Hong Kong HongKong ร้านอาหาร ฮ่องกง ฮ่องกง

ชวนเช็คอิน 10 ร้านดัง “ฮ่องกง” สวรรค์ของนักชิม

ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางของอาหารแห่งเอเชีย ที่มีความหลากหลาย ทั้งอาหารตะวันออกและตะวันตก ตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงไฟน์ไดน์นิ่ง

Home / FOOD, ไลฟ์สไตล์ / ชวนเช็คอิน 10 ร้านดัง “ฮ่องกง” สวรรค์ของนักชิม

จุดหมายปลายทาง “ฮ่องกง” เป็นทั้งสวรรค์ของสายมู สายช้อปปิ้ง และสายกิน เพราะฮ่องกงเป็นศูนย์กลางของอาหารแห่งเอเชีย ที่มีความหลากหลาย ทั้งอาหารตะวันออกและตะวันตก ตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงไฟน์ไดน์นิ่ง โดย การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board : HKTB) พามาแนะนำร้านเด็ดร้านดัง เชิญชวนนักชิมให้ไปเช็คอินลิ้มลองความอร่อย

Bowrington Bridge Hotpot

1. Bowrington Bridge Hotpot
ที่อยู่ : Shop 1-2, G/F, 414-424 Jaffe Road, Causeway Bay

Bowrington Bridge Hotpot ร้านฮอทพอทสุดเก๋ ตกแต่งแบบสไตล์ฮ่องกงวินเทจ ในย่าน Causeway Bay มีกิมมิคเป็นน้ำซุปหลากหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็น ซุปไก่น้ำมะพร้าว ซุปซอสสะเต๊ะ พร้อมเมนูซิกเนเจอร์อย่างลูกชิ้นปลา ร้านนี้ยังมีเมนูเซ็ตเล็กสำหรับให้ลูกค้าที่มาเพียง 2 คน สามารถทานฮอทพอตได้ด้วย

Ho Wah Restaurant

2. Ho Wah Restaurant
ที่อยู่ : Shop A, G/F, Comix Home Base, 1-11 Mallory Street, Wan Chai
Map : https://share.google/OgOx37qf6Cm0IAb7Q

ร้าน Ho Wah Restaurant ตั้งอยู่ย่านหว่านไจ๋ (Wan Chai) ร้านสไตล์ชาชางเตง (Cha Chaan Teng) หรือร้านอาหารเช้าแบบฮ่องกงที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง เปิดให้บริการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1952 เริ่มต้นจากรถเข็นที่เร่ขายไปตามถนน ปัจจุบันดำเนินการโดยทายาทรุ่นที่ 3 คือคุณ Bill Ho ร้านแห่งนี้เสิร์ฟชานมสไตล์ฮ่องกง กาแฟ ทานคู่กับอาหารง่ายๆ เช่น เฟรนช์โทสต์ และ ขนมปังลูกเกดสอดไส้ ‘คายา’ (สังขยาแบบฮ่องกง) และเนยสด

Seventh Son Restaurant

3. Seventh Son Restaurant
ที่อยู่ : 3/F, Wharney Hotel, 57-73 Lockhart Road, Wan Chai
Map : https://maps.app.goo.gl/X4vkXu3F1GUDcwGAA

ร้านอาหาร Seventh Son Restaurant รางวัลมิชลิน 1 ดาว Hong Kong Macau Michelin Guide 2025 ตั้งชื่อร้านตามหัวหน้าเชฟ Chui Wai Kwan ซึ่งเป็นลูกชายคนที่ 7 ของ Chui Fook Chuen ผู้ก่อตั้งสถาบันอาหารกวางตุ้ง Fook Lam Moon ซึ่งเชฟ Chui Wai Kwan เป็นลูกคนเดียวที่ได้ฝึกงานกับพ่อ โดยเริ่มทำงานในร้านอาหารกับพ่อตั้งแต่อายุ 14 ปี เรียนรู้การคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุด ฝึกฝนทักษะการใช้มีด และที่สำคัญที่สุดคือการสร้างสรรค์อาหารที่ยอดเยี่ยม

และในปี 2013 เชฟ Chui Wai Kwan ได้ก้าวออกมาสร้างแบรนด์ร้านอาหารของตัวเอง โดยตั้งใจปรุงอาหารกวางตุ้งเพื่อครองใจลูกค้าทั่วโลก มีเมนูซิกเนเจอร์คือ “หมูหัน” ที่สามารถนำมารับประทานได้ทุกส่วนตั้งแต่หนังที่กรอบ เนื้อนุ่มละเอียดละลายในปากไปจนถึงซี่โครง และไก่ทอดกรอบสูตรลับเฉพาะของทางร้าน

