สถานการณ์ภาพรวม
- [25 ธ.ค. ] ภาพรวมสถานการณ์ในขณะนี้
- จำนวนผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พบการระบาดในชุมชน ในขณะนี้ มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่ยืนยันผลตรวจแล้วจำนวนกว่า 1.5 แสนราย
- ยุโรป-สหรัฐฯ ยกระดับมาตรการป้องกันเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มมาตรการสวมหน้ากาก – วัคซีนพาสสปอร์ต – ล็อกดาวน์ – ทำงานที่บ้าน-ห้ามการรวมกลุ่ม
- ประเด็นที่เป็นเรื่องดี
- หลายประเทศยังคงรายงานไปในทิศทางเดียวกันคือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการเบา ไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
- เริ่มมีรายงานผู้ป่วยที่ต้องเข้ารพ. – เสียชีวิตเพิ่มในสหราชอาณาจักร
- ประเด็นที่น่ากังวล คือ
- จำนวนประเทศที่รายงานเคสติดเชื้อในชุมชน หรือสงสัยว่าติดเชื้อในประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้น
- พบผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อื่น ๆ ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนซ้ำมากขึ้น
- หลายประเทศเริ่มกังวลว่า ระบบสาธารณสุขอาจจะได้รับผลกระทบ แม้ว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่จากอัตราการระบาดที่รวดเร็ว ก็อาจจะส่งผลต่อจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นเช่นกัน
- องค์การอนามัยโลกระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นสองเท่า ทุก ๆ 1.5-3 วัน
…
ไทย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 205 ราย
เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้รายงานสถานกการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในประเทศไทย โดยในขณะนี้ พบผู้ป่วยในสายพันธุ์นี้ แล้วรวมทั้งหมด 205 ราย เพิ่มขึ้น 51 ราย
โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำนวน 180 ราย และเป็นการติดเชื้อในประเทศจากผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 25 ราย
ซึ่งในประเทศไทยนั้น พบการระบาดในคลัสเตอร์ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งในคลัสเตอร์นี้ยังตรวจสอบหาความเชื่อมโยงจากคลัสเตอร์ที่มีการระบาดได้ โดยเริ่มต้นจากการพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 รายซึ่งเป็นผู้เดินทางมาจากประเทศเบลเยี่ยม หลังจากนั้นพบการติดเชื้อไปสู่บุตรเขย ที่ไปร่วมรับประเทศอาหารร่วมกัน
ซึ่งในผู้ป่วยในคลัสเตอร์นี้ พบว่า มีจุดที่เสี่ยงสูง เป็นร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ และพบว่า มีพนักงานในร้านติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 19 ราย, ครอบครัวผู้ที่ไปใช้บริการอีก 3 ราย และยังมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกกว่า 100 ราย อยู่ในระหว่างรอการยืนยันว่า ผลการตรวจจีโนมว่าเป็นโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่
…
สถานการณ์โลก : 25 ธ.ค.
