เป็นความเชื่อกันมาช้านาน เรื่องข้อห้ามทำเหล่านี้ว่า ไม่ควรทำเมื่อยาม เข้าป่า ถ้ายังอยากอยู่ดีมีสุข อยู่รอดปลอดภัย ก็จงปิดหู ปิดตา ปิดวาจาจากสิ่งเหล่านี้เสีย ซึ่งของเหล่านี้ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ค่ะ
1.ห้ามพูดถึงสิงสาราสัตว์เด็ดขาดเมื่อเดินทางเข้าป่า
ตามคำบอกเล่าความเชื่อของคนโบราณนั้นบอกว่า เมื่อเดินทางเข้าป่าห้ามพูดถึงสัตว์ดุร้ายเด็ดขาด คือเชื่อกันว่าถ้าหากว่าเรานั้นพูดถึงสัตว์ป่าที่ดุร้ายนั้นมันก็จะมาเพราะคำพูดของเรานั้นเรียกมันมา ถือว่าเป็นความเชื่อของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ โดยสายเดินป่าจะมีคำเรียกอ้อมๆ เพื่อเลี่ยงการเอ่ยชื่อสัตว์ดุร้าย อย่างเช่น เมื่อไม่ให้พูดถึงเสือ ก็จะใช้คำเรียกแทนว่า “พ่อแมว แม่แมว” แทนค่ะ แต่ทางที่ดีก็จะไม่เอ่ยเรียกหรือสนทนาเรื่องเหล่านี้กัน
2.ห้ามพูดถึงภูตผีและวิญญาณ
พลังงานป่าเขา ไม่เหมือน พลังงานเมือง ความแตกต่างคือ เมืองมีคลื่นพลังงานมากมายหลากหลายแทรกซ้อนอยู่มาก ทั้งคลื่นไฟฟ้า คลื่นวิทยุ เป็นสิ่งรบกวนตัดแทรกพลังงานธรรมชาติ แตกต่างจาก ป่าเขา ที่ยังคงบริสุทธิ์เป็นธรรมชาติ ไร้พลังงานอื่นใดรบกวน ดังนั้นเมื่อตกกลางคืนสิ่งที่ห้ามทำคือการเล่าเรื่องผีรวมถึงการพูดถึงเรื่องลึกลับเด็ดขาด เช่นเดียวกับเรื่องของสิงสาราสัตว์ เพราะจะเหมือนเป็นการเรียกนำ “เขา” มา ทางที่ดี ควรปิดวาจาเสียจะเป็นการดี
3.ห้ามชวนใครกลับบ้านโดยไม่เอ่ยชื่อ
เชื่อกันว่าเมื่อเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นป่าและเขานั้น ไม่ควรที่จะพูดคุยและชักชวนเพื่อนกลับบ้านโดยไม่เอ่ยชื่อเสียงเรียงนามเด็ดขาด เพราะเชื่อกันว่าอาจจะมีคนเดินทางติดตามกลับมาที่บ้านพร้อมกับเราซึ่งก็อาจจะเป็นสิ่งลี้ลับที่เรามองเห็น ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดถ้าไม่อยากเจอดี
4.ห้ามนอนขวางทางเดินสัญจร ห้ามนอนขวางประตู
เชื่อกันว่าเป็นทางเดินของสิ่งลึกลับที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ จึงห้ามให้มนุษย์ไปนอนขวางทางเด็ดขาด หากเราหลงไปนอนขวางทางสัญจรหรือนอนขวางประตู เราอาจจะโดนผีหลอกหรือผีอำได้
5.ห้ามลืมไหว้ขออนุญาตจากเจ้าที่เจ้าทางก่อนนอน
แต่โบร่ำโบราณเชื่อกันว่า หากเดินทางไปต่างที่ต่างถิ่น ต้องไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางก่อนนอน เพื่อขออนุญาตพักแรมในสถานที่นั้นๆ ด้วยดี และควรสวดมนต์ก่อนนอนเพื่อให้พระคุ้มครอง โดยแนะนำบทสวด 3 บทดังนี้
- บทสวด ขันธะปะริตตะคาถา : ป้องกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ตะขาบ และสัตว์เลื้อยคลาน
บทขัด ขันธะปะริตตะคาถา
สัพพาสีวิสะชาตีนัง ทิพพะมันตาคะทัง วิยะ
ยันนาเสติ วิสัง โฆรัง เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง
อาณักเขตตัมหิ สัพพัตถะ สัพพะทา สัพพะปาณินัง
สัพพะโสปิ นิวาเรติ ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ
บทสวด ขันธะปะริตตะคาถา
วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม
ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม
มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก
มา มัง จะตุปปะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโก
สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา
สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา
อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ
ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที
อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา
ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง
สัมมาสัมพุทธานัง ฯ
