วันคเณศชยันตี วันประสูติของพระพิฆเนศ เทพแห่งความสำเร็จ

วันคเณศชยันตี เป็นอีก 1 วันสำคัญที่เหล่าสาวกผู้ที่รักและศรัทธาต่อองค์พระพิฆเนศ จะได้แสดงออกซึ่งมุทิตาจิตต่อพระองค์ ด้วยการจัดเครื่องสังเวยบูชา สวดมันตรา และถวายอารตีไฟ เพื่อเป็นการบูชาพระองค์

แล้ววันคเณศชยันตีนี้มีความสำคัญอย่างไร ?

เนื่องด้วยวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน “มาฆะ” ตามปฏิทินฮินดู หรือ “ศุทธ มาฆจตุรถี” ซึ่งช่วงเวลาจะอยู่ราวๆกลางเดือนมกราคม ไปจนถึงต้นกุมภาพันธ์จะตรงกับ วันคล้ายวันประสูติขององค์พระพิฆเนศ (วันเกิด) นั่นเอง

ในสมัยก่อนผู้ที่บูชาและเลื่อมใสในพระองค์จะนำเอาดินผสมกับเครื่องหอมเป็นองค์พระพิฆเนศและสวดมันตราตลอดจนทำการบูชาด้วยขนมลาดูที่ทำจากงา ให้พระองค์แบบนี้ต่อเนื่องไปเป็นเวลา 4 วันและเมื่อครบเวลาจะทำการนำเอาเทวรูปที่ได้ทำการปั้นนี้ไปลอยน้ำเพื่อเป็นเป็นการส่งพระคเณศจึงถือเป็นการเสร็จสิ้นพิธีบูชาในช่วงคเนศชยันตี

พระนามพระคเณศวันสําคัญนี้ได้แก่

-MAGHA SHUKLA CHATURTHI TILKUND CHATURTHI

-VARAD CHATURTHI GANESH TIL CHATURTHI

• หากเราสังเกตจะเห็นว่ามีคำว่า TIL (เมล็ดงา) แฝงอยู่ในชื่อวันเกิดของท่าน เชื่อกันว่าผู้ที่ถวายงา เพื่อบูชาพระพิฆเนศในช่วงวันพิเศษนี้ โดยเฉพาะพระนาม วิฆนะหรตะ (VIGHNAHARTA) นั้น จะนำมาซึ่งมงคลแห่งความร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ปราศจากอุปสรรคทั้งปวง

แล้ววันนี้ ปอนด์ (อาจารย์ปอนด์ นักโหราศาสตร์ประจำของเว็บ MThai) ผู้ที่มีศรัทธา ต่อองค์พระพิฆเนศอย่างแรงกล้า สนใจศึกษาและค้นคว้าเรื่องราว เกี่ยวกับองค์พระพิฆเนศรอบด้าน ชื่นชมในพระเมตตาและบารมีของพระองค์ ถึงขั้นเก็บไปนอนฝัน จึงนำภาพที่เห็นในนิมิตรฝัน ไปบอกเล่า ให้ศิลปินช่างปั้นสร้างสรรค์เป็นองค์ พระพิฆเนศ โดยสร้างเป็นปางประทานพร ที่ได้ต้นแบบมาจากพระพิฆเนศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก คือ องค์ดั๊กดูเศรษฐ์ ฮาลไว คณปติ จากเมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย แต่นำเอาความรู้ โดยนำเอาความรู้เรื่องเทวลักษณะ เทวตำนานตอนที่พระพิฆเนศทรงไปสั่งสอนท้าวกุเวร นำมาสร้างเป็นพระพิฆเนศปางมหาเศรษฐีในแบบฉบับของตัวเอง

และตั้งชื่อผลงานว่า  “พระพิฆเนศปารมี เศรษฐีรวยเงินสด”จะมาถ่ายทอดเคล็ดลับที่จะทำให้ทุกคน

ทำการบูชาพระพิฆเนศในช่วงคเณศชยันตีง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง ที่บ้าน 

1.จัดเตรียมกายและใจให้พร้อม

ตื่นแต่เช้ามาอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด สวมใส่เสื้อผ้าสีแดงหรือสีอื่นที่สดใสยกเว้นสีดำ หากสะดวกบูชาระหว่างวันและอาบน้ำไม่ได้อย่างน้อยให้ทำการบ้วนปาก ล้างมือ ล้างหน้า และ ในระหว่างที่ทำการตั้งเครื่องถวาย อาจสวดมันตราง่ายๆ ว่า โอม ศรีคเณศายะ นะมะหะ ไปเรื่อยๆในใจเพื่อเป็นการรวบรวมสมาธิและทำใจให้ผ่องใส

2.จัดเตรียมของถวาย และเครื่องสังเวย ได้แก่ 

ปัญโจปจาระบูชาทั้ง 5 ประกอบด้วย 

1.เครื่องหอม (คันฑะ) : ผงซินดูร์ (สีส้ม) ,ผงกุมกุม (สีแดง)

