วัดบูรพา อุบลราชธานี วัดบูรพาราม อุบลราชธานี หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล

เที่ยวตามรอยหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดบูรพาราม อุบลราชธานี

หากได้มาเยือนอุบลแล้วล่ะก็ อย่าลืมแวะมากราบพระ ชมความงามของสิมและหอไตรโบราณ สถานที่ที่พระเกจิอาจารย์ดังๆ ของไทยนิยมมาเรียนวิปัสสนากรรมฐานกันที่วัดแห่งนี้กันค่ะ

Home / อุบลราชธานี / เที่ยวตามรอยหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดบูรพาราม อุบลราชธานี

เที่ยวตามรอยหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดบูรพาราม อุบลราชธานี

วัดดังอุบลราชธานี

วัดบูรพาราม อุบลราชธานี หนึ่งในวัดสำคัญ เป็นต้นกำเนิดสายวิปัสสนากรรมฐาน พระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ ทั่วประเทศได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้ โดยหนึ่งในพระเกจิสำคัญ คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เดินทางมาเรียนวิปัสสนากับพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล และยังเป็นสถานที่ประชุมเพลิงพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล พระอาจารย์สายวิปัสสนาอาจารย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกด้วย

วัดบูรพาราม อุบลราชธานี

ประวัติวัดบูรพาราม อุบลราชธานี

วัดบูรพาราม สร้างเมื่อ พ.ศ. 2436 เดิมเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์สายวิปัสสนา ภายหลังกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์ สำเร็จราชการมณฑลอีสาน ได้บริจาคทรัพย์และที่ดินสร้างวัดบูรพาราม เพื่อถวายพระสีทา ชัยเสโน แห่งวัดพระศรีอุบลรัตนาราม ด้วยศรัทธาที่เห็นท่านพระอาจารย์ มานั่งวิปัสสนากัมมัฏฐาน ณ ที่แห่งนี้เป็นประจำ หลังสร้างเสร็จ พระสีทา ชัยเสโน เป็นเจ้าอาวาสลำดับที่ 1 แห่งวัดบูรพาราม จนมีอาจารย์และลูกศิษย์สืบทอดกันมาหลายรุ่น ได้แก่ พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ขาว หลวงปู่สิงห์ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ดุล และพระอาจารย์ฝั่น อาจาโร เป็นต้น

แต่เดิมที่ตั้งของวัดบูรพานั้น เป็นหมู่บ้านแสนตอ หมู่ที่ 6 ตำบลปทุม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อ พ.ศ. 2525 ทางเทศบาลได้ขยายเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานี วัดบูรพาจึงอยู่ในเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานี

จากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ท่านเล่าว่า แต่เดิมนั้นที่ดินตรงนี้เป็นป่าไม้โสงเสง (ภาษาอีสาน) ซึ่งหมายถึงป่าโปร่ง เป็นที่อยู่ของสัตว์หลายชนิด ผู้คนไม่ค่อยเข้าไป จึงเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม หลวงปู่ทาสี หลวงปู่เสาร์ ได้ไปปฏิบัติธรรม ขณะนั้นเป็นเพียงสำนักสงฆ์ ครั้นต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2458 หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทราบข่าว จึงได้เดินทางมาจาก วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ และปฎิบัติธรรมอยู่ที่วัดบูรพา และเมื่อเจ้ากรมหลวงสรรรพสิทธิประสงค์ ได้บริจาคทรัพย์และที่ดิน ให้สร้างวัดบูรพา จึงเป็นต้นกำเนิดสายวิปัสสนากรรมฐาน พระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ ทั่วประเทศได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้

สิ่งก่อสร้างที่สำคัญของวัดบูรพา ศาลาการเปรียญ หลังเดิมนั้น สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2458 ซึ่งแต่เดิมนั้น บริเวณที่สร้างศาลาการเปรียญนี้ ได้เคยเป็นสถานที่สร้างเมรุ เผาศพหลวงปู่เสาร์ ซึ่งเมื่อเผาศพเสร็จแล้ว จึงได้สร้างศาลาการเปรียญขึ้นแทน แต่ต่อมาได้เกิดไฟไหม้ หลวงพ่อพระครูอมรสิทธิ์ จึงได้สร้างวิหารหลังใหญ่ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะนำรูปเหมือนของหลวงปู่ ทั้ง 5 คือ พระอาจารย์สีทา ชัยเสโน,พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล,พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต,พระญานวิศิษย์สิงห์ ขันตญาคโม และพระสิทธิธรรมรังษีคัมภีร์เมธาจารย์ (สี ธัมมธโร)

สิ่งสำคัญภายในวัด

วัดบูรพาราม อุบลราชธานี

หอไตรคู่

ภายในวัดมีงานสถาปัตยกรรมท้องถิ่นให้เรียนรู้นั่นคือ หอไตรคู่ ซึ่งเป็นหอไม้ทรงสูง 2 หลัง ที่สร้างไว้คู่กัน ใช้สำหรับเก็บคัมภีร์หรือพระไตรปิฎก และมีสิมเก่าที่ยังหลงเหลือไว้ให้ศึกษางานสถาปัตยกรรมท้องถิ่นและเป็นที่ประดิษฐานของพระบูรพาจารย์ 5 องค์

