้ว
  • สหราชอาณาจักร ยอดผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นเป็น 437 รายแล้ว (เพิ่มขึ้น 101 ราย) และยังคงมีผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนอีกกว่า 1 พันราย
  • ออสเตรเลีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่ม 5 รายในซิดนีย์ ซึ่งในกำลังติดตามผู้ป่วยรายใหม่ เนื่องจากมีความกังวลว่าจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ในประเทศเพิ่มเติม

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบความแตกต่างระหว่างเชื้อสายพันธุ์ Omicron ที่พบในควีนแลนด์ กับเคสอื่น โดยในขณะนี้เรียกว่า “Omicron-like” และรอผลการถอดรหัสพันธุกรรมเทียบกับสายพันธุ์โอมิครอนอื่นเสียก่อน จึงจะยืนยันได้ว่า เป็นสายพันธุ์ย่อยหรือไม่
  • เดนมาร์ก ยอดผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นเป็น 398 รายแล้ว โดยเฉพาะในคลัสเตอร์งานเลี้ยงวันคริสมาสที่มีผู้เข้าร่วมราว 150 คน ซึ่งพบติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 64 ราย ซึ่งส่งผลให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกเป็นจำนวนมาก และทำให้มีความกังวลว่า จะเกิดการระบาดในวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากในขณะนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 90% ที่พบ เป็นการติดเชื้อในประเทศ
  • ยูกันตา พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จำนวน 7 รายด้วยกัน โดย 5 รายมีประวัติดเดินทางมาจากไนจีเรีย และอีก 2 รายจากทวีปแอฟริกาใต้
  • นามิเบีย ผลตรวจสายพันธุ์พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 19 ราย จากตัวอย่างที่เก็บไว้ในช่วงวันที่ 11-26 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนผู้ป่วยส่วนใหญ่ พบในพื้นที่เมืองหลวงและพื้นที่โดยรอบเป็นส่วนใหญ่

7 ธ.ค.

  • ประเทศไทย จากกรณีที่พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกเมื่อวานที่ผ่าน (อ่านรายละเอียดแถลง) ซึ่งพบว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงจำนวน 17 ราย โดยในขณะนี้ พบว่า มี 1 รายที่ผลตรวจโควิด-19 ครั้งแรกได้ผลกำกวม ซึ่งได้มีการตรวจซ้ำ ไม่พบเชื้อ

    อย่างไรก็ตามได้มีการกักตัวไว้ให้ครบ 14 วัน และจะมีการตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งในวันที่ 13 ของการกักตัวด้วย
  • เกาหลีใต้ รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศเพิ่มอีก 3 ราย หลังพบการติดเชื้อในโบสถ์แห่งหนึ่งในอินชอน เนื่องจากครอบครัวผู้ป่วยเคสแรกพบติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ไปยังสถานที่ดังกล่าว นำไปสู่การตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม และพบว่า มีการติดเชื้อเกิดขึ้นในคลัสเตอร์ดังกล่าว

    นอกจากนี้ ยังพบว่า ในผู้ป่วยรายใหม่ ในสายพันธุ์โอมิครอน 3 รายเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย 3 แห่งในกรุงโซล ที่เดินทางไปยังโบสถ์ดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลว่า อาจจะทำให้มีการระบาดเพิ่มในกรุงโซลเพิ่มขึ้นอีก
  • อังกฤษ ระบุ ในอังกฤษเป็นการระบาดในชุมชนแล้ว เนื่องจากพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ไม่มีประวัติการเดินทางมากขึ้นต่อเนื่อง ไม่มีความเชื่อมโยงกับการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด
  • แคนาดา พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 9 ราย โดย 8 รายเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้ป่วยในโรงเรียนประถม-มัธยมด้วย ซึ่งในขณะนี้ยังคงรอผบการตรวจเพื่อยืนยันสายพันธุ์อีกครั้งหนึ่ง
  • สหราชอาณาจักร พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพบเพิ่มอีก 90 ราย รวมสะสม 336 รายแล้ว แบ่งเป็นอังกฤษ 261 ราย, สก็อตแลนด์ 71 ราย และในเวลส์ อีก 4 ราย

    อย่างไรก็ตาม พบว่า ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีอาการ หรือ มีอาการเบา
  • ลัตเวีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา
  • โครเอเชีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 2 ราย ซึ่งไม่มีประวัติการเดินทางไปยังต่างประเทศมาก่อน ทำให้จนท. เร่งสอบสวนโรคเพิ่มเติม เบื้องต้นคาดว่าอาจจะติดเชื้อจากการประชุมทางธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ที่ทั้งคู่เข้าร่วมด้วย

    ผู้ป่วยที่พบมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกายค่อนข้างมาก แต่ไม่มีอาการรุนแรงอื่น ๆ แต่อย่างใด

6 ธ.ค.

  • อินเดีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก 2 ราย เป็นชายอายุ 37 ปีเพิ่งเดินทางมาจากแอฟริกาใต้ และชายอายุ 36 ปีเป็นเพื่อนกับผู้ท่เดินทางกลับมา ทำให้ยอดสะสมในอินเดียเป็น 23 รายแล้ว และทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า อาจจะเริ่มพบการติดเชื้อในประเทศแล้ว
  • ฟิจิ รายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นเคสแรกของประเทศฟิจิ โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากไนจีเรีย ถึงฟิจิเมื่อวันที่ 25 พ.ย. เดินทางด้วยเที่ยวบิน FJ1392 ของสายการบินฟิจิแอร์เวย์ ก่อนมาแวะที่ฮ่องกง และเดินทางไปสู่ฟิจิ ซึ่งทั้งสองรายมีประวัติได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
  • รัสเซีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเคสแรก จำนวน 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศแอฟริกาใต้จากผู้โดยสารที่เดินทางมาทั้งหมด 10 ราย
  • เกาหลีใต้ ยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่ม 12 ราย รวมเป็น 24 รายแล้ว โดย 6 รายเป็นผู้ที่มีประวัติการเดินทางมาจากแอฟริกาใต้ ในขณะที่อีก 18 รายเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด
  • เนปาล รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 2 รายแรกในประเทศ เป็นชาวต่างชาติ 1 ราย อายุ 66 ปี เดินทางถึงเนปาลตั้งแต่ 19 พ.ย. ผลตรวจโควิด-19 ก่อนเดินทางเป็นลบ

    อีกรายหนึ่ง เป็นชาวเนปาล อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายแรก โดยมีอาการป่วยที่เชื่อมโยงกับอาการป่วยของโควิด-19 ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 23 พ.ย. พบติดเชื้อ

    หลังจากนั้นได้มีการส่งตรวจจีโนม และได้ผลเมื่อวานที่ผ่านมา พบว่า ทั้งคู่ป่วยเป็นโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
  • ญี่ปุ่น รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายที่ 3 แล้ว เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอิตาลี
  • อาร์เจนตินา รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รายแรก เป็นผู้ป่วยอายุ 38 ปี ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยมีประวัติได้รับวัคซีนครบแล้ว 2 เข็ม และผู้ป่วยรายนี้ ไม่มีอาการใดๆ
  • ประเทศไทย รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย เป็นรายแรก โดยผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสเปน ถึงไทยเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา (อ่านรายละเอียดแถลง)

    ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า มีผู้ป่วยหญิงชาวแอฟริกาใต้ ที่สถาบันบำราศนั้น เป็นข่าวที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากผู้ป่วยหญิงที่สถาบันบำราศฯ ติดเชื้อในสายพันธุ์เดลต้า ไม่ใช่โอมิครอน
  • เดนมาร์ก ยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนพุ่งสูงขึ้น รวมสะสมในขณะนี้ 183 รายแล้ว เป็นการตรวจจีโนมยืนยันแล้ว 32 ราย ในขณะนี้เป็นการตรวจ Variant-PCR-test นั้นพบ 151 ราย รวมเป็น 183 ราย