- บทโมรปริตร : คาถาป้องกันภัย แคล้วคลาด มาจากเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ หรือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนที่จะทรงตรัสรู้ เมื่อครั้งที่ทรงเสวยพระชาติเป็นนกยูง
บทขัด โมระปะริตตัง
ปูเรนตัมโพธิสัมภาเร นิพพัตตัง โมระโยนิยัง
เยนะ สังวิหิตารักขัง มะหาสัตตัง วะเนจะรา
จิรัสสัง วายะมันตาปิ เนวะ สักขิงสุ คัณหิตุง
พรัหมะมันตันติ อักขาตัง ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ
บทสวด โมระปะริตตัง
อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง
เย พ๎ราห๎มะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
อิมัง โส ปะริตตัง กัต๎วา โมโร จะระติ เอสะนา ฯ
อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง
เย พ๎ราห๎มะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
อิมัง โส ปะริตตัง กัต๎วา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ ฯ
- กรณียเมตตาสูตร : เป็นการแผ่เมตตา ให้เป็นสุข
เริ่มสวดภาวนา นะโม 3 จบก่อน
บทขัดกะระณียะเมตตะสุตตัง
ยัสสานุภาวะโต ยักขา เนวะ ทัสเสนติ ภิงสะนังยัมหิ เจวานุยุญชันโต รัตตินทิวะมะตันทิโตสุขัง สุปะติ สุตโต จะ ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติเอวะมาทิคุณูเปตัง ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ
กะระณียะเมตตะสุตตัง
กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะสักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานีสันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ อัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุตติสันตินทริโย จะ นิปะโก จะ อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธนะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุงสุขิโน วา เขมิโน โหตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสาทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิยา รัสสะกา อะณุกะถูลาทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเรภูตา วา สัมภะเวสี วา สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตานะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิพยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะมาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเขเอวัมปิ สัพพะภุเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณังอุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตังติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธเอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ ฯ
คาถาแผ่เมตตา (กรณียเมตตาสูตร) แบบย่อของหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ่ำกลองเพล ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มีดังนี้
พุทธะ เมตตัง จิตตังมะมะ พุทธะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมะ เมตตัง จิตตังมะมะ ธัมมะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆะ เมตตัง จิตตังมะมะ สังฆะ สังฆานุภาเวนะ
6.ห้ามเล่นซ่อนหาในตอนกลางคืน
ในช่วงเวลากลางคืน เป็นโลกของสิ่งลี้ลับที่จะออกมาเดินเล่นเพ่นพ่านกันอยู่ทั่วไป ดังนั้น หากใครไปเดินป่า ก็ไม่ควรเล่นพิเรนทร์ อย่าง การเล่นซ่อนหาในเวลากลางคืน เพราะนอกจากอาจได้พบกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่มาจากโลกหลังความตายแล้ว ยังอาจต้องเผชิญหน้ากับสัตว์มีพิษที่ออกหากินในตอนกลางคืนที่ทำให้เกิดอันตรายจนอาจถึงชีวิตอีกด้วย
7.ห้ามนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก
ข้อนี้เป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ไม่ควรนอนหันหัวไปทางทิศนี้ เพราะทิศตะวันตกนั้นเป็นทิศผีนอน เชื่อกันว่าถ้าเกิดหันหัวนอนไปทางทิศตะวันตกนั้นจะทำให้ภูตผีวิญญาณคิดว่าเราตายไปแล้วเหมือนพวกเขา เชื่อกันว่าหากยมบาลผ่านมาเห็น ก็จะทำให้ถูกดึงวิญญาณออกไปได้ จะทำให้ผู้นอนอายุสั้น ถูกผีอำ ผีหลอกได้ง่าย แต่คำอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ก็มีอยู่ เนื่องจากโลกหมุนจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก ทำให้สนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ถูกส่งมาจากทิศตะวันออกไปตะวันตก หากหันทิศหัวนอนหันไปทางทิศตะวันออก กระแสแม่เหล็กจะเข้าสู่ศีรษะก่อนและจะระบายออกที่เท้า แรงเฉื่อยที่เกิดขึ้นจะทำให้อุณหภูมิที่ศีรษะเย็น และอุณหภูมิที่เท้าร้อน
ในทางตรงกันข้าม หากทิศหัวนอนหันไปทางทิศตะวันตก กระแสแม่เหล็กจะเข้าสู่เท้าก่อนจะระบายออกที่ศีรษะ ทำให้ศีรษะสะสมความร้อนเอาไว้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองนั่นเอง
8.ห้ามขานรับหากมีคนมาเรียกในตอนกลางคืน
ถ้าเกิดในช่วงกลางค่ำกลางคืนแล้วได้ยินเสียงคนมาเรียกชื่อนั้นห้ามขานรับเด็ดขาด หากไม่เห็นตัวคนพูด ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ ก็ตามและถ้ายิ่งเป็นในป่านั้นยิ่งไม่ควรเพราะเชื่อกันว่าเป็นเสียงของดวงวิญญาณที่มาร้องเรียกให้เราตามเขาไปอยู่ด้วย หรือจะมาอยู่กับเรานั้นเอง
9.ห้ามเคาะชามข้าวในตอนกลางคืน
เป็นความเชื่อแต่โบร่ำโบราณอีกเช่นกันค่ะ ที่เชื่อกันว่า การเคาะถ้วยชามหรือ จานข้าว เป็นการเคาะเรียกผีมากินข้าว
10.ห้ามผิวปากในตอนกลางคืน
เชื่อกันว่า การผิวปากนั้นสามารถเรียกดวงวิญญาณผีสางนางไม้ อีกทั้งยังสามารถเรียกคุณไสยมนต์ดำต่างๆ เข้ามาหาตัวได้อีกด้วย เป็นข้อห้ามไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะป่าเขาลำเนาไพรที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรบ้างอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรานั้นมองไม่เห็นนั่นเอง
11.ห้ามเล่นเงาของตัวเองในตอนกลางคืน
คนโบราณเชื่อว่า การเล่นเงาในตอนกลางคืนนั้น จะทำให้ภูตผีและดวงวิญญาณสามารถมองเห็นเราได้ และอาจจะมาทำร้ายและก่อกวนเราในช่วงกลางคืนได้นั่นเอง
12.ห้ามปลดทุกข์โดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าที่เด็ดขาด
ในป่าเต็มไปด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น อาจมีเจ้าของที่อยู่ ไม่ควรปลดทุกข์เรี่ยราด หากจะปลดทุกข์ควรเข้าให้เป็นที่เป็นทาง หากไม่มีห้องน้ำก็ควรขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางก่อนเสมอ
13.ห้ามสวดบทสวดพาหุงฯ และบทสวดชินบัญชร
เป็นบทสวดที่ยกเอาการชนะมารของพระพุทธเจ้ามาเป็นมงคล เชื่อกันว่าเป็นบทสวดที่สามารถทำให้เหล่าวิญญาณคลั่ง และออกมาหลอกหลอนก่อกวนเราได้ ไม่ควรสวดเมื่อเดินทางเข้าป่าเพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่ามีอะไรอาศัยอยู่ในป่าบ้าง (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการสวด เนื่องจากบทสวดทุกบทเป็นพุทธคุณ จิตสว่างผ่องใส)
เชื่อว่าเป็นความเชื่อที่น่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ในวันนี้ที่การเดินเทรล แทร็คกิ้ง แค้มปิ้งกำลังเป็นกระแสมาแรง จึงนำมาแชร์ต่อ ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ เพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
เที่ยว ประตูมหาสมุทร ชมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตำนานบ้านบ่อคา
ปีชง 2566 ปีเถาะ ลดปะทะด้วยวิธีแก้ชงบอกหมดไม่อั้น
13 ความเชื่อเรื่อง โชคลาง บอกเหตุของอินเดีย แบบนี้ก็มีด้วยนะนายจ๋า