หอไตรคู่

การสร้างหอไตรนี้ มาจากพื้นฐานความเชื่อของการนับถือศาสนาพุทธ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักในการสร้างคือ เพื่อเป็นที่เก็บหนังสือ คัมภีร์ใบลาน ที่ถือเป็นตัวแทนของพระธรรมคำสั่งสอนเป็นของสูงที่ต้องกราบไหว้บูชา หอไตรจึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในทัศนคติของชาวบ้าน

หอไตรคู่

หอไตรวัดบูรพาราม เป็นหอไตรที่สร้างไว้บนบก ต่างจากหอไตรวัดทุ่งศรีเมืองที่สร้างไว้กลางน้ำ ลักษณะอาคารเป็นเรือนไม้ 2 หลัง คู่กันยกพื้นสูงด้วยเสาไม้กลมหลังละ 8 ต้น ฝาผนังอาคารเป็นแบบก้างปลาส่วนประกอบอื่น ๆ ไม่อาจ มองเห็นรูปแบบได้ชัดเจน เนื่องจากได้พังไปหมดแล้ว

หลังการบูรณะในปี 2545 ได้มีการบูรณะหอไตร อุโบสถ และการปรับภูมิทัศน์ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรง ประกอบกับสิ่งแวดล้อมซึ่งจัดทำไว้อย่างเหมาะเจาะมีความสอดประสานกันอย่างกลมกลืน ขับเน้นความสง่างามของโบราณสถานให้โดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ดำรงอยู่ต่อไป

หอไตรคู่
สิมเก่า

สิมเก่า

เป็นสิมโปร่งแบบพื้นถิ่นอีสาน คือ สิมที่ไม่ก่อผนังปิดมิดชิด ยกเว้นเฉพาะผนังด้านหลังพระประธาน เป็นอาคารขนาด 3 ห้อง หันหน้าลงทางทิศใต้ ส่วนชุดฐานบัว (เอวขัน) ก่ออิฐถือปูน ผนังเป็นโครงไม้ขึ้นรูปด้วยดินเหนียวผสมฟางข้าวสับละเอียดและแกลบข้าว ฉาบผิวด้วยน้ำปูน มีเสาไม้รองรับเครื่องหลังทรงจั่ว ในอดีตน่าจะมุงด้วยแป้นเกล็ดไม้หรือกระเบื้องดินเผา ด้านหน้ามีพาไลและบันไดทางขึ้น

สิมเก่า
พระประธาน
พระประธาน

ใน พ.ศ. 2562 กรมศิลปากรร่วมกับวัดบูรพาราม ดำเนินการบูรณะอุโบสถ (สิม) หลังนี้ด้วยการทำหลังคาใหม่ครอบอาคารเดิมไว้ เพื่อประโยชน์การใช้งานตามความต้องการของทางวัดและชุมชน และแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2563 เป็นงานสถาปัตยกรรมท้องถิ่นและเป็นที่ประดิษฐานของพระบูรพาจารย์ 5 องค์

สถานที่ประชุมเพลิงพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล

สถานที่ประชุมเพลิง

สถานที่ประชุมเพลิงพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล พระอาจารย์สายวิปัสสนาอาจารย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

สถานที่ประชุมเพลิง
หอกลอง

หอกลอง

พระประธาน

พระประธาน

กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดขอบเขตที่ดินโบราณสถานวัดบูรพาราม ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 118 ตอนพิเศษ 124ง หน้า 7 วันที่ 17 ธันวาคม 2544

พระพุทธรูปปางนาคปรก

พระพุทธรูปปางนาคปรก

พระพุทธรูปปางนาคปรก

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวนิยมมากราบขอพร และถ่ายรูปกับพระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่หน้าหอไตร อันเป็นจุดมูอีกหนึ่งจุดที่นิยมมาเช็กอินกันค่ะ

วัดดังอุบลราชธานี
อุโบสถ

หากได้มาเยือนอุบลแล้วล่ะก็ อย่าลืมแวะมากราบพระ ชมความงามของสิมและหอไตรโบราณ สถานที่ที่พระเกจิอาจารย์ดังๆ ของไทยนิยมมาเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานกันที่วัดแห่งนี้กันค่ะ

ภาพโดย MTHAI TEAM

ที่อยู่ : 24 บ้านแสนตอ ถนนพโลรังฤทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมืองอำเภอเมืองอุบลราชธานี, อุบลราชธานี
Google map: https://maps.app.goo.gl/VBzAZKPqEDeQadKe8
เวลาทำการ : 04.30 น. – 20.30 น.

เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เที่ยวตลาดนัด ชมความงามหายาก สิมอีสาน วัดแจ้ง อุบลราชธานี
ไฮไลท์เมืองอุบล ยลความงามยามค่ำคืน ต้นไม้เรืองแสงที่วัดภูพร้าว
ไหว้พระเจ้าใหญ่ศรีเมือง ชมสิมโบราณและหอไตรกลางน้ำ วัดทุ่งศรีเมือง

MONOMAX