    ซึ่งพบการติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่ไม่ได้มีประวัติการเดินทางไปพื้นที่ระบาด หรือเชื่อมโยงกับผู้ที่เดินทาง ซึ่งสะท้อนถึงการระบาดในชุมชน จึงจำเป็นต้องเร่งชะลอการระบาดนี้ให้ได้เร็วที่สุด
  • สหราชอาณาจักร รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 86 ราย ทำให้ยอดสะสมพุ่งเป็น 246 รายแล้ว จากเดิม 160 รายเมื่อวานที่ผ่านมา

    ซึ่งสถานการณ์การพบในครั้งนี้ มีรายงานพบในอังกฤษ 68 ราย และที่เหลือพบในสก็อตแลนด์ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า การระบาดในประเทศนั้นจะพุ่งสูงขึ้นไปอีกได้ จากความสามารถในการระบาดได้เร็วในสายพันธุ์โอไมครอนนี้
  • สหรัฐฯ รายงานการพบผู้ป่วยแล้วอย่างน้อย 15 รัฐ ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40 รายแล้ว และหลายรายพบว่า มีประวัติการเดินทางเชื่อมโยงกับรัฐที่มีรายงานพบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดความกังวลต่อการระบาดในประเทศมากขึ้น
  • อินเดีย พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดยอดสะสมอยู่ที่ 21 รายแล้ว โดยพบเพิ่มอีก17 ราย ใน ชัยปุระ 9 ราย, ปูเน่ 7 ราย และในเดลี 1 ราย
  • รัฐนิวเซาท์เวลส์, ออสเตรเลีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นอีก 10 ราย โดย 9 รายนั้นพบว่าเป็นการติดเชื้อในชุมชน ซึ่งมีผู้ป่วยในคลัสเตอร์นี้แล้ว 14 ราย และอีก 1 รายเป็นผู้ที่มีประวัติการเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง
  • เซเนกัล, มัลดีฟส์, ตูนีเวีย รายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ประเทศละ 1 ราย เป็นการพบในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด

5 ธ.ค.

  • สหราชอาณาจักร พบผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 10 ราย รวมเป็น 160 รายแล้ว ทำให้มีการยกระดับมาตรการป้องกันเพิ่ม โดยผู้ที่เดินทางเข้ามาจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายใน 48 ชั่วโมง รวมถึงผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วด้วยเช่นกัน โดยให้แยกกักตัวจนกว่าจะมีผลยืนยันเป็นลบ
  • สหรัฐฯ มีรายงานพบผู้ป่วยแล้วอย่างน้อย 12 รัฐ รวมผู้ป่วย 38 ราย และมีรายงานพบผู้ป่วยที่เข้าร่วมงาน Anime NYC 2021 เพิ่มอีก ทำให้มีความกังวลว่าจะมีการระบาดในกลุ่มผู้ไปร่วมงานมากขึ้น
  • หลายประเทศเริ่มกลับมาใช้มาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศอีกครั้ง เช่น สวิตเซอร์แลนด์ โดยจะให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศกักตัว 10 วัน เพื่อป้องกันการระบาด
  • โรมาเนีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายแรก เป็นผู้ป่วยชายอายุ 59 ปี และหญิง อายุ 48 ปี เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา
  • ออสเตรเลีย ระบุ พบการติดเชื้อในประเทศ จากผู้ป่วย 6 รายซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
  • อิสราเอล รายงานพบผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 4 ราย โดยทั้งหมดเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน เพิ่งเดินทางกลับจากแอฟริกาใต้ นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอีก 27 ราย
  • อินเดีย รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 1 ราย รวมสะสมในประเทศอินเดียเป็น 4 รายแล้ว โดยรายล่าสุดเป็นชาย อายุ 33 ปีเดินทางกลับจากแอฟริกาใต้เมื่อ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนการประกาศค้นพบสายพันธุ์โอไมครอนของแอฟริกาใต้ ในวันที่ 25 พ.ย.
  • ชิลี พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รายแรก เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกานา เมื่อ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว มีผลตรวจก่อนเดินทางเป็นลบ ซึ่งในขณะนี้ผู้ป่วยไม่มีอาการใด ๆ

4 ธ.ค.

  • สหราชอาณาจักร รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มอีก
    • อังกฤษ เพิ่มอีก 75 ราย รวมสะสม 104 ราย
    • สก็อตแลนด์ เพิ่มอีก16 ราย รวมสะสม 29 ราย
  • ซิมบับเว รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน จำนวน 50 ราย ส่วนใหญ่พบใน ทีมฟุตบอล รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปีที่เดินทางไปแข่งขันในภูมิภาค รวมถึงครูผู้ฝึกสอน
  • สหรัฐฯ รายงานการพบผู้ป่วยเพิ่มในอีกหลายรัฐ เช่น ในแมรีแลนด์ พบติดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 3 ราย โดยมี 2 รายที่พบประวัติเดินทางไปยังแอฟริกาใต้ ในขณะที่อีก 1 รายไม่มีประวัติการเดินทาง
  • ตูนิเซีย รายงานพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนี้ 1 ราย เป็นรายแรกของประเทศ โดยพบในชายอายุ 23 ปี เดินทางมาจากคองโก ผ่านมาทางสนามบินอิสตันบูล
  • เม็กซิโกรายงานพบผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอน รายแรกในประเทศ

3 ธ.ค.

  • ศรีลังกา พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รายแรก เป็นชาวศรีลังที่เดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา
  • ฝรั่งเศส รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 อีก 8 ราย รวมเป็น 9 ราย (ยังไม่มีรายละเอียดเคสเพิ่มเติม)
  • สหราชอาณาจักร รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 อีก 3 รายติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ในสกอตแลนด์ รวมเป็น 13 ราย และใน อังกฤษพบเพิ่มอีก 7 ราย รวมเป็น 29 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในสหราชอาณาจัก พบติดโควิด19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 42 ราย
  • มาเลเซีย รายงานพบเคสผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รายแรก นักศึกษา ชาวต่างชาติ (ได้รับวัคซีนครบแล้ว) เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านที่แอฟริกาใต้ และเดินทางกลับมายังมาเลเซียเมื่อ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา

    หลังจากที่ทางการมาเลเซียได้ ทำการตรวจสอบตัวอย่างย้อนหลังช่วง 11 – 28 พ.ย. ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่ผลตรวจที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ เป็นบวก ทำให้พบเคสผู้ป่วยรายนี้

    อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยรายนี้ ได้เข้ากักตัวที่บ้าน หลังจากที่เดินทางมาถึงมาเลเซีย และไม่พบว่ามีอาการป่วยใด ๆ

    ทางการมาเลย์รายงานเบื้องต้น – มีผู้สัมผัสเสี่ยง บนเครื่อง 64 ราย, สนามบินกัวลาลัมเปอร์ 91 ราย – ตรวจสอบจากระบบ MySJ Travel ในวันที่เดินทางมาถึงพบผู้อยู่ในพท.เดียวกัน 2,492 ราย ซึ่งในขณะนี้ ทางการมาเลเซียกำลังเร่งตรวจสอบ-ควบคุมการระบาดของโรค
  • นิวเซาท์ เวลส์, ออสเตรเลีย พบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 9 รายแล้วในรัฐ และพบในนักเรียนที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ หรือเชื่อมโยงกับการเดินทางไปต่างประเทศใด ๆ

    หน่วยงานควบคุมโรคของนิวเซาท์ เวลส์ ระบุว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากอาจจะเป็นการพบการระบาดในชุมชนแล้ว
  • ฮาวาย, สหรัฐฯ พบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอไมครอน โดยเป็นชาวอเมริกันในเมือง O‘ahu เป็นผู้ป่วยอาการเบา ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน และประวัติการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงอื่น ๆ ที่มีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