- ไทย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 51 ราย รวมเป็น 205 รายแล้ว โดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนผู้ป่วยในประเทศ 25 ราย ที่ติดเชื้อมาจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง
- ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นอีก 26 ราย โดย 16 รายเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ในขณะที่อีก 10 ราย พบในเกียวโต, โตเกียว, โอซากา และยามากูจิ
โดยเฉพาะในโตเกียว ทางการญี่ปุ่นระบุว่า เป็นการระบาดในชุมชนแล้ว เช่นเดียวกับในเกียวโตที่พบ 3 ราย ซึ่งไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ และยังไม่สามารถหาความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายอื่นได้
ส่วนที่โอซาก้า พบว่าเป็นการติดเชื้อมาจากผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และในจังหวัดยากมากูจิ พบ ชาวญี่ปุ่นติดเชื้อจำนวนหนึ่งราย ซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานในฐานทัพอากาศสหรัฐฯ อิวาคุนิ
- สหราชอาณาจักร ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่พบเพิ่มยังคงทำสถิตินิวไฮ โดยเพิ่มอีก 122,186 ราย โดยพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ยืนยันผลตรวจสายพันธุ์แล้ว เป็นจำนวน 23,719 ราย
- ยุโรป หลายประเทศยกระดับมาตรการเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 เพิ่มขึ้นหลังจากยอดผู้ป่วยโควิด-19 ทำสถิติสูงที่สุดอย่างต่อเนื่อง และมีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมากขึ้น เช่น
- ฝรั่งเศส จำกัดการเดินทางจากสหราชอาณาจักร, ประกาศงดการรวมกลุ่ม, งดจัดกิจการส่งท้ายปีใหม่-คอนเสิร์ต-จุดพลุ รวมถึงงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะด้วย
- สเปน ประกาศยกระดับมาตรการบังคับสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะ บางรัฐได้มีการห้ามจัดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น, ในคาตาโลเนีย ประกาศเคอร์ฟิวส์ช่วงกลางคืน จำกัดการรวมกลุ่ม
- อิตาลี ปิดไนท์คลับ งดรับประทานอาหารในพื้นที่สาธารณะ สั่งสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะ กำหนดใช้งาน covid passport
- เนเธอแลนด์ ล็อกดาวน์เข้มงวด ห้ามการรวมกลุ่ม ยกเว้นวันคริสมาส และปีใหม่
- เบลเยียม ยกเลิกกิจกรรมที่จัดในพื้นที่ในร่ม งดให้บริการโรงภาพยนตร์ โรงละคร รวมถึงสวนสาธารณะ สวนสัตว์ ยกเว้นการจัดงานแต่งงาน งานศพ
- เยอรมนี ยกระดับมาตรการเข้มงวด กำหนดห้ามรวมกลุ่มเกิน 10 คน สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว มีผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนร่วมได้ไม่เกิน 2 คน ทั้งในพื้นที่กลางแจ้งหรือในร่ม