Bakehouse Wan Chai Bakery & Cafe

4. Bakehouse Wan Chai Bakery & Cafe
ที่อยู่ : G/F, 14 Tai Wong Street East, Wanchai, Hong Kong
Map : https://maps.app.goo.gl/YasgyPrdBHZUkcwh9

Bakehouse ร้านเบเกอรี่ชื่อดังในฮ่องกง มีหลายสาขา ทั้ง Wanchai, Soho, Causeway Bay, Tsim Sha Tsui, Stanley และ CityGate Outlet เมนูซิกเนเจอร์คือ “ทาร์ตไข่” จุดเริ่มต้นความอร่อยจาก เชฟ Grégoire ผู้เติบโตในสวิตเซอร์แลนด์และได้รับการฝึกฝนด้านการอบขนมตั้งแต่อายุ 15 ปี เคยทำงานในโรงแรมและร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่ง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนและยกระดับวงการเบเกอร์รี่ของฮ่องกง เชฟ Grégoire เริ่มธุรกิจเบเกอร์รี่ขายส่ง เชี่ยวชาญขนมปังซาวโดว์แบบทำมือและขนมอบคุณภาพสูงในปี 2013 และอีก 5 ปีหลังจากนั้นได้เปิด Bakehouse ร้านแรกของตัวเองในย่านหว่านไจ๋ ซึ่งเป็นสาขาแรกที่ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ และมีเมนูของคาวแบบมื้อ Brunch ให้บริการด้วย

The Opposites

5. The Opposites
ที่อยู่ : LG/F, Hilltop Plaza, 49 Hollywood Road, Central
Map : https://maps.app.goo.gl/nxxhQWsYNaZEji4Y6

The Opposites โปรเจ็คบาร์ล่าสุดของบาร์เทนเดอร์ชื่อดังแห่งฮ่องกง Antonio Lai เจ้าของ Quinary บาร์ที่ได้รางวัลของทั้ง Asia’s 50 Best Bars และ The World’s 50 Best Bars มาอย่างต่อเนื่องและ Samuel Kwok อดีตเพื่อนร่วมทีมได้ร่วมกันผนึกกำลังสร้างสรรค์บาร์แห่งใหม่

ชื่อ The Opposites พัฒนามาจากตำแหน่งที่ตั้งของร้าน ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามร้าน Quinary ต่อยอดเป็นไอเดียสิ่งที่ตรงข้ามกัน แต่ยังมีความเป็นคู่ขนานที่ตัดกันไม่ขาด เสมือน Antonio Lai และ Samuel Kwok ที่ผสมผสานสไตล์ค็อกเทลของแต่ละคน ที่แม้จะตรงข้ามกันแต่กลับส่งเสริมกัน ซึ่งแสดงออกผ่านเมนูค็อกเทล ทั้งแบบ classic และ innovative

Lobby Lounge โรงแรม Kowloon Shangri-la Hong Kong

6. Moonlight Hours ที่ Lobby Lounge โรงแรม Kowloon Shangri-la Hong Kong
ที่อยู่ : Lobby Level, Kowloon Shangri-la Hong Kong, 64 Mody Road, Tsim Sha Tsui East

“Moonlight Hours” ช่วงเวลาที่คุณจะได้ลิ้มรสขนมและของว่างสไตล์จีน ที่ Lobby Lounge ในโรงแรม Kowloon Shangri-la Hong Kong เสิร์ฟขนมหวานสไตล์จีนและของว่างมากกว่า 20 รายการในบรรยากาศที่หรูหรา เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18:30 น. เมนูไฮไลต์ อาทิ พุดดิ้งน้ำขิง สาคูมะม่วงกับส้มโอ และไข่ขาวตุ๋นกับนมสดในมะพร้าวอ่อนทั้งลูกและสมุนไพรจีน ขนมเหล่านี้ผสมผสานวัฒนธรรมอาหารของจีนเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงในการปรุง

Lok Hau Fook Restaurant

7. Lok Hau Fook Restaurant
ที่อยู่ : G/F, 1-3 Hau Wong Road, Kowloon City
Map : https://maps.app.goo.gl/HxGjBXJrsTzrFx5y7

