บ่อน้ำโจ้ก แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองวารินชำราบ จาก 108 บ่อของไทย

บ่อน้ำโจ้ก ได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองวารินชำราบ และเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 108 แห่งจากทั่วประเทศที่ถูกคัดเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อใช้ในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ ของประเทศไทย แสดงถึงความสำคัญในระดับสูงสุด น้ำจากบ่อน้ำโจ้กได้รับเกียรติอันสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์โดยถูกนำไปประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำ อันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อใช้ในการทำ น้ำอภิเษก ซึ่งเป็นน้ำที่ผ่านการประกอบพิธีอันเป็นมงคลยิ่ง เพื่อถวายในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เมื่อปีพุทธศักราช 2562 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญยิ่งของประเทศชาติ การที่น้ำจากบ่อน้ำโจ้กได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เป็นการตอกย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ ความบริสุทธิ์ และคุณค่าอันประมาณมิได้ของบ่อน้ำแห่งนี้อย่างแท้จริง
ประวัติ น้ำโจ้ก แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองวารินชำราบ

“น้ำโจ้ก” เป็นที่มาของชื่ออำเภอวารินชำราบ “วาริน” แปลว่า น้ำ “ชำราบ” แปลว่า ซึมซับ “วารินชำราบ” จึงมีความหมายว่า “เมืองที่มีน้ำซึมซับตลอดปี” อำเภอวารินชำราบจึงเป็นอำเภอที่มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การ ตั้งถิ่นฐานอาศัยสร้างชุมชน
“น้ำโจ้ก” เป็นน้ำตามธรรมชาติที่ไหลรินตลอดเวลา เกิดจากแหล่งน้ำใต้ดิน ณ บริเวณซึ่งเรียกว่า “คำน้ำแซบ” หมายความว่า น้ำซับน้ำซึมมีรสชาติดี ซึ่งคุณภาพของน้ำโจ้กได้เป็นที่เลื่องลือไปยังที่ต่าง ๆ แม้แต่ชาวเมืองอุบลราชธานี ยังได้พากันพายเรือข้ามฝั่งแม่น้ำมูล แล้วขับเกวียนมาเอาน้ำจากคำน้ำแซบ ไปดื่มกินกัน ท้องถิ่นนี้จึงมีชื่อว่า “บ้านคำน้ำแซบ” เดิมตั้งอยู่ในเขตตำบลคำน้ำแซบ แต่เมื่อมีการแบ่งพื้นที่ท้องถิ่นใหม่ จึงตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ห่างจากตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 2 กิโลเมตร
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) แห่งราชวงศ์จักรี นายพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงใหญ่ต่างพระองค์ มณฑลลาวกาว ได้นำน้ำโจ้กนี้ไปใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และประกอบพิธีอื่น ๆ เพื่อความสวัสดิมงคลตามวาระโอกาสงานพิธีสำคัญต่าง ๆ เสมอ
- วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2530 ทางราชการหน่วยงานส่วนท้องถิ่น ได้ทำการบูรณะปรับปรุงบ่อน้ำโจ้ก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)
- ปีพุทธศักราช 2530 ได้นำน้ำโจ้กเข้าร่วมประกอบในงาน พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 5 ธันวาคม 2530 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ไทย (รัชกาลที่ 9) แห่งราชวงศ์จักรี
- ปีพุทธศักราช 2539 ได้นำน้ำโจ้กเข้าร่วมประกอบในงาน พระราชพิธีกาญจนาภิเษก เฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
- ปีพุทธศักราช 2542 ได้นำน้ำโจ้กเข้าร่วมประกอบ ทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ทูลเกล้าฯ ถวายในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
- ปีพุทธศักราช 2554 ได้นำน้ำโจ้กเข้าร่วมประกอบในงาน พระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม รับการถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2554
- วันที่ 6 เมษายน พุทธศักราช 2562 จังหวัดอุบลราชธานี ได้ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจาก แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แหล่งน้ำโจ้ก จัดทำน้ำอภิเษก เนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย (รัชกาลที่ 10) แห่งราชวงศ์จักรี
- วันที่ 4 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 จังหวัดอุบลราชธานี ได้ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจาก แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แหล่งน้ำโจ้ก จัดทำน้ำอภิเษก เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย (รัชกาลที่ 10) แห่งราชวงศ์จักรี