    ทางการของฮาวายระบุว่า นี่เป็นเคสที่คาดว่าจะเป็นการระบาดในชุมชน เนื่องจากไม่มีประวัติการเดินทางใด ๆ
  • นอร์เวย์ รายงานยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 50 ราย สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอไมครอน เนื่องจากพบการระบาดในกลุ่มผู้ที่ไปร่วมงานปาร์ตี้วันคริสมาสต์ของบริษัทแห่งหนึ่งในออสโล โดยทั้งหมดเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว และทางการนอร์เวย์คาดว่า ยอดผู้ป่วยจะมีมากกว่า 50 ราย
  • อินเดีย เพิ่มเติมข้อมูลเคสผู้ป่วยรายที่ 2 ที่พบว่าติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ที่รายงานไปเมื่อวานนี้ โดยในรายละเอียดพบว่า เป็นผู้ป่วยชาย อายุ 46 ปี อาชีพแพทย์อยู่ที่ Bengaluru ซึ่งไม่มีประวัติการเดินทางไปแอฟริกาใต้

    21 พ.ย. มีอาการไข้ ปวดเมื่อย และเข้าตรวจหาเชื้อในวันที่ 22 พ.ย. ผลตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 (ก่อนการประกาศค้นพบสายพันธุ์นี้ในแอฟริกาใต้ เมื่อ 25 พ.ย.) โดยพบว่า มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 5 ราย ที่มีผลตรวจเป็นบวก (พบเชื้อ) และยังไม่ได้มีการยืนยันสายพันธุ์ในขณะนี้
  • สหรัฐฯ พบผู้ป่วยโควิด-10 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มมากขึ้น โดยพบเพิ่มอีก 7 ราย ในนิวยอร์ก 5 ราย, โคโรลาโด 1 ราย และมินนิโซตา 1 ราย โดยในรัฐมินนิโซตา มีความน่ากังวลมากขึ้นเมื่อในรายงานไม่มีประวัติการเดินทางไปแอฟริกาใต้ แต่มีประวัติการเดินทางไปร่วมงาน Anime NYC 2021 ที่นิวยอร์กซิตี้ เมื่อ 19-21 พ.ย.

    และหลังจากกลับมายังมินนิโซตา พบว่า มีอาการป่วยเล็กน้อยในวันที่ 21 พ.ย. ก่อนตรวจพบโควิด-19 ในวันที่ 24 พ.ย. ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการประกาศยืนยันการพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในแอฟริกาใต้ในวันที่ 25 พ.ย.

    ทำให้ในนิวยอร์กต้องเร่งประกาศให้ผู้ที่ไปร่วมงานดังกล่าวเข้ารับการตรวจหาเชื้อโดยด่วน รวมถึงสถานการณ์การพบผู้ป่วยเพิ่มที่สูงขึ้น
  • กรีซ พบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน รายแรกในประเทศ โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟิรกาใต้ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา และตรวจหาเชื้อในครั้งแรกเป็นลบ และเมื่อตรวจซ้ำอีกครั้งพบว่า มีผลติดเชื้อ ในวันที่ 29 พ.ย.

    ผู้ป่วยรายนี้เป็นชาวกรีซ ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้วและไม่มีอาการรุนแรงแต่อย่างใด
  • เนเธอร์แลนด์ ระบุว่า ผู้ป่วยที่พบว่าติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน จำนวน 14 ราย ที่มีประวัติเดินทางไปแอฟริกาใต้นั้น ทั้งหมดได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว

2 ธ.ค.

  • ฟินแลนด์ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายแรก เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากสวีเดน พร้อมกับกลุ่มผู้ใกล้ชิดอีกจำนวนหนึ่ง และในขณะนี้บางรายตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ด้วย แต่ยังไม่มีผลยืนยันสายพันธุ์ว่า เป็นโอไมครอนเช่นเดียวกับผู้ป่วยรายแรกหรือไม่
  • อินเดีย รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 ราย โดยรายแรกเป็นชายชาวต่างชาติอายุ 66 ปี มีประวัติเดินทางมาจากแอฟริกาใต้ ในขณะที่อีก 1 ราย รายเป็นชายเช่นกัน แต่ยังไม่มีรายละเอียดของผู้ป่วยรายที่ 2

    อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรายเป็นผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย
  • สิงคโปร์ รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 ราย เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในเที่ยวบินที่ SQ479 ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงได้รับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี PCR ทันทีที่มาถึง และส่งไปกักตัวทันที ผลตรวจพบว่า S-gene Target Failure จึงส่งผลตรวจจีโนมเพิ่มเติมเพื่อยืนยันอีกครั้ง

    ส่วนผู้โดยสารที่มาด้วยอีก 19 รายในไฟล์ทเดียวกันมีผลตรวจเป็นลบ และยังอยู่ในสถานที่กักตัว เบื้องต้นทางการสิงคโปร์ระบุว่า ยังไม่พบการติดเชื้อในประเทศ และยังคงเฝ้าระวังการระบาดต่อเนื่อง

    รายละเอียดทั้งสองเคสนี้
    1. ชายชาวสิงคโปร์ อายุ 44 ปี เดินทางมาจากประเทศโมซัมบิก และไปขึ้นเครื่องบินไฟลท์ดังกล่าวที่เมืองจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ โดยผลการตรวจหาเชื้อก่อนเดินทางเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ผลเป็นลบ
    2. หญิง ชาวสิงคโปร์ อายุ 41 ปี มาจากโมซัมบิก ผ่านเมืองโจฮันเนสเบิร์ก,แอฟริกาใต้เช่นกัน โดยผลการตรวจหาเชื้อก่อนขึ้นเครื่องในวันที่ 29 พ.ย. ผลเป็นลบเช่นกัน
  • สหราชอาณาจักร พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 9 รายในอังกฤษ และอีก 1 ในสก็อตแลนด์ ทำให้ยอดสะสมของสหราชอาณาจักรมีผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 32 ราย ( อังกฤษ 22 ราย, สก็อตแลนด์ 10 ราย)
  • ฝรั่งเศส พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 รายในแคว้นอิล-เดอ-ฟรองซ์ เป็นชายวัย 53 ปี ที่เดินทางกลับมาจากประเทศไนจีเรียเมื่อ 25 พ.ย. ที่ผ่านมาส่วนภรรยา ก็ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน แต่ยังต้องรอผลการตรวจสอบสายพันธุ์อีกครั้งหนึ่ง

    โดยถือเป็นผู้ป่วยรายแรกในฝรั่งเศส ซึ่งก่อนหน้านี้ มีรายงานการพบในเรอูว์นียง ซึ่งเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดียทางทวีปแอฟริกาใต้ และเป็นหนึ่งในจังหวัดโพ้นทะเลของฝรั่งเศส
  • ออสเตรเลีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เพิ่มอีก 1 รายในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เป็นผู้ที่ไม่มีประวัติอยู่ในแอฟริกาใต้ แต่เป็นผู้ที่เดินทางมาในเที่ยวบินจากโดฮา – ซิดนีย์ เที่ยวบินที่ QR908 เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ซึ่งมีรายงานพบผู้ป่วยก่อนหน้านี้

    นอกจากนี้ยังพบสมาชิกในครอบครัว 2 ราย และทางการออสเตรเลียกำลังวิตกว่า อาจจะเกิดการระบาดในเที่ยวบินดังกล่าว จึงขอให้ผู้ที่มากับเที่ยวบินนี้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ และกักตัวเองทันที
  • สหรัฐฯ รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รายแรกในแคลิฟอร์เนีย โดยเป็นผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา (ก่อนการประกาศค้นพบของแอฟริกาใต้) โดยผู้ป่วยรายนี้มีอาการเบา
  • สวิตเซอร์แลนด์ รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายที่ 3
  • สวีเดน รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ทั้งหมด 4 ราย
  • เบลเยียม พบผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอน รายที่ 2 ซึ่งไม่พบความเชื่อมโยงกับรายแรกแต่อย่างใด กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม
  • นอร์เวย์ พบโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ในผู้ที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ 2 ราย ที่ได้เดินทางในช่วง 26 – 28 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยในขณะนี้ทั้งสองรายมีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
  • เดนมาร์ก รายงานผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ทั้งหมด 6 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ 5 ราย และอีกหนึ่งรายเดินทางมาจากกาตาร์ โดยยังคงมีผู้ต้องสงสัยอีก 11 ราย
  • กาน่า พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 รายที่ สนามบิน Accra

ข่าวโอมิครอน – 1 ธ.ค.