2.ดอกไม้ (บุปผะ/มาลา) : เน้นดอกไม้สีสด เช่น ชบา ดาวเรือง กุหลาบ หรือ พวงมาลัยก็ได้

และควรมีหญ้าแพรก (ทูรวา) ด้วย

3.ธูป (ดูป) : ธูป 3 ดอก หรือ กำยาน 1 อัน (เรียกแค่อย่างใดอย่างนึงก็พอ)

4.ประทีป (ดีป) : เทียน 1-2 เล่ม 

5.เครื่องสังเวยต่างๆ (ไนเวทยัม) : ผลไม้จะกี่อย่างก็ได้ แต่ที่นิยมคือ 3,5,9 ชนิด  มะม่วงสุก มะขวิด ( 2 อย่างนี้เป็นผลไม้โปรดของพระองค์) 

หรือแนะนำผลไม้ที่ชื่อมีความ เป็นมงคล ได้แก่ องุ่น กล้วย อ้อยควั่นชิ้นเล็กๆ มะพร้าวอ่อน สัปปะรด

เคล็ดเพิ่มเติมคือเป็นผลไม้ที่สุกหรือพร้อมทานได้เลย ควรหลีกเลี่ยงชื่อไม่เป็นมงคล เช่น 

ระกำ มังคุดและผลไม้มีหนาม เช่น ทุเรียน 

– น้ำเปล่า1 แก้ว ใส่แก้วใส นมโคจืดหรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 แก้ว/กล่อง 

– แนะนำเป็นลาดูที่ทำจากงา

หรือขนมโมทกะและลาดูอื่นๆ หรือขนมหวานที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์และไข่ 

ของถวายเพิ่มเติมอย่าง 

– ข้าวมงคล 9 สี ธัญพืชมงคล 9 ชนิด 2 อย่างนี้ควรใส่แยกแต่ละชนิด ไม่ควรใส่ขวดรวมกัน เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต หรือ มุสิกะ (หนู) เพื่อเป็นบริวารให้พระองค์

อุปกรณ์สำหรับอารตีไฟ โดยจะใช้เป็นตะเกียงอารตีจุดกับการะบูรหรือใช้เป็นตะเกียงน้ำมัน หรือถ้าทำง่ายๆโดยเอาถาดกลมมาใส่ประทีปหรือเทียนลงไปอาจตกแต่งด้วยดอกไม้รอบๆ

สิ่งของที่เตรียมเอาเท่าที่ทำได้ เอาที่ง่าย สะดวก ไม่ลำบากเกินไป เพราะ พระองค์ท่านคงไม่ปรารถนา

ที่จะเห็นเราลำบาก หรือ เครียดทุกข์ใจในการหาของมาถวายพระองค์ แต่เน้นขอให้มีความสุขในการทำดีกว่า

3.ทำการบูชา

• เริ่มต้นด้วยการจุดเทียน(ประทีป) และจุดกำยานหรือธูป แล้วทำการสวดมันตรา โดยท่านสามารถใช้บทสวดมันตราอะไรก็ได้เกี่ยวกับพระองค์ แต่ปอนด์ขอแนะนำให้ใช้บูชาด้วยบท “คเณศ คายตรี”

“โอม คัง คะณะปะตะเย นะมะหะ 

เอกะทันตายะ วิทมาเห 

วักระตุนทายะ ธีมะหิ 

ตันโน ตันติ ประโจทะยาต”

เพื่อเป็นการขอการชี้นำทาง จากองค์พระพิฆเนศ แนะนำให้สวดสัก 108 จบ หรือจะสวด 3-5-7-9 หรือกี่จบก็ได้ ขอให้ทำด้วยความสุขและปิติใจ

(ถ้าสวดเองไม่ได้ก็สามารถเปิดคลิปและสวดตามไปได้ค่ะ)

• เสร็จแล้วน้อมนำถวายเครื่องสังเวย ตลอดจนดอกไม้ที่เราจัดเตรียมไว้ทั้งหมด แล้วทำการกล่าวถวายพระองค์ ให้ตั้งอธิษฐานจิตรำลึกถึงพระองค์ โดยทำอารมณ์ให้เหมือนเรากำลัง พูดคุยกับญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรัก และกล่าวคำถวายง่ายๆว่า

• ข้าพเจ้าชื่อ- นามสกุล… อยู่บ้านเลขที่… ได้ตระเตรียม ปัญจอัปจาระทั้ง 5 อันได้แก่ ผลไม้ ขนม นม น้ำ(เตรียมอะไรก็ให้แจ้งไป) มาถวายแด่พระองค์ ทำการอารตีไฟด้วยวิธีง่ายๆโดยทำมือเหวี่ยงหมุนวนไปตามเข็มนาฬิกาวนขวาไป 3-5-9 รอบแล้วแต่พอใจ แล้วสวดบท 

“โอม ศรีคเณศายะ นะมะฮา”

