กินตามธาตุทั้ง 4 กินตามธาตุเจ้าเรือน ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ธาตุเจ้าเรือน

เคล็ดไม่ลับ กินถูกวิธี อายุยืน ห่างไกลโรค “ตามธาตุเจ้าเรือน” ทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ

เว็บไซต์ Mthai มีเคล็ดไม่ลับมาฝากแฟนๆกินถูกวิธีตามธาตุเจ้าเรือนทั้ง 4 ดิน,น้ำ.ลม.ไฟ อายุยืนห่างไกลโรคกับ อาจารย์ปอนด์ เพราะอาหารเป็นส่วนนึงในวิถีประจำวันที่สำคัญของมนุษย์ เพราะใน 1 วันเราควรรับประทานอาหารอย่างน้อย ให้ครบ 3 มื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้าจัดเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด…

Home / FOOD / เคล็ดไม่ลับ กินถูกวิธี อายุยืน ห่างไกลโรค “ตามธาตุเจ้าเรือน” ทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ

เว็บไซต์ Mthai มีเคล็ดไม่ลับมาฝากแฟนๆกินถูกวิธีตามธาตุเจ้าเรือนทั้ง 4 ดิน,น้ำ.ลม.ไฟ อายุยืนห่างไกลโรคกับ อาจารย์ปอนด์

เพราะอาหารเป็นส่วนนึงในวิถีประจำวันที่สำคัญของมนุษย์ เพราะใน 1 วันเราควรรับประทานอาหารอย่างน้อย ให้ครบ 3 มื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้าจัดเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด ดังนั้นวันนี้ปอนด์ จึงขอนำเคล็ดลับที่มีความเกี่ยวข้องกับธาตุและอายุรเวทตามหลักแพทย์แผนไทยที่ได้แบ่งคนไว้เป็น 4 ธาตุ ตามช่วงเวลาการปฏิสนธิ ซึ่งหลักนี้เรียกว่า “ธาตุเจ้าเรือน” 

จุดกำเนิด ธาตุทั้ง 4

ซึ่งทางการแพทย์แผนไทยโบราณมีความเชื่อในเรื่องธรรมชาติถึงการกำเนิดว่า การเกิดรูปครั้งแรกในครรภ์มารดาจะมีขนาดเล็กมาก ขนาดเพียงเท่ากับหยดน้ำมันงาที่ติดอยู่ปลายขนจามรี หลังจากถูกสะบัด ถึง 7 ครั้ง และด้วยอิทธิพลของธาตุไฟก่อน จึงเกิดธาตุอื่น ตามมาจนครบธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ แล้วจึงเกิดเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณจนครบขันธ์ 5 เมื่อครรภ์ ครบ 5 เดือน

นั่นคือชีวิตได้เกิดแล้ว และด้วยอิทธิพลธรรมชาติ ได้แก่ ความร้อน ความเย็นของภูมิอากาศตามฤดูกาล จึงทำให้ธาตุทั้ง 4 ของแต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไปและเริ่มมีอิทธิพลแล้วตั้งแต่ปฏิสนธิในครรภ์มารดา ดังพระคัมภีร์ปฐมจินดาตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า เมื่อตั้งครรภ์ในฤดูอันใด ธาตุอันใด ให้เอาธาตุของฤดูนั้นเป็นที่ตั้งแห่งธาตุกำเนิดของกุมารกุมารีนั้นๆ เช่น

  • ตั้งครรภ์ในเดือน 5, 6, 7 เป็นลักษณะแห่งไฟ
  • ตั้งครรภ์ในเดือน 8, 9, 10 เป็นลักษณะแห่งลม
  • ตั้งครรภ์ในเดือน 11, 12, 1 เป็นลักษณะแห่งน้ำ
  • ตั้งครรภ์ในเดือน 2, 3, 4 เป็นลักษณะแห่งดิน

