FOOD |
เมนูขนมหวานเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลยจะต้องมีต่อท้ายจากอาหารจานหลักตลอด แต่จะดีมากขึ้นถ้าเราได้ลองเข้าครัวลงมือทำกินเองเพื่อฝึกฝีมือ เราจึงนำสูตรเมนูขนมหวานหลากหลายเมนูมาแนะนำไว้ฝึกทำขนมเวลาว่างๆ หรืออาจพัฒนาเป็นอาชีพเสริมในอนาคตค่ะ
1. วิธีทำ ขนมน้ำดอกไม้
ส่วนผสมขนมน้ำดอกไม้
- น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
- น้ำตาล 3-4 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
- แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า (ทยอยใส่) 3-4 ถ้วย
- สีผสมอาหาร
วิธีทำ ขนมน้ำดอกไม้
- ตั้งหม้อใส่น้ำลอยดอกมะลิตามด้วยน้ำตาล คนจนเริ่มเดือดและน้ำตาลละลายจากนั้นก็ปิดไฟแล้ววางพักไว้
- ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม จากนั้นทยอยเติมน้ำเปล่าและนวดไปเรื่อยๆ จนแป้งละลาย
- เทน้ำลอยดอกมะลิที่ละลายกับน้ำตาลลงไป คนให้เข้ากัน
- แบ่งแป้งเป็น 3 ถ้วย ถ้วยละเท่าๆ กัน ใส่สีผสมอาหารลงไปตามชอบ คนให้ทั่ว
- นึ่งถ้วยตะไลเตรียมไว้ 10 นาที จากนั้นหยอดแป้งลงไปในถ้วยตะไล ปิดฝานึ่งด้วยไฟแรง 15 นาที เสร็จเรียบร้อยก็จัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ
2. วิธีทำ ขนมครกอัญชัน
ส่วนผสมขนมครกอัญชัน
- แป้งข้าวเจ้า 300 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำอัญชัน (อุ่น) 1+1/2 ถ้วย
- กะทิ 1+1/2 ถ้วย
ส่วนผสมหน้ากะทิ
- กะทิ 1 ถ้วย
- เกลือ 2 ช้อนชา
- น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ขนมครกอัญชัน
- ขั้นตอนแรกจะเป็นการเตรียมส่วนผสมของตัวขนมครกอัญชัน ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว น้ำตาล เกลือ น้ำอัญชัน กะทิ ลงไปในถ้วยผสมตามอัตราส่วนด้านบนแล้วตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการเตรียมส่วนผสมของหน้ากะทิ ใส่กะทิ เกลือ น้ำตาล แป้งข้าวเจ้า ลงไปในถ้วยผสมตามอัตราส่วนด้านบนแล้วตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- ใช้น้ำมันรำข้าวทาลงบนเตาให้ทั่ว
- หลังจากนั้นเทกะทิที่เป็นส่วนของขนมครกอัญชันลงไปก่อนรอจนเริ่มสุก
- เทหน้ากะทิตามลงไป โรยหน้าต่างๆ ตามความชอบเลยจ้าาา เช่น เผือก ต้นหอม ข้าวโพด
- ทิ้งไว้สักครู่รอจนขนมเริ่มสุกก็ใช้ช้อนตักขึ้นมาพักบนจาน พร้อมรับประทานค่ะ
3. วิธีทำ ขนมถ้วยตะไล
ส่วนผสมขนมถ้วยตะไล
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
- แป้งท้าวยายม่อม 3 ช้อนโต๊ะ
- แป้งถั่วเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
- กะทิ 1 ขวด
- กะทิสำหรับทำหน้าขนม 1 ขวด
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ขนมถ้วยตะไล
- เตรียมถ้วยผสม ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม แป้งถั่วเขียว น้ำใบเตย น้ำตาลปี๊บ ตามอัตราส่วนผสมด้านบนหลังจากนั้นตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- เติมกะทิลงไปคนจนส่วนผสมละลายเข้ากันจากนั้นให้พักทิ้งไว้แล้วไปทำส่วนผสมของหน้าขนม