  • เกาหลีใต้ ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ #โอไมครอน เป็นครั้งแรก จำนวน 5 ราย โดยพบในคู่สามี-ภรรยา ที่อาศัยอยู่ในเมืองอินชอน ทางตะวันตกของกรุงโซล รวมถึงสมาชิกในครอบครัว และเพื่อน

    สำหรับคู่สามี-ภรรยา คู่นี้ เดินทางไปยังประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา และเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. และตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ในขณะที่ลูก และเพื่อนของทั้งคู่จะตรวจพบเชื้อเมื่อวานนี้
  • ไอร์แลนด์ ยืนยันผลตรวจสายพันธุ์โควิด-19 ในตัวอย่าง 8 รายพบว่า มี 1 รายติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
  • ไนจีเรีย รายงานเพิ่มเติมระบุว่า จากรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่พบก่อนหน้านี้ จากการตรวจสอบตัวอย่างเชื้อย้อนหลัง พบว่า เป็นตัวอย่างที่เก็บในผู้ป่วยยืนยันตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค.2564 ที่ผ่านมา และสำหรับผู้ป่วย 2 รายที่รายงานออกไปนั้นเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการใดๆ ซึ่งทางไนจีเรียได้ทำการสอบสวนโรคเพิ่มเติมแล้ว
  • ซาอุฯ รายงานยืนยันการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอไมครอนรายแรก เป็นการพบในผู้ที่เดินทางมาจากประเทศทางเหนือของทวีปแอฟริกา
  • เดนมาร์ก สื่อฯ ท้องถิ่น รายงานว่า ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายหนึ่งในเดนมาร์ก ได้เข้าไปร่วมงานคอนเสิร์ต DJ Martin Jensen เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยในคอนเสิร์ตดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมราว 2 พันคน ก่อนตรวจพบติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 2 รายแล้ว เป็นชายอายุ 20 ปี ที่เดินทางมาจากประเทศเปรู โดยเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา
  • ไนจีเรีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • เยอรมนี ระบุว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 4 รายที่มีประวัติการเข้ารับวัคซีนครบถ้วนแล้ว
  • มหาวิทยาลัยฮ่องกง ประสบความสำเร็จในการแยกเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ออกจากตัวอย่างได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในเอเซีย เพื่อนำไปใช้ในการค้นคว้าวิจัยต่อไป โดยได้เก็บตัวอย่างหลังจากที่มีการพบในฮ่องกง

    ซึ่งฮ่องกง พบผู้ป่วย 2 รายแรกที่มีรายงานในฮ่องกง เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา และผู้ป่วยรายที่ 3 เมื่อวันที่28 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยรายนี้เดินทางมาจากไนจีเรีย ผ่านมาทางเอธิโอเปีย และไทย
  • อิสราเอล สาธารณสุขของอิสราเอลให้ข้อมูลกับสื่อท้องถิ่น Channel 12 โดยระบุว่า รายงานเบื้องต้น พบว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้ราว 90% น้อยกว่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลต้า ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 95%

    ในขณะที่อัตราการป้องกันอาการรุนแรง-เสียชีวิตอยู่ที่ราว 93% ดังนั้นการฉีดเข็มกระตุ้นยังคงมีความจำเป็นอยู่ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยจะมีความเสี่ยงอาการรุนแรงมากกว่าถึง 2.4 เท่า
  • บราซิล รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นครั้งแรก ในผู้ป่วยจำนวน 2 ราย โดยเป็นคู่สามี (อายุ 41) ภรรยา (อายุ 37) เดินทางจากแอรฟริกาใต้ถึงบราซิลเมื่อ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา และกำลังจะเดินทางกลับ จึงต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 25 พ.ย. พบว่า ผลเป็นบวก

    หลังจากนั้นมีการประกาศพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ทำให้ ANVISA ของบราซิลได้ส่งตรวจหาเชื้อและพบว่า เป็นเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน
  • สหราชอาณาจักร พบติดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 8 ราย ใน East Midlands, East of England, London, North West ทำให้ยอดสะสมในขณะนี้เป็น 22 รายแล้ว และ UKHSA กำลังเร่งสอบสวนโรคหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปแอฟริกาใต้มาก่อนหรือไม่ พร้อมจะมีการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
  • แคนาดา รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น6 รายแล้ว
  • ฟินแลนด์ รายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

รวมเมนูด่วน เกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน


ข่าวโอมิครอน – 30 พ.ย.

  • 19.30 น. – เนเธอร์แลนด์ รายงาน พบเชื้อ #โควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron ก่อนหน้ารายงานผู้ป่วยรายแรกในประเทศ สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ (RIVM) รายงานว่า พบตัวอย่างที่มีเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 2 ตัวอย่าง ที่เก็บได้ตั้งแต่วันที่ 19 – 23 พ.ย. ก่อนการรายงานค้นพบในแอฟริกาใต้ในวันที่ 25 พ.ย.
  • 18.30 น. – อิสราเอล รายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย เป็นแพทย์ชาวอิสราเอล ซึ่งทั้ง 2 รายได้รับวัคซีน Pfizer 3 โดสแล้ว โดย 1 ใน 2 รายนี้เพิ่งเดินทางกลับมาจากลอนดอน, อังกฤษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีพบผู้ป่วยติดเชื้อในสายพันธุ์โอไมครอนอีก 2 ราย หนึ่งในนั้นได้รับวัคซีน AstraZeneca แล้ว
  • 16.00 น. – สกอตแลนด์ พบติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนอีก 3 ราย ซึ่งในขณะนี้สหราชอาณาจักร มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 14 ราย และบางส่วนยังไม่ประวัติเชื่อมโยงกับการเดินทางไปยังแอฟริกาใต้
  • 14.00 น. – ญี่ปุ่น รายงานผลตรวจหาสายพันธุ์โควิด-19 ในผู้ต้องสงสัยที่เดินทางมาจากนามิเบีย และพบว่า ป่วยเป็นโควิด-19 จึงได้ส่งตรวจหาสายพันธุ์ ซึ่งผลออกมาวันนี้ พบว่า เป็นสายพันธุ์ โอไมครอน
  • 13.30 น. – ออสเตรเลีย รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อีก 1 ราย ใน นิวเซาท์เวลส์ โดยพบในระหว่างกักตัว ของผู้ที่เดินทางมาในเที่ยวบิน QR908 ที่มีรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 ไปก่อนหน้านี้แล้ว
  • 08.30 น. – สิงคโปร์ ระบุว่า ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับ ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย ที่ออสเตรเลียได้ถูกกักตัวแล้ว หลังจากออสเตรเลียแจ้งว่า ผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอน ทั้งสองราย มาต่อเรื่องที่สนามบิน Changi ของสิงคโปร์
  • 04.00 น. – สเปน รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้
  • 03.00 น. – สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอนอีก 2 ราย รวมทั้งหมด 11 รายแล้ว และพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้อีกกว่า 100 ราย
  • 02.30 น. – สวีเดน รายงาน พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย เป็นรายแรก
  • 02.00 น. – แคนาดา รายงานพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย ในออตตาวา ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
  • 01.00 น. – เยอรมัน รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก โดย 1 ในผู้ป่วยที่พบใหม่นี้ “ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ”
  • 00.30 น. – โปรตุเกส ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 13 รายในทีมนักฟุตบอล Belenenses SAD เร่งสอบสวนโรคเพิ่มเติม คาดว่าจะติดเชื้อจาก 1 ในผู้ป่วยที่มีประวัติเชื่อมโยงการเดินทางไปแอฟริกาใต้