(ซึ่งหลักจริงๆอ้างอิงจากการนับเดือนอ้างอิงตามหลักจันทรคติของไทย คือ กำหนดให้ขึ้น 1 ค่ำตามปฏิทินจันทรคติไทย เดือน 1 หรือเดือนอ้ายมักเริ่มในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม มีระยะ 29 วัน คือ ตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 1 ถึงแรม 14 ค่ำ เดือน1) แต่เพื่อการอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น จึงจะขอแบ่งคนตามเดือนเกิดสากล เพื่อให้เข้าใจง่ายๆดังนั้น

ผู้ที่มีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุไฟ (เตโช)คือผู้เกิดในเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ ธันวาคม

คือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 5 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งเริ่มในเดือนมีนาคมหรือเมษายน มีเวลา 29 วัน คือ ตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ถึงแรม 14 ค่ำ เดือน 5 หรือประมาณวันที่ 19 มีนาคม ถึง 7 พฤษภาคมโดยประมาณ

  • มกราคม คือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 6 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทย เดือน 6 มักเริ่มในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม มีเวลา 30 วัน คือ ตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 6 คือประมาณวันที่ 17 เมษายน ถึง 6 มิถุนายนโดยประมาณ

กุมภาพันธ์คือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 7 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทย มักเริ่มในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน ปกติมีเวลา 29 วัน คือตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 7 ถึงแรม 14 ค่ำ เดือน 7 ยกเว้นปีที่มีอธิกวาร ซึ่งเดือนนี้จะมี 30 วัน (เพิ่มวันแรม 15 ค่ำ เดือน 7 อีกวันหนึ่ง)

  • คือประมาณวันที่ 17 พฤษภาคม ถึง กรกฎาคม โดยประมาณชาวธาตุไฟจะมีพื้นฐานเป็นคนมีรูปร่างที่สมส่วน พูดจาชัดเจน ค่อนข้างเอะอะมะเทิ่ง เสียงดัง มักมีนิสัยที่หงุดหวิดหัวเสีย โกรธได้ง่ายแต่ก็หายเร็ว พวกเขาจะค่อนข้างกินดุทานจุ และหิวบ่อย เพราะระบบการย่อยและการดูดซึมดี
  • สาเหตุที่ทำให้ธาตุไฟกำเริบจะเกิดขึ้นเมื่อทานอาหารจัด เผ็ดเปรี้ยว เค็มจัด ดื่มเครื่องดื่ม หรืออาหารที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือมีอาการโมโหหรือโดนแดดจัดๆ
  • อาการที่พบ ลมพิษ ปวดหัว ทำให้ผิวแห้ง มีผื่นคัน เกิดสิวตามบริเวณใบหน้า มักเป็นร้อนใน กรดไหลย้อน ท้องเสียและท้องผูกได้บ่อยๆ 
  • การดูแลสุขภาพ เพื่อลดธาตุไฟ ในร่างกาย ควรอยู่ในที่ร่ม พยายามอาบน้ำเย็น สร้างวินัยในการขับถ่าย ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่มีรสขม ฝาดหวานและเย็น 
  • อาหารที่แนะนำให้ทาน คือมีส่วนประกอบของ ใบบัวบก,รากบัว,มะระ,ขี้เหล็ก,ฟัก,แฟง,แตง,ตำลึง,

ผักบุ้ง ฯลฯ

  • ได้แก่เมนู เช่น ต้มจืดฟักหมู,ต้มจืดตำลึง,แตงกวาผัดไข่,ไอศกรีม,แตงโม,มันแกว,แอปเปิ้ล,น้ำเก็กฮวย,น้ำใบเตย,น้ำแตงโมปั่น
  • ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสชาติหวานมันจัด อย่าง ลำไย,ทุเรียน รวมถึงอาหารปิ้งย่าง เช่น หมูกระทะ

ผู้ที่มีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุลม(วาโย)คือผู้ที่เกิดในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม มีนาคม

คือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 8 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทย มักเ ริ่มในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม มีเวลา 30 วัน คือตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 8  หรือ ประมาณวันที่ 15 มิถุนายน ถึง 5 สิงหาคม โดยประมาณ เมษายน คือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 9 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทย มักเริ่มในเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม มีเวลา29 วัน คือตั้งแต่ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 9 ถึงแรม 14 ค่ำ เดือน 9 หรือประมาณ

วันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 3 กันยายน โดยประมาณพฤษภาคม คือ ปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 10 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทยมักเริ่มในเดือนสิงหาคมหรือกันยายน มีเวลา 30 วัน คือตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 10หรือประมาณ วันที่ 21 สิงหาคม ถึง 3 ตุลาคม

  • ชาวธาตุลมพื้นฐาน รูปร่างค่อนข้างสูงโปร่ง ผอมบาง แลดูอ่อนกว่าวัย มีริมฝีปากที่อวบอิ่ม ดวงตากลมโตแลดูสดใส มีชีวิตชีวา แต่มักผิวแห้ง ผมค่อนข้างบาง มักพูดเก่ง พูดเยอะค่อนข้างซุกซน อยู่ไม่ค่อยนิ่งและอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกันก็มักจะอารมณ์แปรปรวนค่อนข้างวิตกกังวลได้ง่าย ขี้กลัวและเป็นพวกนอนหลับยาก
  • สาเหตุที่ทำให้ธาตุลมกำเริบก็ต่อเมื่อนอนน้อย อดหลับอดนอน อดอาหาร กลั้นอุจจาระ ปัสสาวะ ยกของหนัก วิตกกังวล รับประทานอาหารรสจัดเกินไป หรือเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
  • อาการที่พบ มักท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศีรษะ วิงเวียน หน้ามืด

อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง

  • การดูแลสุขภาพ เพื่อลดธาตุลมในร่างกาย ควรหมั่นนวดคลายกล้ามเนื้อ ควรรับประทานยาหอม อาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อน เพื่อกระจายและลดธาตุลม
  • อาหารที่แนะนำให้ทานคือมีส่วนประกอบของ ข่า,ตะไคร้,แมงลัก,ใบกระเพรา,โหระพา,พริกไทย,ขมิ้นชัน ฯลฯ ได้แก่เมนู เช่น ต้มยำกุ้ง,ไก่ผัดขิง,ต้มข่าไก่,ผัดกระเพราไก่,บัวลอยน้ำขิง,มันต้มขิง,น้ำตะไคร้,น้ำขิง
  • ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสชาติมันหวานเช่น เบเกอรี่,ขนมเค้กหรือมีส่วนผสมครีมเทียม

ผู้ที่มีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุน้ำ (อาโป)คือผู้เกิดในเดือน มิถุนายน-สิงหาคม มิถุนายน

คือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 11 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทย มักเริ่มในเดือนกันยายนหรือตุลาคม มีเวลา 29 วัน คือตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงแรม 14 ค่ำ เดือน 11 หรือประมาณ วันที่ 12 กันยายน ถึง 1 พฤศจิกายน โดยประมาณ

กรกฎาคมคือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 12 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทย มักเริ่มในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน มีเวลา 30 วัน คือตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 12 ถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 12 หรือประมาณ วันที่ 19 ตุลาคม ถึง 9 ธันวาคม โดยประมาณ

สิงหาคมคือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 1 (เดือนอ้าย) อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทย มักเริ่มในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม มี 29 วัน คือ ตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 1 ถึงแรม 14 ค่ำ หรือประมาณ วันที่ 21 พฤศจิกายน ถึง 9 มกราคม โดยประมาณ