- เตรียมถ้วยผสม เทกะทิลงไปตามด้วยเกลือ แป้งข้าวเจ้า แล้วตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- ต่อมาให้นำถ้วยตะไลไปนึ่งให้ร้อน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
- เมื่อเสร็จเรียบร้อยให้เปิดฝาแล้วหยอดส่วนผสมตัวขนมลงไปในแต่ละถ้วยประมาณ 3/4 ของถ้วย แล้วปิดฝานึ่งต่ออีก 5-7 นาที
- หลังจากนั้นให้เปิดฝาออกแล้วหยอดหน้าขนมลงไปให้เต็มถ้วย ปิดฝานึ่งต่ออีก 5 นาที
- เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วนำขนมถ้วยออกจากหม้อนึ่งรอให้ขนมเย็นไม่เละก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
4. วิธีทำ ข้าวเหนียวแก้ว
ส่วนผสมข้าวเหนียวแก้ว
- กะทิ 1+1/2 ถ้วย
- เกลือ 2 ช้อนชา
- ข้าวเหนียวนึ่งร้อน 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย
- งาขาวคั่ว
วิธีทำ ข้าวเหนียวแก้ว
- ตั้งกระทะแล้วเทกะทิลงไป ตามด้วยเกลือหลังจากนั้นคนให้เกลือละลาย
- เทข้าวเหนียวนึ่งร้อนลงไป คนรวมกับน้ำกะทิจากนั้นให้พักทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 15 นาที
- จากนั้นใส่น้ำตาลทราย กวนส่วนผสมรวมกัน
- เทน้ำใบเตยตามลงไปแล้วกวนทุกอย่างรวมกันอีกครั้ง กวนจนข้าวเหนียวแห้งจับตัวและขึ้นเงา เสร็จเรียบร้อยก็ตักใส่ถ้วยตกแต่งให้สวยงามตามชอบแล้วโรยด้วยงาขาวคั่วค่ะ
5. วิธีทำ ลูกชุบ
ส่วนผสมลูกชุบ
- ถั่วเขียวเลาะเปลือก (นึ่ง) 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 300 กรัม
- กะทิ 1 ถ้วย
- สีผสมอาหาร
- วุ้น
วิธีทำ ลูกชุบ
- นำถั่วเขียวเลาะเปลือก น้ำตาลทราย กะทิ มาปั่นรวมกัน
- ตั้งกระทะแล้วเทส่วนผสมที่ปั่นเสร็จเรียบร้อยแล้วลงไป เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนสามารถปั้นได้
- เตรียมสีผสมอาหาร นำส่วนผสมขนมมาปั้นเป็นรูปทรงตามความชอบ เมื่อปั้นเสร็จเรียบร้อยให้เสียบไม้พักทิ้งไว้ก่อน
- จากนั้นให้นำขนมไปจุ่มสีผสมอาหารตามความชอบได้เลย และพักไว้รอแห้ง
- เสร็จเรียบร้อยให้นำขนมมาชุบกับวุ้นเพื่อให้ขนมขึ้นเงาสวยงามน่าทาน เพียงเท่านี้ขนมลูกชุบสีสวยก็พร้อมทานแล้วค่ะ
6. วิธีทำ ขนมชั้น
ส่วนผสมขนมชั้น
- แป้งข้าวเจ้า 40 กรัม
- แป้งท้าวยายม่อม 40 กรัม
- แป้งมัน 300 กรัม
- กะทิ 875 มิลลิลิตร
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 500 กรัม
- ใบเตย 3-4 ใบ
- กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
- น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย
วิธีทำ ขนมชั้น
- ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม แป้งมัน กะทิ คนให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะทองเหลืองด้วยไฟอ่อนๆ เทกะทิลงไปตามด้วยน้ำตาลทราย ใบเตย คนจนน้ำตาลทรายละลาย จากนั้นค่อยๆ ตักกะทิไปใส่ลงในส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ก่อนหน้า ระหว่างนี้ก็ตีส่วนผสมแป้งไปด้วยจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