…
อ่านประเด็นข่าวโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนย้อนหลัง
…
รายงานการพบผู้ติดเชื้อในประเทศต่าง ๆ (เฉพาะยืนยันสายพันธุ์แล้ว)
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด 4 ม.ค. 65 – 08.00 น.
ประเทศ/เขตการปกครอง | สะสม | เปลี่ยนแปลง |
---|---|---|
🇬🇧 ️สหราชอาณาจักร | 246,780 | |
🇩🇰 ️เดนมาร์ก | 57,125 | +2,509 |
🇺🇸 ️สหรัฐอเมริกา | 33,120 | +4404 |
🇩🇪️ เยอรมนี | 30,325 | +13,577 |
🇳🇴️ นอร์เวย์ | 16,312 | +4,184 |
🇨🇦 ️แคนาดา | 14,139 | |
🇦🇹 ️ออสเตรีย | 7,144 | +4,850 |
🇫🇷 ฝรั่งเศส | 5,591 | +649 |
🇪🇪️ เอสโตเนีย | 2,497 | |
🇮🇱 ️อิสราเอล | 2,090 | +349 |
🇦🇺 ️ออสเตรเลีย | 1,946 | +235 |
🇮🇳️ อินเดีย | 1,892 | +152 |
🇿🇦 ️แอฟริกาใต้ | 1,894 | |
🇸🇬️ สิงคโปร์ | 1,813 | +187 |
🇸🇮️ สโลวีเนีย | 1,418 | |
🇰🇷️ เกาหลีใต้ | 1,318 | +111 |
🇪🇸 ️สเปน | 882 | +176 |
🇧🇪เ️บลเยียม | 828 | +42 |
🇸🇪 ️สวีเดน | 817 | +28 |
🇯🇴️ จอร์แดน | 802 | |
🇨🇭️ ️สวิตเซอร์แลนด์ | 781 | |
🇯🇵️ ญี่ปุ่น | 750 | +55 |
🇨🇱 ️ชิลี | 684 | +52 |
🇱🇻️ ลัตเวีย | 644 | +187 |
🇮🇹 ️อิตาลี | 565 | +13 |
🇳🇱 เนเธอร์แลนด์ | 537 | +46 |
🇦🇷️ อาร์เจนตินา | 454 | |
🇱🇧️ เลบานอน | 433 | |
🇧🇼 ️บอตสวานา | 382 | |
🇲🇽 ️เม็กซิโก | 368 | +114 |
🇵🇪️ เปรู | 309 | |
🇵🇹 ️โปรตุเกส | 302 | |
🇱🇺️ ลักแซมเบิร์ก | 223 | +168 |
🇹🇷️ ตุรกี | 221 | +21 |
🇧🇲 ️หมู่เกาะเบอร์มิวดา, UK | 212 | |
🇧🇷️ บราซิล | 211 | |
🇮🇸 ️ไอซ์แลนด์ | 200 | |
🇮🇷️ อิหร่าน | 194 | +35 |
🇫🇮️ ฟินแลนด์ | 172 | |
🇮🇩️ อินโดนีเซีย | 152 | +16 |
🇮🇪 ️ไอร์แลนด์ | 144 | |
🇬🇮️ ยิบรอลตาร์ | 122 | |
🇷🇺️ รัสเซีย* | 103 | |
🇭🇰 ️ฮ่องกง | 102 | +7 |
🇨🇺️ คิวบา | 92 | +20 |
🇷🇴 ️โรมาเนีย | 92 | |
🇳🇿️ นิวซีแลนด์ | 91 | +1 |
🇹🇼️ ไต้หวัน* | 88 | +26 |
🇳🇬️ ไนจีเรีย | 83 | |
🇵🇸️ ปาเลสไตน์* | 77 | |
🇰🇭️ กัมพูชา* | 75 | +6 |
🇵🇰️ ปากีสถาน | 75 | |
🇱🇹️ ลิธัวเนีย | 74 | |
🇵🇱️ โปแลนด์ | 72 | +26 |
🇨🇿 ️สาธารณรัฐเช็ก* | 69 | |
🇬🇭️ กาน่า | 66 | |
🇲🇾️ มาเลเซีย | 64 | +2 |
🇨🇾️ ไซปรัส | 63 | |
🇭🇺️ ฮังการี | 61 | |
🇬🇪️ จอร์เจีย | 56 | |
🇨🇴️ โคลัมเบีย | 51 | +26 |
🇿🇼 ซิมบับเว | 50 | |
🇬🇫 ️เฟรนช์เกียนา️ | 49 | |
🇱🇰️ ศรีลังกา* | 48 | |
🇿🇲 ️แซมเบีย* | 46 | |
🇺🇾️ อุรุกวัย | 44 | |
🇰🇾️ หมู่เกาะเคย์แมน | 44 | |
🇰🇪️ เคนยา | 38 | |
🇲🇼️ มาลาวี | 34 | |
🇲🇹️ มอลต้า | 34 | |
🇬🇷 ️กรีซ* | 33 | |
🇪🇨️ เอกวาดอร์* | 29 | |
🇲🇦️ โมรอกโก* | 28 | |
🇵🇦️ ปานามา | 26 | |
🇸🇳 ️เซเนกัล * | 26 | |
🇺🇬 ️ยูกันดา* | 25 | |