  • ชาวธาตุน้ำ มักมีผิวขาว ตาโต รูปร่างอวบอั้น ผมละเอียด ดกดำ หรือมีรูปร่างสมส่วน ผิวพรรณสดใส ข้อต่อกระชับ ทนความเย็นได้ดี แต่น้ำหนักขึ้นง่าย เป็นพวกหลับสนิท ทำให้นอนได้มาก ระบบขับถ่ายเป็นปกติ พวกมักมักทำเคลื่อนไหวช้า แลดูอุ้ยอ้าย ใจเย็น มักพูดช้าและมีน้ำเสียงที่ไพเราะ
  • สาเหตุที่ทำให้ธาตุน้ำกำเริบ ก็เมื่อรับประทานอาหารรสจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด นอนกลางวันมากเกินไปหรือฤดูฝน อาการที่พบบ่อยๆ มักตัวบวม เจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ น้ำมูกไหล ไอมีเสมหะ มักมีปัญหาที่ระบบขับถ่ายมีปัญหา เช่น ท้องเสีย หรือระบบปัสสาวะ และมีโอกาสน้ำเหลืองเสียได้มากกว่าธาตุอื่น
  • การดูแลสุขภาพ เพื่อลดธาตุน้ำในร่างกาย ควรอบสมุนไพร  ประคบสมุนไพร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรรับประทาน อาหารรสเผ็ดร้อน เปรี้ยว และขม
  • อาหารที่แนะนำให้ทาน คือมีส่วนประกอบของ ยอดมะขาม,มะนาว,ผักติ้ว, ใบชะมวง,หัวหอมใหญ่,ต้นหอม,ขิง,พริกไทยดำ,มะเขือพวง,ฝักเพกา,ดอกขี้เหล็ก,ยอดมะเฟือง,สะเดา,ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะม่วงเปรี้ยว ฯลฯ
  • ได้แก่เมนู แกงส้มดอกแค,แกงจืดมะระ,ห่อหมกใบยอ,มะระผัดไข่,มะระขี้นก,น้ำใบบัวบก,ยำส้มโอ,ยำผลไม้รวม,น้ำส้มคั้น,น้ำกระเจี๊ยบ
  • ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสม เนย,นม,อาหารรสเค็มหรือเนื้อสัตว์ที่อาจปนเปื้อน

ผู้ที่มีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุดิน (ปฐวี)คือผู้เกิดในเดือนกันยายน-พฤศจิกายนกันยายน

คือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 2หรือเดือนยี่ อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทย มักเริ่มในเดือนธันวาคมหรือมกราคม มีเวลา 30 วัน คือ ตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 2 ถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 2 หรือ ประมาณวันที่ 20 ธันวาคม ถึง 8 กุมภาพันธ์โดยประมาณ

ตุลาคม คือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 3 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทยมักเริ่มในเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ มีเวลา 29 วัน คือ ตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ถึงแรม 14 ค่ำ เดือน 3 หรือประมาณวันที่ 19 มกราคม ถึง 9 มีนาคม

พฤศจิกายน คือปฏิสนธิในครรภ์มารดาช่วงเดือน 4 อ้างอิงตามหลักปฏิทินจันทรคติของไทยมักเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม มีเวลา 30 วัน คือ ตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 ถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 4หรือประมาณวันที่ 17 กุมภาพันธ์ถึง 8 เมษายน โดยประมาณ

