วันนี้ กระทรวงสาธารณสุข แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 การพบผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 49 ราย รวมสะสมในขณะนี้ 63 ราย ในขณะที่ยังคงต้องรอผลตรวจยืนยันอีกราว 30 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ป่วยที่มีเดินทางมาจากต่างประเทศ มีเพียง 1 รายที่รอผลตรวจยืนยันอีกครั้ง ว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ และหากผลตรวจยืนยันว่า เป็นสายพันธุ์โอมิครอน ก็จะเป็นผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกที่ติดเชื้อในประเทศไทย
โอมิครอน พบแล้ว 3 สายพันธุ์ย่อย
สำหรับในขณะนี้ มีรายงานการพบสายพันธุ์ย่อย แล้วทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน คือ BA.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่มีการพบมากที่สุด ส่วน BA.2 มีรายงานการพบแล้ว รวมถึงพบสายพันธุ์ย่อยชนิดใหม่คือ BA.3
อย่างไร ก็ตามทั้งสามสายพันธุ์ย่อยในขณะนี้ ยังคงมีส่วนของสายพันธุ์หลักคือ BA.1 ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดได้ดี มีค่า R0 ของสายพันธุ์โอมิครอน อยู่ที่ 8.45 สูงกว่าสายพันธุ์เดลต้า
แต่จากข้อมูลที่มีในขณะนี้ จากรายงานในประเทศแอฟริกาใต้ พบว่าแม้ว่าจะแพร่ระบาดได้รวดเร็ว แต่อัตราการป่วยหนัก หรือเสียชีวิตยังไม่พุ่งสูงขึ้น
สำหรับในประเทศไทย
ในขณะนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่พบในประเทศไทยนั้น ทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับการเดินทางมาจากต่างประเทศ และยังไม่พบคลัสเตอร์ในประเทศไทย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ในคลัสเตอร์ทองหล่อ หรือ คลัสเตอร์แคมป์คนงานที่หลักสี่
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่พบเป็นผู้ที่มีประวัติการเดินทางมาจากต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งในขณะนี้ พบในผู้ป่วยจาก Test & Go ราว 1 ใน 4 ของผู้ป่วยโควิด-19 ในสายพันธุ์อื่น ๆ และมี 1 รายที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในประเทศต้นทางและไม่พบเชื้อ หลังจากเดินทางเข้ามาถึงประเทศไทย ผลตรวจ RT-PCR ก็ไม่พบเชื้อ ซึ่งเมื่อเดินทางกลับไปกักตัวที่บ้าน มีอาการป่วย จึงตรวจพบเชื้อโควิด19 ในภายหลัง ทำให้ในขณะนี้จะต้องมีการพิจารณาแนวทางของโครงการ Test & Go อีกครั้ง โดยอาจจะกลับมาใช้ระบบการกักตัวอีกครั้งหนึ่ง
ผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอน ในไทย
ในขณะนี้ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย ครบกำหนดการรักษาตัวแล้ว โดยยังคงอยู่ในประเทศไทย ตลอดระยะเวลาในการรักษาตัว ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างดใด