ข่าวโอมิครอน – 29 พ.ย. 64

  • 16.00 น. – สกอตแลนด์ ยืนยันผลตรวจจีโนม พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ #โอไมครอน 6 ราย โดย 4 รายพบใน Lanarkshire และอีก 2 รายในพื้นที่ Greater Glasgow และ Clyde และที่น่ากังวลเนื่องจากมี 3 ราย ไม่มีประวัติเดินทางไปยังแอฟริกาใต้อย่างชัดเจน ทำให้ต้องเร่งสอบสวนโรคหาความเชื่อมโยงอย่างเร่งด่วน
  • 15.30 น. – ญี่ปุ่น พบผู้ต้องสงสัย 1 ราย ส่งตรวจจีโนมหาสายพันธุ์แล้ว เป็นชาย อายุ 30 ปี มาจากนามิเบีย พร้อมครอบครัว เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ เมื่อ 28 พ.ย. ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และมีอาการไข้ ส่วนคนในครอบครัวที่เหลือไม่พบติดเชื้อ จงให้แยกกักตัว
  • 14.00 น. – ออสเตรเลีย รายงานผลการตรวจจีโนม ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน อีก 2 ราย รวมเป็น 4 ราย
  • 12.00 น. – อินเดีย รายงานมีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1 รายในรัฐมหาราษฏระ ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้เมื่อ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ในขณะนี้รอผลการตรวจจีโนมหาสายพันธุ์
  • 08.00 น. – เนเธอร์แลนด์ จับกุมผู้ที่หนีจากโรงแรมที่กักตัวของผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ในกลุ่มที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ได้บนเครื่องบินที่กำลังจะเดินทางไปยังสเปน และ 1 ในผู้หลบหนีมีผลตรวจพบเชื้อโควิด-19
  • 04.00 น. – แคนาดา รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย ในออตตาวา ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากไนจีเรีย
  • 03.00 น. – สวิตเซอร์แลนด์ รายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
  • 03.00 น. – เนเธอร์แลนด์ สรุปเพิ่มเติม จากยอดผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 61 รายที่มาจากแอฟริกาใต้นั้น ยืนยันติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 13 ราย และยังรอบผลเพิ่มเติมอีก
  • 02.00 น. – ออสเตรีย รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย ผู้ต้องสงสัยที่อาจจะติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้อีก 30 ราย
  • 00.30 น. – ฝรั่งเศส รายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 8 ราย เป็นผู้ที่เดินทางไปแอฟริกาใต้ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
  • 00.00 น. – บอตสวานารายงานยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 10 ราย รวมสะสม 19 ราย

ข่าวโอมิครอน – 28 พ.ย. 64

  • NOTE :
  • 23.00 น. – สหราชอาณาจักร รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รายที่ 3 และผู้ที่ต้องสงสัยในสายพันธุ์นี้อีก 24 ราย
  • 13.40 น. – ออสเตรเลีย อัปเดตผลตรวจสายพันธุ์ ยืนยันผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 รายที่พบในเที่ยวบิน QR908 จากกรุงโดฮา – ซิดนีย์ ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน
  • 09.00 น. – ออสเตรเลีย รายงานว่า กำลังตรวจหาสายพันธุ์ของโควิด-19 ในผู้ติดเชื้อ 2 รายที่เดินทางจากประเทศแถบแอฟริกาใต้ที่เดินทางมาถึงเมื่อวานนี้
  • 04.00 น. – ออสเตรีย พบผู้ต้องสงสัย 1 รายที่อาจจะติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ Omicron นี้ โดยมีประวัติการเดินทางไปแอฟริกาใต้ โดยขณะนี้กำลังส่งตรวจหาสายพันธุ์
  • 03.30 น. – เยอรมนี ยืนยันผลการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ โอไมครอน 2 ราย เป็นผู้เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และพบผู้ต่อสงสัยติดเชื้อ #โควิดสายพันธุ์ใหม่ นี้อีก 1 ราย มีประวัติกลับมาจากแอฟริกาใต้
  • 03.00 น. – อิตาลี ยืนยันพบ ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เป็นชายที่เดินทางมาจากโมซัมบิก โดยผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการ และได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และพบว่า คนในครอบครัว 2 ราย จาก 5 ราย ตรวจพบติดโควิด (ยังไม่ยืนยันสายพันธุ์)
  • 02.30 น. – สาธารณรัฐเช็ก ผลตรวจยืนยัน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน 1 ราย
  • 02.00 น. – อิสราเอล รายงานพบผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 7 รายที่อาจจะติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้ โดยมี 3 รายที่ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ และจาก 7 รายที่ต้องสงสัยทั้งหมดมี 4 รายที่ไม่ได้รับวัคซีน
  • 01.00 น. – อังกฤษ ยืนยันพบผู้ติดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย โดยทั้งสองรายมีความเกี่ยวข้องกัน และมีประวัติเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปยังแอฟริกาใต้
  • 00.00 น. – (อัปเดต) เนเธอร์แลนด์ จากการผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 61 รายจาก 624 รายที่เดินทางแอฟริกานั้น มีความเป็นไปได้ว่า จะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนนี้

ข่าวโอมิครอน – 27 พ.ย. 64

  • NOTE: เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นกระแสข่าวการกลายพันธุ์ร่วมกันระหว่างเชื้อโควิด-19 กับผู้ป่วย HIV
  • 20.00 น. – รายงานอย่างไม่เป็นทางการ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในแอฟริกาใต้ เพิ่มขึ้นเป็น 93 ราย จากยอดรายงานเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมาคือ 77 ราย
  • 19.00 น. – สาธารณรัฐเช็ก พบผู้ที่เข้าข่ายอาจติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ จำนวน 1 ราย เป็นหญิงที่อาศัยอยู่ในนามิเบีย เดินทางมายังสาธารณรัฐเช็ก ผ่านแอฟริกาใต้ และดูไบ โดยผู้ป่วยรายนี้ เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว
  • 18.30 น. – เยอรมนี รายงานผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อโควิด-19 ในสายพันธุ์ โอไมครอน จำนวน 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้
  • 17.00 น. – เนเธอร์แลนด์ (อัปเดต) รวมพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 60 รายจากยอด 600 รายที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ แต่ยังรอผลการตรวจหาสายพันธุ์อีกครั้ง
  • 13.20 น.กรมควบคุมโรคของไทย ยกระดับมาตรการในการจำกัดการเดินทางใน 8 ประเทศในแถบแอฟริกาใต้ ห้ามเข้าประเทศไทย เริ่ม 1 ธ.ค.นี้ (เพิ่มเติม)
  • 05.00 น. – เนเธอร์แลนด์ พบผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ 2 เที่ยวบิน ป่วยเป็นโควิด-19 จำนวน 15 รายจาก 600 ราย แต่ยังไม่ระบุว่า เป็นสายพันธุ์กลายพันธุ์ Omicron นี้หรือไม่
  • 04.00 น. – หลายประเทศประกาศจำกัดการเดินทางจากประเทศในแถบแอฟริกาใต้เพิ่มมากขึ้น เช่น สหรัฐฯ แคนาดา รวมถึงสหภาพยุโรป
  • 03.00 น. – บอตสวานาพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ โอไมครอน นี้เพิ่มอีก 2 ราย (รวม 6 ราย)
  • 02.00 น. – องค์การอนามัยโลกประกาศกำหนดชื่อเป็น สายพันธุ์ Omicron (โอไมครอน) และยกระดับให้เป็น สายพันธุ์น่ากังวล (Variant of Concern หรือ VOC)
  • 01.00 น. – เบลเยียมระบุพบติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron นี้ 1 รายเท่านั้น

ข่าวโอมิครอน – 26 พ.ย. 64

  • Note : เพิ่ม FAQ เกี่ยวกับสายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.1.529
  • 21.35 น. – รายงานเบื้องต้น ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ Omicron (โอไมครอน) ในประเทศอิสราเอลมีประวัติได้รับวัคซีน Pfizer แล้ว 3 โดส
  • 20.45 น. – บลเยียมยืนยัน เคสผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ Nu จำนวน 1 ราย (รอผลอีก 1 ราย) โดยเป็นหญิงที่เดินทางกลับมาจากท่องเที่ยวในอียิปต์ เมื่อ 11 พ.ย.ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน มีอาการป่วยเล็กน้อยใน 22 พ.ย.
  • 20.30 น. – เพิ่มรายละเอียด 4 เคสสายพันธุ์ B.1.1.529 ในบอตสวานา
  • 19.30 น. – เบลเยียม รายงานพบผู้ที่เข้าข่ายจำนวน 2 รายที่อาจจะติดเชื้อในสายพันธุ์กลายพันธุ์นี้ กำลังรอยืนยันผลแล็บ
  • 19.00 น. ไฟเซอร์ ระบุ ขอเวลา 2 สัปดาห์ในการประเมินเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์ Omicron (โอไมครอน) ต่อประสิทธิภาพวัคซีน
  • 17.00 น. – อิสราเอล ยืนยัน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.1.529 จำนวน 1 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากประเทศมาลาวี และรอการยืนยันผลตรวจสายพันธุ์อีก 2 ราย
  • 15.00 น. – แอฟริกาใต้ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะพบผู้ติดเชื้อ สายพันธุ์ Omicron (โอไมครอน) นี้อีก 990 รายในประเทศ
  • 11.30 น. – ฮ่องกงยืนยัน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.1.529 เพิ่มอีก 1 ราย รวมสะสมเป็น 2 ราย
  • 11.30 น. – แอฟริกาใต้ พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 2,465 ราย เพิ่มขึ้น 321% (ยังได้มีการตรวจสอบสายพันธุ์)
  • 10.30 น. – สหราชอาณาจักร ยกระดับให้สายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.1.529 ให้เป็นสายพันธุ์ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน (Variant Under Investigation)

อ่านประเด็นหลัก – โควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน

1 ธ.ค.

  • เกาหลีใต้ ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ #โอไมครอน เป็นครั้งแรก จำนวน 5 ราย โดยพบในคู่สามี-ภรรยา ที่อาศัยอยู่ในเมืองอินชอน ทางตะวันตกของกรุงโซล รวมถึงสมาชิกในครอบครัว และเพื่อน

    สำหรับคู่สามี-ภรรยา คู่นี้ เดินทางไปยังประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา และเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. และตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ในขณะที่ลูก และเพื่อนของทั้งคู่จะตรวจพบเชื้อเมื่อวานนี้
  • ไอร์แลนด์ ยืนยันผลตรวจสายพันธุ์โควิด-19 ในตัวอย่าง 8 รายพบว่า มี 1 รายติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
  • ไนจีเรีย รายงานเพิ่มเติมระบุว่า จากรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่พบก่อนหน้านี้ จากการตรวจสอบตัวอย่างเชื้อย้อนหลัง พบว่า เป็นตัวอย่างที่เก็บในผู้ป่วยยืนยันตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค.2564 ที่ผ่านมา และสำหรับผู้ป่วย 2 รายที่รายงานออกไปนั้นเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการใดๆ ซึ่งทางไนจีเรียได้ทำการสอบสวนโรคเพิ่มเติมแล้ว
  • ซาอุฯ รายงานยืนยันการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอไมครอนรายแรก เป็นการพบในผู้ที่เดินทางมาจากประเทศทางเหนือของทวีปแอฟริกา
  • เดนมาร์ก สื่อฯ ท้องถิ่น รายงานว่า ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายหนึ่งในเดนมาร์ก ได้เข้าไปร่วมงานคอนเสิร์ต DJ Martin Jensen เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยในคอนเสิร์ตดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมราว 2 พันคน ก่อนตรวจพบติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
  • ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 2 รายแล้ว เป็นชายอายุ 20 ปี ที่เดินทางมาจากประเทศเปรู โดยเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา
  • ไนจีเรีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • เยอรมนี ระบุว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 4 รายที่มีประวัติการเข้ารับวัคซีนครบถ้วนแล้ว
  • มหาวิทยาลัยฮ่องกง ประสบความสำเร็จในการแยกเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ออกจากตัวอย่างได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในเอเซีย เพื่อนำไปใช้ในการค้นคว้าวิจัยต่อไป โดยได้เก็บตัวอย่างหลังจากที่มีการพบในฮ่องกง

    ซึ่งฮ่องกง พบผู้ป่วย 2 รายแรกที่มีรายงานในฮ่องกง เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา และผู้ป่วยรายที่ 3 เมื่อวันที่28 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยรายนี้เดินทางมาจากไนจีเรีย ผ่านมาทางเอธิโอเปีย และไทย
  • อิสราเอล สาธารณสุขของอิสราเอลให้ข้อมูลกับสื่อท้องถิ่น Channel 12 โดยระบุว่า รายงานเบื้องต้น พบว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้ราว 90% น้อยกว่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลต้า ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 95%

    ในขณะที่อัตราการป้องกันอาการรุนแรง-เสียชีวิตอยู่ที่ราว 93% ดังนั้นการฉีดเข็มกระตุ้นยังคงมีความจำเป็นอยู่ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยจะมีความเสี่ยงอาการรุนแรงมากกว่าถึง 2.4 เท่า
  • บราซิล รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นครั้งแรก ในผู้ป่วยจำนวน 2 ราย โดยเป็นคู่สามี (อายุ 41) ภรรยา (อายุ 37) เดินทางจากแอรฟริกาใต้ถึงบราซิลเมื่อ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา และกำลังจะเดินทางกลับ จึงต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 25 พ.ย. พบว่า ผลเป็นบวก

    หลังจากนั้นมีการประกาศพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ทำให้ ANVISA ของบราซิลได้ส่งตรวจหาเชื้อและพบว่า เป็นเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน

  • สหราชอาณาจักร พบติดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 8 ราย ใน East Midlands, East of England, London, North West ทำให้ยอดสะสมในขณะนี้เป็น 22 รายแล้ว และ UKHSA กำลังเร่งสอบสวนโรคหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปแอฟริกาใต้มาก่อนหรือไม่ พร้อมจะมีการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ดังกล่าวด้วย

  • แคนาดา รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น6 รายแล้ว
  • ฟินแลนด์ รายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

30 พ.ย.

  • 19.30 น. – เนเธอร์แลนด์ รายงาน พบเชื้อ #โควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron ก่อนหน้ารายงานผู้ป่วยรายแรกในประเทศ สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ (RIVM) รายงานว่า พบตัวอย่างที่มีเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 2 ตัวอย่าง ที่เก็บได้ตั้งแต่วันที่ 19 – 23 พ.ย. ก่อนการรายงานค้นพบในแอฟริกาใต้ในวันที่ 25 พ.ย.
  • 18.30 น. – อิสราเอล รายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย เป็นแพทย์ชาวอิสราเอล ซึ่งทั้ง 2 รายได้รับวัคซีน Pfizer 3 โดสแล้ว โดย 1 ใน 2 รายนี้เพิ่งเดินทางกลับมาจากลอนดอน, อังกฤษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีพบผู้ป่วยติดเชื้อในสายพันธุ์โอไมครอนอีก 2 ราย หนึ่งในนั้นได้รับวัคซีน AstraZeneca แล้ว
  • 16.00 น. – สกอตแลนด์ พบติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนอีก 3 ราย ซึ่งในขณะนี้สหราชอาณาจักร มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 14 ราย และบางส่วนยังไม่ประวัติเชื่อมโยงกับการเดินทางไปยังแอฟริกาใต้
  • 14.00 น. – ญี่ปุ่น รายงานผลตรวจหาสายพันธุ์โควิด-19 ในผู้ต้องสงสัยที่เดินทางมาจากนามิเบีย และพบว่า ป่วยเป็นโควิด-19 จึงได้ส่งตรวจหาสายพันธุ์ ซึ่งผลออกมาวันนี้ พบว่า เป็นสายพันธุ์ โอไมครอน
  • 13.30 น. – ออสเตรเลีย รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อีก 1 ราย ใน นิวเซาท์เวลส์ โดยพบในระหว่างกักตัว ของผู้ที่เดินทางมาในเที่ยวบิน QR908 ที่มีรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 ไปก่อนหน้านี้แล้ว
  • 08.30 น. – สิงคโปร์ ระบุว่า ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับ ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย ที่ออสเตรเลียได้ถูกกักตัวแล้ว หลังจากออสเตรเลียแจ้งว่า ผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอน ทั้งสองราย มาต่อเรื่องที่สนามบิน Changi ของสิงคโปร์
  • 04.00 น. – สเปน รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้
  • 03.00 น. – สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอนอีก 2 ราย รวมทั้งหมด 11 รายแล้ว และพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้อีกกว่า 100 ราย
  • 02.30 น. – สวีเดน รายงาน พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย เป็นรายแรก
  • 02.00 น. – แคนาดา รายงานพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย ในออตตาวา ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
  • 01.00 น. – เยอรมัน รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก โดย 1 ในผู้ป่วยที่พบใหม่นี้ “ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ”
  • 00.30 น. – โปรตุเกส ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 13 รายในทีมนักฟุตบอล Belenenses SAD เร่งสอบสวนโรคเพิ่มเติม คาดว่าจะติดเชื้อจาก 1 ในผู้ป่วยที่มีประวัติเชื่อมโยงการเดินทางไปแอฟริกาใต้

29 พ.ย. 64

  • 16.00 น. – สกอตแลนด์ ยืนยันผลตรวจจีโนม พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ #โอไมครอน 6 ราย โดย 4 รายพบใน Lanarkshire และอีก 2 รายในพื้นที่ Greater Glasgow และ Clyde และที่น่ากังวลเนื่องจากมี 3 ราย ไม่มีประวัติเดินทางไปยังแอฟริกาใต้อย่างชัดเจน ทำให้ต้องเร่งสอบสวนโรคหาความเชื่อมโยงอย่างเร่งด่วน
  • 15.30 น. – ญี่ปุ่น พบผู้ต้องสงสัย 1 ราย ส่งตรวจจีโนมหาสายพันธุ์แล้ว เป็นชาย อายุ 30 ปี มาจากนามิเบีย พร้อมครอบครัว เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ เมื่อ 28 พ.ย. ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และมีอาการไข้ ส่วนคนในครอบครัวที่เหลือไม่พบติดเชื้อ จงให้แยกกักตัว
  • 14.00 น. – ออสเตรเลีย รายงานผลการตรวจจีโนม ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน อีก 2 ราย รวมเป็น 4 ราย
  • 12.00 น. – อินเดีย รายงานมีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1 รายในรัฐมหาราษฏระ ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้เมื่อ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ในขณะนี้รอผลการตรวจจีโนมหาสายพันธุ์
  • 08.00 น. – เนเธอร์แลนด์ จับกุมผู้ที่หนีจากโรงแรมที่กักตัวของผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ในกลุ่มที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ได้บนเครื่องบินที่กำลังจะเดินทางไปยังสเปน และ 1 ในผู้หลบหนีมีผลตรวจพบเชื้อโควิด-19
  • 04.00 น. – แคนาดา รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย ในออตตาวา ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากไนจีเรีย
  • 03.00 น. – สวิตเซอร์แลนด์ รายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
  • 03.00 น. – เนเธอร์แลนด์ สรุปเพิ่มเติม จากยอดผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 61 รายที่มาจากแอฟริกาใต้นั้น ยืนยันติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 13 ราย และยังรอบผลเพิ่มเติมอีก
  • 02.00 น. – ออสเตรีย รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย ผู้ต้องสงสัยที่อาจจะติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้อีก 30 ราย
  • 00.30 น. – ฝรั่งเศส รายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 8 ราย เป็นผู้ที่เดินทางไปแอฟริกาใต้ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
  • 00.00 น. – บอตสวานารายงานยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มอีก 10 ราย รวมสะสม 19 ราย

28 พ.ย. 64

  • NOTE :
  • 23.00 น. – สหราชอาณาจักร รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รายที่ 3 และผู้ที่ต้องสงสัยในสายพันธุ์นี้อีก 24 ราย
  • 13.40 น. – ออสเตรเลีย อัปเดตผลตรวจสายพันธุ์ ยืนยันผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 รายที่พบในเที่ยวบิน QR908 จากกรุงโดฮา – ซิดนีย์ ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน
  • 09.00 น. – ออสเตรเลีย รายงานว่า กำลังตรวจหาสายพันธุ์ของโควิด-19 ในผู้ติดเชื้อ 2 รายที่เดินทางจากประเทศแถบแอฟริกาใต้ที่เดินทางมาถึงเมื่อวานนี้
  • 04.00 น. – ออสเตรีย พบผู้ต้องสงสัย 1 รายที่อาจจะติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ Omicron นี้ โดยมีประวัติการเดินทางไปแอฟริกาใต้ โดยขณะนี้กำลังส่งตรวจหาสายพันธุ์
  • 03.30 น. – เยอรมนี ยืนยันผลการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ โอไมครอน 2 ราย เป็นผู้เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และพบผู้ต่อสงสัยติดเชื้อ #โควิดสายพันธุ์ใหม่ นี้อีก 1 ราย มีประวัติกลับมาจากแอฟริกาใต้
  • 03.00 น. – อิตาลี ยืนยันพบ ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เป็นชายที่เดินทางมาจากโมซัมบิก โดยผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการ และได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และพบว่า คนในครอบครัว 2 ราย จาก 5 ราย ตรวจพบติดโควิด (ยังไม่ยืนยันสายพันธุ์)
  • 02.30 น. – สาธารณรัฐเช็ก ผลตรวจยืนยัน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน 1 ราย
  • 02.00 น. – อิสราเอล รายงานพบผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 7 รายที่อาจจะติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้ โดยมี 3 รายที่ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ และจาก 7 รายที่ต้องสงสัยทั้งหมดมี 4 รายที่ไม่ได้รับวัคซีน
  • 01.00 น. – อังกฤษ ยืนยันพบผู้ติดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 2 ราย โดยทั้งสองรายมีความเกี่ยวข้องกัน และมีประวัติเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปยังแอฟริกาใต้
  • 00.00 น. – (อัปเดต) เนเธอร์แลนด์ จากการผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 61 รายจาก 624 รายที่เดินทางแอฟริกานั้น มีความเป็นไปได้ว่า จะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนนี้