🇻🇳️ เวียดนาม* | 24 | +4 |
🇨🇬 ️คองโก | 21 | |
🇫🇷 ️เรอูว์นียง, ฝรั่งเศส* | 20 | |
🇸🇰️ สโลวาเกีย | 18 | |
🇳🇦 ️นามิเบีย | 18 | |
🇨🇷️ คอสตาริกา* | 18 | |
🇲🇿️ โมซัมบิก | 17 | |
🇦🇴 ️แองโกลา | 16 | |
🇩🇿️ แอลจีเลีย* | 16 | |
🇹🇹️ ทรินิแดด | 15 | +3 |
🇨🇳️ จีน* | 15 | |
🇱🇮 ️ลิกเตนสไตน์* | 14 | |
🇲🇺 ️มอริเชียส* | 14 | |
🇬🇳️ กินี | 14 | |
🇵🇭️ ฟิลิปปินส์ | 14 | +4 |
🇰🇼️ คูเวต* | 13 | |
🇧🇬️ บัลแกเรีย | 12 | |
🇧🇩 ️บังคลาเทศ* | 10 | |
🇧🇦 ️บอสเนีย | 10 | |
🇲🇻️ มัลดีฟส์* | 10 | |
🇹🇳 ️ตูนีเซีย* | 10 | |
🇴🇲️ โอมาน* | 9 | |
โคโซโว | 9 | |
🇲🇪️ มอนเตเนโกร | 8 | |
🇧🇳️ บรูไน | 8 | |
🇭🇷️ โครเอเชีย | 8 | |
🇻🇪️ เวเนซุเอลา | 7 | |
🇺🇦️ ยูเครน* | 6 | |
🇷🇼️ รวันดา | 6 | |
🇹🇬️ โตโก | 5 | |
🇧🇾️ เบลารุส | 4 | |
🇶🇦️กาตาร์* | 4 | |
🇲🇲 ️เมียนมา | 4 | |
🇪🇬️ อียิปต์* | 3 | |
🇳🇵️ เนปาล* | 3 | |
🇵🇾 ️ปารากวัย | 3 | |
เซนต์คิตส์และเนวิส | 2 | |
🇱🇾️ ลิเบีย | 2 | |
🇫🇯️ ฟิจิ* | 2 | |
🇧🇫️ บูร์กินา ฟาโซ | 2 | |
เซนต์วินเซนต์&เกรนาดีนส์ | 1 | |
🇧🇧️ บาร์เบโดส | 1 | |
🇨🇩 ️สาธารณรัฐคองโก* | 1 | |
🇦🇼 ️อารูบา* | 1 | |
🇸🇦️ ซาอุดิอาระเบีย* | 1 | |
🇦🇪 ️สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์* | 1 | |
🇦🇱️ แอลเบเนีย | 1 | |
🇸🇱 ️เซียราลีโอน* | 1 | |
🇧🇭️ บาห์เรน | 1 | |
🇲🇰️ มาเซโดเนีย | 1 | |
🇯🇲️ จาไมกา | 1 | |
🇷🇸️ เซอร์เบีย | 1 | |
🇹🇿️ แทนซาเนีย | 1 | |
🇩🇴 ️โดมินิกัน | 1 | |
🇨🇼️ กูราเซา | 1 | |
ไทย | 1,780 |
ทำให้ยอดในขณะนี้เป็นยอดการตรวจเฉพาะที่ตรวจสายพันธุ์เท่านั้น
* ผู้ป่วยที่พบเป็นผู้ที่เดินทางนำเชื้อเข้าประเทศ ( Imported Case )
รวมเมนูด่วน เกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
- [ไทย] รายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พบในประเทศไทย
- ข่าวโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนล่าสุด และตารางรายงานยอดผู้ติดเชื้อ
- อาการและความรุนแรงของผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในแอฟริกาใต้
- FAQ เกี่ยวกับสายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.1.529
- ประเด็นกระแสข่าวการกลายพันธุ์ร่วมกันระหว่างเชื้อโควิด-19 กับผู้ป่วย HIV
- เคสผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในฮ่องกง
- เคสผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในอิสราเอล
- เคสผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในบอตซาวานา
- ประเด็นเกี่ยวกับวัคซีน และความคืบหน้า
- ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเรา
- การป้องกันตัวจากเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนนี้