วัดพระธาตุหนองบัว
วัดสวยอุบลราชธานี มีอยู่มากมายหลายวัดด้วยกัน ซึ่งแต่ละวัดก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป หากแต่หนึ่งในจุดสักการะที่ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง หากมาเยือนเมืองดอกบัวแห่งนี้แล้วล่ะก็ นั่นก็คือ วัดพระธาตุหนองบัว นี่เองค่ะ
ประวัติวัดพระธาตุหนองบัว
วัดนี้เดิมชื่อ “วัดหนองบัว”สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2498 เริ่มต้นจากกลุ่มพุทธศาสนิกชนชาวอุบลราชธานี ผู้ยึดมั่นในการปฏิบัติธรรมกลุ่มหนึ่ง มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ในการสร้างวัดให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม โดยได้ที่ดินมาจาก นายฟอง สิทธิธรรม อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรซึ่งเป็นชาวอุบลราชธานีได้มีความเลื่อมใสศรัทธาสร้างวัดขึ้นในที่นาของท่าน มีเนื้อที่ทั้งหมด 50 ไร่เศษ โดยจุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ และ รูปปั้น”พญานาคฉัพยาปุตตะ” (สีรุ้ง) 1 ใน 4 ของพญานาค 4 ตระกูล และ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนทำเทียนพรรษาอันเลื่องชื่อด้วย เทียนพรรษาวัดพระธาตุหนองบัว กวาดรางวัลการประกวดเทียนพรรษาชนะเลิศมาตลอดหลายปี
พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์
พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ หรือที่ชาวอุบลเรียกกันว่า “พระธาตุหนองบัว” สร้างขึ้นเพื่อเป็นเฉลิมฉลองครบรอบกึ่งพุทธกาล 25 ศตวรรษของพุทธศาสนา ในปี พ.ศ.2500 โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ที่ ประเทศอินเดีย สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
แต่เดิมพระธาตุเจดีย์มีความกว้างด้านละ 6 เมตร องค์พระธาตุทั้ง 4 ด้านแกะสลักพระประจำวันเกิด และกลีบบัวประดับ ฐานล่างแกะรูปพระพุทธเจ้าปางประสูติ ตรัสรู้ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
ต่อมาสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานยังองค์พระบรมธาตุ และได้ทำการก่อสร้างพระธาตุองค์ใหญ่ครอบพระธาตุองค์เล็กไว้ โดยมีฐานรูปสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 17 เมตร ส่วนยอดฉัตร 4 ชั้น ลงรักปิดทอง ที่ยอดฉัตรเป็นรูปดอกบัวตูม ทำด้วยทองคำหนัก 31 บาท ฐานตอนล่างสุดเป็นรูปมารยกฐานไว้ ถัดขึ้นไปเป็นรูปพระสงฆ์สาวกยืนในซุ้มด้านละ 8 องค์รวม 32 องค์ ถัดขึ้นไปเป็นภาพปูนปั้นเล่าเรื่องพระเจ้าสิบชาติสลักเป็นช่อง ๆ 1 ช่อง ต่อ 1 เรื่อง รวมทั้งหมด 10 ช่องและเหมือนกันทั้ง 4 ด้าน ถัดขึ้นไปอีกเป็นลายรัดประคตรูปเทพนั่งบนแท่นสลับกับลายกนก ถัดขึ้นไปอีกประดับลายปูนปั้นเป็นรูปพระพุทธเจ้าในปางต่าง ๆ สูงจนถึงยอดเจดีย์ ที่มุมฐานทั้งสี่ที่อยู่ด้านล่างเป็นรูปครุฑแบกเหนือขึ้นมาเป็นนาค 7 เศียร
ภายในองค์พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ หรือพระธาตุหนองบัว เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุซึ่งบรรจุไว้ในสถูปลงรักปิดทองศิลปะอินเดียแบบปาละ คือ เป็นสถูปทรงสี่เหลี่ยมสลักลายเรื่องพระเจ้า 500 ชาติ อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมเรียงเป็นแถวคั่นแถวด้วยลายกลีบบัว เป็นจุดสักการะที่มักจะมาขอพรความสำเร็จจากพระบรมสารีริกธาตุ
สำหรับพระธาตุประจำปีเกิด “ปีมะเส็ง” (งูเล็ก) คือ “โพธิบัลลังก์ วิหารมหาโพธิเจดีย์” รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งหากใครจะไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิด แต่ไม่สะดวกเดินทางไกล ก็อนุโลมให้เป็นพระเจดีย์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันได้ ซึ่งจะมีทั้งทางภาคเหนือ และ ภาคอีสาน โดยภาคเหนือคือ “พระเจดีย์เจ็ดยอด” หรือ “มหาเจดีย์พุทธคยา” วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจ็ดยอด) จ.เชียงใหม่ ส่วนภาคอีสาน ก็มีพระธาตุเจดีย์ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเส็งด้วยเช่นกัน นั่นคือ “พระบรมธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์” ณ วัดพระธาตุหนองบัว จ.อุบลราชธานีแห่งนี้นี่เอง