บ่อน้ำโจ้กตั้งอยู่ในพื้นที่ “คำน้ำแซบ” ซึ่งหมายถึงน้ำซับรสชาติดี โดยบ่อน้ำนี้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาววารินมาแต่โบราณทั้งจากความใสสะอาดและจากความเชื่อว่าเป็นธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีต้นกำเนิดจากเขาไกรลาศ-ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในคติพราหมณ์
ความเชื่อดังกล่าวนำไปสู่การนำน้ำโจ้กไปประกอบพระราชพิธีสำคัญของชาติหลายครั้ง เช่น พระราชพิธีมุรธาภิเษก รัชกาลที่ 6 การเสกน้ำพระพุทธมนต์ในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 และการทำน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของรัชกาลที่ 10

บ่อน้ำโจ้กจึงมิใช่เพียงแหล่งน้ำธรรมชาติ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธา ความเป็นสิริมงคล และเป็นมรดกแห่งสายน้ำที่เชื่อมโยงทั้งประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและพระราชพิธีของแผ่นดินไทยอย่างลึกซึ้ง

บ่อน้ำโจ้กหรือ “บ่อน้ำผุด” แห่งเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี คือแหล่งน้ำซับธรรมชาติที่มีน้ำใสสะอาดไหลรินตลอดปี แม้ในช่วงหน้าแล้งก็ไม่เคยเหือดแห้ง บ่อน้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา (ประมาณปี พ.ศ. 2485-2488) ขณะลาดตระเวนจากค่ายทหารบริเวณทุ่งศรีเมืองมาถึงเขตค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ต่อมาทหารญี่ปุ่นได้สร้างบ่อน้ำสำหรับอาบน้ำ ด้วยการก่ออิฐล้อมรอบตาน้ำและวางระบบระบายน้ำตามภูมิประเทศ

บ่อน้ำโจ้กมีความสำคัญอย่างยิ่งในหลายมิติ ทั้งในด้านวิถีชีวิต ความเชื่อ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของชาววารินชำราบและจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน น้ำจากบ่อน้ำโจ้กได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางในการอุปโภคบริโภคของชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากน้ำมีความสะอาดบริสุทธิ์และไหลตลอดทั้งปี ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแคลนน้ำแม้ในช่วงฤดูแล้งที่สุดของภาคอีสาน ทุกวันนี้ เรายังคงเห็นอาชีพ “เข็นน้ำขาย” ที่สืบทอดกันมา ซึ่งชาวบ้านจะเข็นน้ำจากบ่อน้ำโจ้กไปส่งให้กับแม่ค้าในตลาดสดและประชาชนในบริเวณใกล้เคียง สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตที่ผูกพันกับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อย่างไม่เสื่อมคลาย

มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าและอนาคตที่ยั่งยืน
บ่อน้ำโจ้ก ไม่ได้เป็นเพียงบ่อน้ำธรรมชาติธรรมดา แต่เป็นศูนย์รวมความเชื่อ ศรัทธา และวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งของชาวจังหวัดอุบลราชธานีและภาคอีสานใต้ พื้นที่บริเวณโดยรอบบ่อน้ำได้รับการดูแลรักษาและปรับปรุงภูมิทัศน์อย่างต่อเนื่องโดยเทศบาลเมืองวารินชำราบและชาวบ้านในชุมชน เพื่อให้คงสภาพความสะอาดและสวยงามอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” อย่างสม่ำเสมอ เพื่อร่วมกันบำรุงรักษาและฟื้นฟูแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ให้คงอยู่คู่ชุมชนตลอดไป ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ความสำคัญทางวัฒนธรรม และการเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ บ่อน้ำโจ้กจึงมีศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในการพัฒนาให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และแหล่งเรียนรู้ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานีและของประเทศไทย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกได้เข้ามาเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมา วิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำ และความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย

การพัฒนาบ่อน้ำโจ้กให้เป็นแหล่งเรียนรู้จะช่วยอนุรักษ์มรดกอันทรงคุณค่านี้ไว้ให้แก่คนรุ่นหลัง และยังเป็นการส่งเสริมSoft Power ของประเทศไทยในมิติวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความศรัทธา ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันได้ มาร่วมกันรักษา บอกเล่า และสืบทอดเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของบ่อน้ำโจ้ก เพื่อให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่คงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบไป











ภาพโดย MTHAI TEAM
ที่อยู่ : สวนสาธารณะน้ำโจ้ก ถนนทหาร ตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 34190
Google map : https://maps.app.goo.gl/vpTo73aij1izpJkS7
เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง
เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
พระเจ้าใหญ่อินทร์สาน วัดวารินทราราม พระพุทธรูปไม้ไผ่ทองคำหนึ่งเดียวในภาคอีสาน
เที่ยวตามรอยหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดบูรพาราม อุบลราชธานี
ไหว้พระเจ้าใหญ่ศรีเมือง ชมสิมโบราณและหอไตรกลางน้ำ วัดทุ่งศรีเมือง