27 พ.ย. 64

  • NOTE: เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นกระแสข่าวการกลายพันธุ์ร่วมกันระหว่างเชื้อโควิด-19 กับผู้ป่วย HIV
  • 20.00 น. – รายงานอย่างไม่เป็นทางการ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในแอฟริกาใต้ เพิ่มขึ้นเป็น 93 ราย จากยอดรายงานเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมาคือ 77 ราย
  • 19.00 น. – สาธารณรัฐเช็ก พบผู้ที่เข้าข่ายอาจติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ จำนวน 1 ราย เป็นหญิงที่อาศัยอยู่ในนามิเบีย เดินทางมายังสาธารณรัฐเช็ก ผ่านแอฟริกาใต้ และดูไบ โดยผู้ป่วยรายนี้ เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว
  • 18.30 น. – เยอรมนี รายงานผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อโควิด-19 ในสายพันธุ์ โอไมครอน จำนวน 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้
  • 17.00 น. – เนเธอร์แลนด์ (อัปเดต) รวมพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 60 รายจากยอด 600 รายที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ แต่ยังรอผลการตรวจหาสายพันธุ์อีกครั้ง
  • 13.20 น.กรมควบคุมโรคของไทย ยกระดับมาตรการในการจำกัดการเดินทางใน 8 ประเทศในแถบแอฟริกาใต้ ห้ามเข้าประเทศไทย เริ่ม 1 ธ.ค.นี้ (เพิ่มเติม)
  • 05.00 น. – เนเธอร์แลนด์ พบผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ 2 เที่ยวบิน ป่วยเป็นโควิด-19 จำนวน 15 รายจาก 600 ราย แต่ยังไม่ระบุว่า เป็นสายพันธุ์กลายพันธุ์ Omicron นี้หรือไม่
  • 04.00 น. – หลายประเทศประกาศจำกัดการเดินทางจากประเทศในแถบแอฟริกาใต้เพิ่มมากขึ้น เช่น สหรัฐฯ แคนาดา รวมถึงสหภาพยุโรป
  • 03.00 น. – บอตสวานาพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ โอไมครอน นี้เพิ่มอีก 2 ราย (รวม 6 ราย)
  • 02.00 น. – องค์การอนามัยโลกประกาศกำหนดชื่อเป็น สายพันธุ์ Omicron (โอไมครอน) และยกระดับให้เป็น สายพันธุ์น่ากังวล (Variant of Concern หรือ VOC)
  • 01.00 น. – เบลเยียมระบุพบติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron นี้ 1 รายเท่านั้น

26 พ.ย. 64

  • Note : เพิ่ม FAQ เกี่ยวกับสายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.1.529
  • 21.35 น. – รายงานเบื้องต้น ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ Omicron (โอไมครอน) ในประเทศอิสราเอลมีประวัติได้รับวัคซีน Pfizer แล้ว 3 โดส
  • 20.45 น. – บลเยียมยืนยัน เคสผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ Nu จำนวน 1 ราย (รอผลอีก 1 ราย) โดยเป็นหญิงที่เดินทางกลับมาจากท่องเที่ยวในอียิปต์ เมื่อ 11 พ.ย.ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน มีอาการป่วยเล็กน้อยใน 22 พ.ย.
  • 20.30 น. – เพิ่มรายละเอียด 4 เคสสายพันธุ์ B.1.1.529 ในบอตสวานา
  • 19.30 น. – เบลเยียม รายงานพบผู้ที่เข้าข่ายจำนวน 2 รายที่อาจจะติดเชื้อในสายพันธุ์กลายพันธุ์นี้ กำลังรอยืนยันผลแล็บ
  • 19.00 น. ไฟเซอร์ ระบุ ขอเวลา 2 สัปดาห์ในการประเมินเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์ Omicron (โอไมครอน) ต่อประสิทธิภาพวัคซีน
  • 17.00 น. – อิสราเอล ยืนยัน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.1.529 จำนวน 1 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากประเทศมาลาวี และรอการยืนยันผลตรวจสายพันธุ์อีก 2 ราย
  • 15.00 น. – แอฟริกาใต้ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะพบผู้ติดเชื้อ สายพันธุ์ Omicron (โอไมครอน) นี้อีก 990 รายในประเทศ
  • 11.30 น. – ฮ่องกงยืนยัน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.1.529 เพิ่มอีก 1 ราย รวมสะสมเป็น 2 ราย
  • 11.30 น. – แอฟริกาใต้ พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 2,465 ราย เพิ่มขึ้น 321% (ยังได้มีการตรวจสอบสายพันธุ์)
  • 10.30 น. – สหราชอาณาจักร ยกระดับให้สายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.1.529 ให้เป็นสายพันธุ์ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน (Variant Under Investigation)

อ่านประเด็นหลัก – โควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน


ข้อมูล –

  • https://www.gov.ie/en/press-release/51184-statement-from-the-department-of-health-25-november-2021/
  • https://www.nature.com/articles/d41586-021-03552-w
  • https://www.nicd.ac.za/
  • https://www.hln.be/binnenland/mogelijk-2-gevallen-van-nieuwe-variant-in-ons-land-opgedoken-dit-zegt-viroloog-marc-van-ranst~a91b8691/
  • https://assets.uzleuven.be/files/2021-11/genomic_surveillance_update_211126.pdf
  • https://www.who.int/news/item/26-11-2021-classification-of-omicron-(b.1.1.529)-sars-cov-2-variant-of-concern
  • https://www.ecdc.europa.eu/en/publications-data/threat-assessment-brief-emergence-sars-cov-2-variant-b.1.1.529
  • https://www.businesswire.com/news/home/20211126005595/en/Moderna-Announces-Strategy-to-Address-Omicron-B.1.1.529-SARS-CoV-2-Variant
  • https://www.telegraph.co.uk/global-health/science-and-disease/south-african-doctor-raised-alarm-omicron-variant-says-symptoms/
  • https://www.health.nsw.gov.au/
  • https://www.gov.uk/government/news/covid-19-variants-identified-in-the-uk
  • https://www.ottawapublichealth.ca/en/public-health-topics/novel-coronavirus.aspx#November-28-2021-Special-statement-from-Dr-Vera-Etches
  • https://solidarites-sante.gouv.fr/actualites/presse/communiques-de-presse/article/les-autorites-sanitaires-francaises-surveillent-les-cas-possibles-de-personnes
  • https://www.folkhalsomyndigheten.se/nyheter-och-press/nyhetsarkiv/2021/november/ny-virusvariant-av-sars-cov-2-aven-i-sverige/
  • https://www.ssi.dk/aktuelt/nyheder/2021/status-paa-omikron-varianten
  • https://www.gisaid.org/hcov19-variants/
  • https://www.rivm.nl/en/news/omicron-variant-found-in-two-previous-test-samples
  • https://www.folkhalsomyndigheten.se/the-public-health-agency-of-sweden/
  • https://www.gov.br/anvisa/
  • https://www.hku.hk/press/press-releases/detail/23674.html
  • https://www.health.gov.au/
  • https://ncdc.gov.ng/
  • www.spa.gov.sa
  • https://www.ssi.dk/aktuelt/nyheder/2021/status-pa-omikron-varianten-b11529-pr-011221
  • https://www.cdc.gov/media/releases/2021/s1201-omicron-variant.html
  • https://www.moh.gov.sg/news-highlights/details/two-imported-covid-19-cases-tested-preliminarily-positive-for-omicron-variant
  • https://thl.fi/en/web/thlfi-en/-/coronavirus-infection-caused-by-the-omicron-variant-has-been-detected-in-finland?redirect=%2Fen%2Fweb%2Fthlfi-en
  • https://governor.hawaii.gov/newsroom/doh-news-release-hawaii-department-of-health-laboratory-detects-omicron-variant-in-hawaii/
  • https://hpa.gov.mv
  • https://twitter.com/mohpnep/status/1467764000716775424
  • https://ria.ru/20211206/omikron-1762369526.html
  • https://www.facebook.com/phneoc/