ต่อชะตา สวดบังสุกุล สวดบังสุกุลเป็น สะเดาะเคราะห์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาด้วยการ สวดบังสุกุลเป็น

ปัจจุบันสามารถพบพิธีกรรมนี้ตามทุกวัดอย่างแพร่หลาย ซึ่งการ สวดบังสุกลเป็น เพื่อต่อชะตาแบบทางเหนือ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง สายมูท่านไหนอยากลอง ตามมาศึกษาก่อนไปกันได้เลย!

Home / พิธีกรรม / สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาด้วยการ สวดบังสุกุลเป็น

การสะเดาะเคราะห์เพื่อ ต่อชะตา หรือตัดกรรมเป็นสิ่งที่หลายท่านให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันสามารถพบพิธีกรรมนี้ตามทุกวัดอย่างแพร่หลาย ซึ่งการ สวดบังสุกลเป็น เพื่อต่อชะตาแบบทางเหนือ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง สายมูท่านไหนอยากลอง ตามมาศึกษาก่อนไปกันได้เลย!

ต่อชะตาด้วยการสวดบังสุกุล

ต่อชะตา

การสวดบังสุกุลเดิมทีเป็นพิธีสำหรับการส่งผู้ล่วงลับให้ไปสู่สุคติ ซึ่งจะเป็นพิธีในช่วงก่อนเผาศพ โดยจะมีพระสงฆ์จะสวดมาติกา คือสวดพระบาลีเฉพาะหัวข้อธรรมในพระอภิธรรมปิฎก ซึ่งขึ้นต้นด้วยบทว่า กุสลาธัมมาอกุสลาธัมมา…” ก่อน จากนั้นจึงจะประกอบพิธีบังสุกุล แล้วให้เจ้าภาพลากสายโยงหรือภูษาโยง เพื่อทอดผ้า ให้พระภิกษุสงฆ์เพื่อตาลปัตรพิจารณาผ้าบังสุกุล แล้วจับผ้าบังสุกุลด้วยมือขวา พร้อมกับกล่าวคำพิจารณาผ้า เมื่อกล่าวเสร็จจึงชักผ้ามา จึงเรียกผ้าที่พระภิกษุชักจากศพว่า “ผ้าบังสุกุล” และเรียกกิริยาที่พระภิกษุทำพิธีชักผ้าจากศพ ด้วยการปลงกรรมฐานว่า “ชักบังสุกุล” 

ซึ่งในปัจจุบันการสวดบังสุกุลไม่เพียงแต่ทำในพิธีกรรมส่งผู้ล่วงลับให้ไปสู่สุคติแล้ว เนื่องจากได้มีการปรับให้เป็นการสวดบังสุกุลเป็น เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาแก่ผู้ที่รู้สึกไม่สบายใจ

จุดเทียน

การสวดบังสุกุลเป็นเพื่อสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา

การสวดบังสุกุลเป็นเพื่อสะเดาะเคราะห์และต่อชะตา เป็นที่นิยมมากสำหรับสายมูทุกท่านที่รู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งผ่านเรื่องร้ายหรือเคราะห์หนักมา จะนิยมสะเดาะเคราะห์ด้วยวิธีนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะเปรียบเสมือนเป็นการถือเคล็ด “กลับมาฟื้นใหม่แล้ว” ปัดเป่าเคราะห์ร้ายให้หายไปกับพิธีสวดบังสุกุลเป็น

ขั้นตอนการทำพิธีสวดบังสุกุลเป็น

1. ให้บุคคลผู้ที่ต้องการทำพิธีลงไปนอนหงายในโลงศพ พร้อมประนมมือ หันศีรษะไปทางทิศตะวันตก ในลักษณะคล้ายคนตาย 

2. จากนั้นจะใช้ผ้าขาวที่เปรียบเสมือนเป็นผ้าคลุมศพมาห่มตัวผู้สะเดาะเคราะห์ไว้ทั้งตัว 

3. พระสงฆ์จำนวน 4 รูป จะเริ่มทำพิธีโดยการจับชายผ้าที่ผูกด้วยสายสิญจน์ สวดบทบังสุกุลตาย
“อะนิจจา วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน อุปปัชชิตฺวา นิรุชฌันติ เตสัง วูปะสะโม สุโขฯ สัพเพ สัตตา มะรัน ติจะ มะริงสุ จะ มะริสสะเร ตะเถวาหัง มะริสสามิ นัตถิ เม เอตถะสังสะโยฯ” เสมือนผู้สะเดาะเคราะห์ได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว

4. หลังจากพระสงฆ์สวดบทบังสุกุลตายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะให้ผู้สะเดาะเคราะห์เปลี่ยนทิศนอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันออก 

5. จากนั้นพระสงฆ์จะเริ่มสวดบทบังสุกุลเป็น “อะจิรัง วะตะยัง กาโย ปะฐะวิง อะธิเสสสะติ ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโน นิรัตถังวะ กะลิงคะลังฯ” เสมือนได้เปลี่ยนชีวิตใหม่ ล้างสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย 

6. เมื่อสวดบทบังสุกุลเป็นเสร็จ พระสงฆ์ก็จะให้ศีล ให้พร ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการสะเดาะเคราะห์ 

สัตว์

เมื่อเสร็จพิธีแล้วโลงที่ใช้สำหรับการทำพิธี จะถูกนำไปเผาเพื่อให้สิ่งร้ายๆ มอดไหม้ไปกับเปลวเพลิง ส่วนผู้เข้าร่วมพิธีเมื่อออกจากวัดแล้วให้ไปทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ เพื่อเป็นการทำบุญให้กับชีวิตใหม่ตนเอง เพิ่มสิริมงคลในชีวิตมากยิ่งขึ้น

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

กราบสักการะ 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

ห้องไหน ทิศไหนใช้ไฟสีอะไร ฮวงจุ้ยธาตุไฟเสริมโชคลาภ ให้อยู่เย็นเป็นสุข

บทสวดอุณหิสสวิชัยคาถา บทสวดต่อชะตา ต่ออายุ