  • ชาวราศีธาตุดิน มักเป็นมีรูปร่าง สูงใหญ่ กระดูกใหญ่ แข็งแรง มีผมที่ค่อนข้างดกดำและมีเส้นหนา เป็นพวกพูดจาฉะฉาน หนักแน่น เสียงดัง สุขุม รอบคอบ ค่อนข้าง มีจิตใจที่หนักแน่นมั่นคง แต่มีความดื้อรั้น ขี้น้อยใจ
  • สาเหตุที่ทำให้ธาตุดินกำเริบ หรือผิดเกิดได้จาก 3 ปัจจัย คือเกิดจากหทัยวัตถุ (หัวใจ) หมายถึง ความสมบูรณ์ของหัวใจ การทำงาน การเต้น ความสมบูรณ์ของกล้ามเนื้อหัวใจ เป็นต้น โรคที่เกิดมักเกิดจากการทำงานของหัวใจ
  • อุทริยัง (อาหารใหม่) หมายถึง อาหารที่รับประทานเข้าไปใหม่ๆ โรคที่เกิดมักเกิดจากการกินอาหารที่ผิดปกติเรียกว่า “กินผิด” คือ กินไม่ถูกกับธาตุ กินอาหารไม่สะอาด กินอาหารแสลงโรค เป็นต้น
  • กรีสัง (อาหารเก่า) หมายถึง กากอาหารในลำไส้ใหญ่ที่จะออกมาเป็นอุจจาระ ลักษณะหรือกลิ่นของอุจจาระเป็นตัวบ่งบอกสุขภาพ อุจจาระหยาบ ละเอียด แข็ง เหลว กลิ่นเหมือนปลาเน่า ธาตุน้ำ เป็นเหตุ กลิ่นเหมือนหญ้าเน่า ธาตุไฟเป็นเหตุ กลิ่นเหมือนข้าวบูด ธาตุลมเป็นเหตุ กลิ่นเหมือนซากศพ ธาตุดินเป็นเหตุ เป็นต้น
  • เนื่องจากเป็นธาตุโครงสร้างจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ ในเรื่องความสมบูรณ์ของหัวใจอาหารที่รับ
  • ประทานและกากอาหารในลำไส้ใหญ่เมื่อมีการเสียสมดุลของตัวควบคุมสุขภาพจะทำให้คนธาตุดินมักเจ็บป่วยด้วยโรคของอวัยวะโครงสร้างหลักของร่างกายเช่นโรคหัวใจเบาหวานริดสีดวงทวาร เป็นต้น
  • อาการที่พบ พื้นฐานชาวธาตุดินได้เปรียบกว่าธาตุอื่นๆเปรียบของคนธาตุดินคือรับประทานได้หมดทุกอย่าง ถ้าโบราณก็จะบอกว่าไม่มีของแสลง ด้วยความที่รับประทานได้ทุกอย่างแบบนี้นี่เองจึงทำให้อ้วนง่ายกว่าธาตุอื่น เพราะมีระบบการดูดซึมร่างกายที่ทำงานได้ดี แต่ระบบเผาผลาญอาจจะไม่ดีเพียงพอ

 

  • ชาวธาตุดินส่วนใหญ่สุขภาพแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยด้วยโรคเล็กน้อยๆ แต่พอป่วยมักจะมีอาการหนัก กว่าชาวบ้าน ชนิดต้องล้มหมอนนอนเสื่อ อีกทั้งมีโอกาสเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย ด้วยโรครุนแรง เช่น มะเร็ง,เนื้องอก,ริดสีดวงทวาร
  • การดูแลสุขภาพ แนะนำว่าควรทานแป้งให้น้อยลงแต่ไม่ต้องถึงขั้นงด และเน้นทานผัก แนะนำให้ดื่มน้ำมะนาว เพราะวิตามินซีเยอะ ชุ่มคอเน้นอาหารรสฝาด,หวาน,มัน,เค็ม
  • อาหารที่แนะนำให้ทานควรมีส่วนผสมของ,ผักกูด ,มังคุด ฝรั่งดิบ ,ฟักทอง, เผือก ,ถั่วต่างๆ เงาะ ,น้ำนม ,อ้อย ,เกลือ ได้แก่เมนู ยำผักกูด, ฟักทองผัดไข่ ,ข้าวอบธัญพืช ,น้ำอ้อย ,น้ำมะพร้าว
  • ควรหลีกเลี่ยงอาหารมันๆหรือเผาผลาญได้ยาก

หวังว่าทุกคนคงได้ความรู้ และวิธีเพิ่มเติมที่จะนำไปประยุกต์ ดูแลสุขภาพตัวเองและคนที่คุณรัก ด้วยการรับประทานอาหารให้สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือนแล้วนะคะ เพราะปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพคือการรักษาสภาวะที่สมดุลของธาตุภายในร่างกาย เพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรง มั่นคง อย่างยั่งยืนค่ะ ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งนึงที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆด้วยตัวเองค่ะ

ขอให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่ดีแข็งแรง มีจิตใจที่เบิกบาน มีความสุข ร่าเริง สดใสได้ในทุกวันค่ะ เพราะสุขภาพดีๆเริ่มต้นง่ายๆแค่เลือกรับประทานให้เหมาะสมและถูกธาตุ

อ.ปอนด์