รอบองค์พระธาตุเป็นกำแพงแก้ว ซึ่งทั้ง 4 มุมของกำแพงแก้วประดิษฐานพระเจดีย์ธาตุขนาดเล็กอีก 4 องค์ เป็นเจดีย์ทรงเหลี่ยมประดับลายรูปเทพพนมและลายกนก ที่ฐานปั้นเป็นรูปเทวดาประทับนั่งในซุ้มภายในองค์ประธาตุมีประตูทางเข้า 4 ด้าน สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512
คำไหว้พระธาตุเจดีย์พระศรีมหาโพธิ์ หรือพระธาตุหนองบัว อุบลราชธานี
วันทามิ ภันเต เจติยัง สัพพัตถะฐาเน
สุปะติฏฐิตัง สารีริกกะธาตุ มหาโพธิง พุทธะรูปัง
สะกะลัง วะจะสา มะนะสา เจวะ วันทาเมเต
สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา (กราบ)
อุกาสะ วันทามิ ภันเต สัพพัง อะปะราธัง
ขะมะถะเม ภันเต มะยา กะตัง ปุญญัง มัยหัง
ทาตัพพัง สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ด้านหลังของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ มีอุโบสถศาลาซึ่งสร้างเลียนแบบรูปทรงมาจากปรินิพพานวิหารเมืองกุสินาราย รัฐอุตร ประเทศประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นที่เสด็จดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า เป็นอาคารตรีมุข คือ มีหลังคายื่นออกไปเป็นสามด้าน หลังคารูปร่างโค้งมน มีระเบียงพาไลโดยรอบตกแต่งด้วยลวดลายวิจิตรงดงาม ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ซึ่งเป็นพระประธานในซุ้มตรีมุข เพดานโค้งด้านบนเขียนรูปเทวดาดั้นเมฆพนมมือบนพื้นสีแดง ตรงกลางเป็นรูปดาว ส่วนล่างเขียนจิตรกรรมเรื่องพุทธประวัติ ส่วนเสา พื้น และผนังบุหินแกรนิต
อุโบสถ
ภายในอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ซึ่งเป็นพระประธานในซุ้มตรีมุข เพดานโค้งด้านบนเขียนรูปเทวดาดั้นเมฆพนมมือบนพื้นสีแดง ตรงกลางเป็นรูปดาว โดยเปิดให้อุบาสก อุบาสิกาสามารถมาสวดมนต์ได้ทุกวันเวลา 16.30 น. เป็นต้นไป
ต่อมา สำนักงานพระพุทธศาสนาได้ประกาศเปลี่ยนแปลงชื่อวัดหนองบัว เป็น “วัดพระธาตุหนองบัว” เนื่องจากมีพระบรมธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริธาตุ และได้อัญเชิญชิ้นส่วนพระธาตุพนมเสียมทอง มาประดิษฐาน ตั้งแต่ปี 2502 ด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงประกาศเปลี่ยนแปลงชื่อวัดหนองบัวเป็น “วัดพระธาตุหนองบัว” ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
รูปปั้นลอยตัวก่ออิฐถือปูนขบวนต้นเทียนพรรษาของวัดพระธาตุหนองบัว ตั้งอยู่ด้านหน้าทั้งสองข้างของอุโบสถศาลา วัดพระธาตุหนองบัว
พิพิธภัณฑ์พระครูกิตติ วัณโณบล วัดพระธาตุหนองบัว
พญานาคฉัพยาปุตตะ จุดมูโชคลาภ ค้าขาย : แลนด์มาร์กอุบลราชธานี
รูปปั้น ท่านปู่กริชกรกตนาคราช และ ท่านย่า กลีบมณีเกตุนาคิณี “พญานาคฉัพยาปุตตะ” (สีรุ้ง) 1 ใน 4 ของพญานาค 4 ตระกูล สร้างตามดำริของท่านเจ้าอาวาสที่ได้นิมิตเห็นงูใหญ่สีรุ้งมาอาศัยอยู่บริเวณวัดพระธาตุหนองบัวแห่งนี้นั่นเอง โดยทำพิธีบวงสรวงเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 ถือเป็นจุดมูที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก โดยมักจะมาสักการะขอพรโชคลาภและการค้าขายกันที่นี่
คำกล่าวบูชาพญานาค
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ
กายะ วาจา จิตตัง อะหังวันทา นาคาวิรูปักขะ วิสุทธิ เทวา ปูเชมิ
กายะ วาจา จิตตัง อะหังวันทา นาคาเอราปะถะ วิสุทธิ เทวา ปูเชมิ
กายะ วาจา จิตตัง อะหังวันทา นาคาฉัพยาปุตตะ วิสุทธิ เทวา ปูเชมิ
กายะ วาจา จิตตัง อะหังวันทา นาคากัณหาโคตะมะ วิสุทธิ เทวา ปูเชมิ
เมตตัญจะ มหาลาโภ ปิโยนาคะขันธะปะริตตัง (แล้วอธิษฐาน)
คำบูชาเพื่อขอโชคลาภ
อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นาคี นาคะ ลาโภ ลาภะ โภคา โภคะ นะมามิหัง
ประสิทธิมัง นะโมพุทธายะ มะอะอุ
เยือนอุบลราชธานีครั้งไหน ห้ามพลาดมาทำบุญ ถวายสังฆทาน สวดมนต์ กราบพระธาตุ ขอพรพญานาคเพื่อความสุข ความสำเร็จกันได้ที่วัดนี้
ภาพโดย MTHAI TEAM
ที่อยู่ : ถนนธรรมวิถี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
Google map : https://maps.app.goo.gl/t4bSxJndxgJgboTY8
เวลาทำการ : 06.30 น. – 20.00 น.
เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ถวายเทียนพรรษา ตามวันเกิด เกิดวันไหนควรถวายแบบใด จึงจะช่วยเสริมดวงให้ดียิ่งขึ้น
สักการะพญาเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช วัดถ้ำแจง เพชรบุรี
คำไหว้พระธาตุ รับมงคลไหว้ พระธาตุประจำปีเกิด ต้อนรับปีใหม่