- แบ่งน้ำกะทิเป็นสองชามโดยชามแรกใส่กลิ่นมะลิลงไปส่วนอีกชามใส่น้ำใบเตย คนจนส่วนผสมเข้ากันทั้งสองชาม จากนั้นเตรียมนำไปนึ่ง
- เตรียมหม้อนึ่งใส่น้ำ ต้มน้ำจนเดือด เตรียมพิมพ์สำหรับขนมชั้นจากนั้นนำพิมพ์ไปนึ่งในหม้อนึ่งประมาณ 15 นาที
- เทส่วนผสมที่มีน้ำใบเตยลงไปนึ่งประมาณ 5 นาที ก็เปิดฝาแล้วเทส่วนผสมที่มีกลิ่นมะลิลงไปแล้วนึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที สลับนึ่งสองสีโดยแบ่งเป็นชั้นละเท่าๆ กันจนขนมเต็มแม่พิมพ์
- เมื่อนึ่งเสร็จเรียบร้อยจะได้ขนมชั้นเป็นทรงสี่เหลี่ยม นำมาหั่นและตกแต่งให้สวยงามพร้อมเสิร์ฟค่ะ
7. วิธีทำ โตเกียวไส้ครีม
ส่วนผสมโตเกียวไส้ครีม
ส่วนผสมไส้ครีม
- ไข่แดง 4 ฟอง
- นมข้นหวาน 195 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- นมข้นจืด 400 มิลลิลิตร
- แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งเค้ก 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมแป้งโตเกียว
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
- ผงฟู 3/4 ช้อนชา
- ไข่ 2 ฟอง
- นมข้นจืด 1/2 ถ้วย
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ โตเกียวไส้ครีม
- เริ่มต้นโดยการทำไส้ครีม ตั้งหม้อใส่ไข่แดง ตามด้วยนมข้นหวาน คนส่วนผสมให้เข้ากัน
- ต่อมาใส่กลิ่นวานิลลา นมข้นจืด แป้งข้าวโพด แป้งเค้ก จากนั้นตีส่วนผสมให้เข้ากันจนเนื้อครีมเริ่มข้น เสร็จเรียบร้อยก็พักไว้
- ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการทำแป้งโตเกียว เตรียมชามผสมใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไป ตามด้วยผงฟู ตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- ใส่ไข่ นมข้นจืด กลิ่นวานิลลา น้ำปูนใส ตีส่วนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- ตั้งกระทะโดยใช้ไฟอ่อน ตักแป้งใส่แล้ววนๆ เป็นแผ่นบาง พอแป้งเริ่มสุกก็ตักไส้ครีมมาปาดตรงกลาง รอจนแป้งเริ่มสุกทั้งหมดก็ม้วนแป้งเป็นโรล ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะหมดค่ะ
8. วิธีทำ สังขยาฟักทอง
ส่วนผสมสังขยาฟักทอง
- ฟักทองทั้งลูก (คว้านเอาไส้และเม็ดออก นิยมใช้ฟักทองพันธ์ศรีเมือง หรือจะใช้ฟักทองญี่ปุ่นก็เหนียวอร่อย)
- หัวกะทิ 125 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ไข่เป็ด 2 ฟอง (ไข่เป็ดจะทำให้ขนมหอม)
- ใบเตย,เกลือ
วิธีทำ สังขยาฟักทอง
- ใส่หัวกะทิลงในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ ตีให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลาย
- ตอกไข่ไก่ใส่ลงไปตีให้เข้ากัน ตามด้วยตอกไข่เป็ดใส่ลงไปตีให้เข้ากัน ใส่เกลือแล้วตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
- ผูกปมใบเตยแล้วใส่ลงไป คนให้เข้ากัน เอาตระแกรงมากรองออก เพื่อให้ได้สังขยาเนื้อเนียนจากนั้นเทส่วนผสมใส่ในฟักทอง นำไปนึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง ให้ฟักทองนิ่ม