Lok Hau Fook ร้านอาหารจีนแต้จิ๋วแบบดั้งเดิม ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1954 เมนูของร้านมีตั้งแต่เมนูดังและเมนูประจำถิ่นที่หาทานยากในฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็น แพนเค้กเมล่อนแบบแต้จิ๋ว เกี๊ยวไก่ หรือเผือกทอดเคลือบน้ำตาล ประวัติความเป็นมายาวนานและความมุ่งมั่นในการรักษาเอกลักษณ์ของอาหารแต้จิ๋ว Lok Hau Fook ยังคงเป็นร้านในดวงใจของผู้ที่แสวงหารสชาติดั้งเดิม ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงวันวาน

Mostly Harmless

8. Mostly Harmless
ที่อยู่ : 2/F, 110 Queen’s Road West, Sai Ying Pun
Map : https://share.google/Z1WgAtzSraAOg8Aje

Mostly Harmless อันดับที่ 88 ใน Asia’s 50 Best Bars 2025 บาร์ค็อกเทลแบบโอมากาเสะใน Sai Ying Pun บาร์แห่งนี้ดูแลโดย Ezra Star จะมีชื่อของแขกและวัตถุดิบหลักของเมนูเขียนไว้ที่กำแพง คอนเซ็ปต์ของบาร์นี้คือการเสิร์ฟเมนูที่เปลี่ยนไปทุกสัปดาห์ วัตถุดิบหลักมาจากฟาร์มพันธมิตรที่ผลัดเปลี่ยนมาส่งไม่ซ้ำกัน ทำให้บาร์แห่งนี้เปิดเพียงอาทิตย์ละ 4 วัน เพื่อให้เวลาทีมงานได้คิดค้นเมนูใหม่ๆ โดยมีทั้งเมนูแบบค็อกเทลและม็อกเทล

CulinArt 1862

9. CulinArt 1862
ที่อยู่ : G/F & 1/F, Chinachem Leighton Plaza, 29 Leighton Road, Causeway Bay
Map : https://maps.app.goo.gl/ye5JWjR5hf32RoZA9

CulinArt 1862 ร้านอาหารฝรั่งเศสแนวยั่งยืน ภายใต้การร่วมมือกับ Towngas (บริษัทผู้จัดจำหน่ายเชื้อเพลิงและพลังงานที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความยั่งยืน) ในย่าน Causeway Bay แนวคิดหลักของร้านคือการใช้วัตถุดิบจากฟาร์มของตัวเอง และสนับสนุนเกษตรกรในฮ่องกง พร้อมให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกๆ ขั้นตอนการปรุงอาหาร

นอกจากเป็นร้านอาหารแล้ว ยังมีการเปิดคลาสสอนทำอาหารทั้งอาหารจีนและอาหารตะวันตก และเบเกอรี่ขนมหวาน หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นไปตามแนวทางของของรัฐบาลฝรั่งเศส เมื่อจบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศจากรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นการรับรอง เพื่อให้นักเรียนที่เรียนจบไปสามารถนำความรู้ไปใช้งานได้จริง

Kee Wah Bakery และ Kee Wah Studio

10. Kee Wah Bakery และ Kee Wah Studio
ที่อยู่ : 2/F, 188 Queen’s Road East, Wan Chai
Map : https://share.google/NEqClG7NUBd2aA9u3

Kee Wah Bakery เริ่มต้นจากการเป็นร้านขายของชำเล็กๆ ในย่านชุมชนเมื่อปี 1938 ต่อมาขยับขยายจากการขายเพียงขนมเค้กแต่งงานไปสู่ขนมไหว้พระจันทร์และขนมท้องถิ่น ปัจจุบันกลายเป็นแบรนด์เบเกอรี่จีนแบบดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นหนึ่งในร้านของฝากยอดนิยมของคนฮ่องกงและนักท่องเที่ยว

นอกจากนั้นยังมี Kee Wah Tearoom ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 2 ของร้าน Kee Wah สาขาแฟลกชิปในหว่านไจ๋ เป็นอาคารเก่าแก่ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นอาคารทางประวัติศาสตร์ระดับ 3 (Historic Grade 3) ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในบรรยากาศการตกแต่งสุดคลาสสิกยุคปี ’30

ชั้นบนสุดเปิดเป็น Kee Wah Studio พื้นที่เวิร์คช็อปสอนทำขนมหลากหลายประเภท ทั้งขนมท้องถิ่นและขนมสไตล์ตะวันตก โดยอาจารย์มืออาชีพ เพื่อให้คนฮ่องกงและนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และทำความเข้าใจวัฒนธรรมของขนมโบราณหลายชนิดของฮ่องกงผ่านการลงมือทำจริงๆ โดยคลาสทำขนมจะเปลี่ยนไปตามตาราง