- นำฟักทองที่นึ่งเสร็จเรียบร้อยมาผ่าออกเป็นชิ้นๆ วางในจาน จะโรยฝอยทองด้วยก็ได้
9. วิธีทำ ขนมรังผึ้ง
ส่วนผสมขนมรังผึ้ง
- ไข่เป็ด 2 ฟอง
- น้ำตาลปี๊บ 3-4 ถ้วย
- น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/4 ถ้วย
- กะทิ 2 ขวด
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/2 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
- ลูกเกด ตามชอบ
- ฟักทอง ตามชอบ
- ข้าวโพด ตามชอบ
วิธีทำ ขนมรังผึ้ง
- ผสมไข่เป็ดกับน้ำตาลปี๊บ ตีให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลาย
- ใส่น้ำตาลทรายแดง เกลือ กะทิ ตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- เทแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งข้าวเจ้า ลงไปในส่วนผสมตีให้เข้ากัน
- ตักส่วนผสมแป้งใส่เครื่องทำขนมรังผึ้ง โรยด้วยลูกเกด ฟักทอง ข้าวโพด ตามชอบค่ะ
- อบจนขนมสุก นำออกจากแม่พิมพ์แล้วตักใส่จานเสิร์ฟตอนร้อนกำลังดีค่ะ
10. วิธีทำ ขนมปังสังขยา
ส่วนผสมขนมปัง
- แป้งขนมปัง 480 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 120 กรัม
- ยีสต์ 10 กรัม
- นมข้นจืด 355 มิลลิลิตร
- น้ำตาล 150 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- เนยสด 150 กรัม
ส่วนผสมสังขยาใบเตย
- ไข่แดง 3 ฟอง
- นมข้นจืด 1 กระป๋อง
- นมข้นหวาน 1/4 ถ้วย
- น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
- เกลือ 1 ช้อนชา
- แป้งข้าวโพด 40 กรัม
วิธีทำ ขนมปังสังขยา
- ใส่แป้งขนมปัง แป้งอเนกประสงค์ ยีสต์ ลงไปในเครื่องนวด ตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- เทนมข้นจืด น้ำตาล เกลือ ไข่ไก่ ลงในถ้วยเปล่าตามอัตราส่วนด้านบน ตีส่วนผสมให้เข้ากันหลังจากนั้นนำไปใส่ในส่วนผสมที่เตรียมไว้ในเครื่องนวด
- ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้งหลังจากนั้นใส่เนยสดลงไป เมื่อเสร็จในขั้นตอนนี้เราก็จะได้แป้งขนมปัง ให้นำแป้งขนมปังใส่อ่างแล้วแรปด้วยพลาสติกแรปอาหารรอจนแป้งขึ้นฟู
- ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการเตรียมไส้สังขยา ตั้งหม้อ ใส่ไข่แดงลงไปตามด้วยนมข้นจืด นมข้นหวาน น้ำใบเตย เกลือ ตีส่วนผสมในหม้อให้เข้ากัน
- ใส่แป้งข้าวโพด ตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
- เมื่อแป้งขึ้นฟูแล้วให้นำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ หรือนำไปชั่งบนตราชั่งให้ได้ประมาณ 40 กรัม
- ใส่แป้งที่ปั้นเสร็จเรียบร้อยแล้วลงในพิมพ์รอแป้งขึ้นฟูอีกนิดแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 170 องศา ใช้ไฟบนและล่าง ประมาณ 20-25 นาที เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วนำออกมาทาเนย
- ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการใส่ไส้สังขยา ให้เจาะรูด้านบนของขนมปัง
- บีบไส้สังขยาใส่ลงไปมากน้อยตามความชอบ เท่านี้ขนมปังสังขยาก็พร้อมทานแล้วค่ะ