หรือ “โอม กัง คณปัตเย 

นะโม นะมะหะ 

ศรีสิทธิ วินายักกา นะโม นะมะหะ 

อัสตะวินายักกา นะโม นะมะหะ 

คณปติ ปับป้า โมรียา” 

• หรือแนะนำให้ สวดบทอารตี Sukhkarta Dukhharta  Ganpati Aarti 

สุขกันตา ดุกกะฮารตา วาตา วิกานาจิ นุรวิ ปูรวิ พรี มะกรุปา จายาจิ ซาราวัง กิซุนดา อุทิชินดูราจิ จันติ เจอกรีมา ดามุกตา พาลันจิ

เจ เด วะ เจ เดเจ วาเจ มังคลามูรติ โฮศรีมัง คลามูรติ ดารชันนะ มาเตรมานา กามานาปูติ เจเด วะ เจเด รัตนะ คันจิตา พารา ตุซะเการี กุมมารา

จันดา นาจิ ยูติ กุมกุม เคชารา ฮีเรจาดิทา มูกุทา โชบาโท บารา จุน ละ สุนนตินูพูเร ชารานิกา เกยา เจ เด วะ เจ

เดเจ วาเจ มังคลามูรติ โฮศรีมัง คลามูรติ 

ดารชันนะ มาเตรมานา กามานาปูติ เจเด วะ เจเด ลัมโบดาระพิฆัม บาระพานิวาระวันดานา ซาราระซุนดา วักกระตุนดะ เตรนัยยนา ดาอัส รามาชา วัทพาเฮซาดานา สังกัสติปาวา เอเดวารรัชชา เอซูราวาราวัน ดานา

 เจ เด วะ เจ เดเจ วาเจ มังคลามูรติ โฮศรีมัง ความูรติ ดารชันนะ มาเตรมานา กามานาปูติ เจเด วะ เจเด มังคลา มูรติ โมรยา คณปติ ปับป้า โมรยา (ถ้าสวดไม่ได้ก็เปิดคลิปได้ค่ะ)

• วางถาดอารตีพักไว้หน้าพระองค์ โดยกล่าวบท”คเณศ คายตรี” ก่อน 1 จบ แล้วก็ทำการขอขมาพระองค์

• โดยอาจจะกล่าวเหมือนเราคุยกับญาติผู้ใหญ่ อาจจะกล่าวว่า ข้าพเจ้า ชื่อ….นามสกุล….อยู่บ้านเลขที่…..

ได้เคยล่วงเกินพระองค์…(ถ้ารู้เรื่องอะไรก็กล่าวไป)ไม่ว่าจะเป็นกาย วาจา ใจ โดยจะตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ขอพระองค์โปรดให้อภัยให้ด้วยเทอญ

ขั้นตอนต่อไปให้เรากวักไฟเทวะ

โดยการคว่ำมือไปอังเหนือไฟพอให้รู้สึกอุ่นๆ แล้วกวักเข้าหาตัวเราจะกี่ครั้งก็ได้  โดยโบราณมีความเชื่อว่า ไฟนี้จะช่วยบำบัดรักษาโรค ตลอดจนชำระล้างอัตตาในจิตใจของเรา ให้ผ่องใสบริสุทธิ์

โดยปกติปอนด์จะกวักไฟเทวะ 5 ครั้ง

• ครั้งที่ 1 กวักเข้าที่ศีรษะ เพื่อขอให้พระองค์ประทานสติปัญญา 

• ครั้งที่ 2 กวักเข้าที่ตา เพื่อจะได้เป็นคนที่มองเห็นโอกาส พบเจอแต่สิ่งที่ดี

• ครั้งที่ 3 กวักเข้าที่หู เพื่อจะได้เป็นผู้รู้จักการฟังให้มาก จะได้ไม่พลาดสิ่งสำคัญ และได้ยินแต่สิ่งดีๆเป็นมงคล

• ครั้งที่ 4 กวักเข้าที่ปาก จะได้เป็นคนที่มีศิลปะในการสื่อสาร มีวาจาเป็นเลิศ 

• ครั้งที่ 5 กวักเข้าที่ใจ เพื่อให้เป็นคนที่มีจิตใจที่งดงาม ให้จิตรู้ทันกายเสมอ ตลอดจนเป็นคนคิดบวก

• หลังจากนั้นก็ทำการขอพรพระองค์ โดยอาจจะกล่าวว่า

ข้าพเจ้า ชื่อ…. นามสกุล…. เกิดวันที่… เดือน….ปี….อยู่บ้านเลขที่….ขอให้ข้าพเจ้า(พรที่ต้องการขอ) 

แนะนำให้ขอทีละอย่าง หรือ ระบุเป้าหมาย ความต้องการให้ชัดเจนครอบคลุม เสร็จแล้วก็ทำการลาของถวาย(เทวประสาท) แล้วนำมารับประทาน แจกจ่ายให้คนในครอบครัวเพื่อความเป็นสิริมงคล แทนคำอวยพรจากพระองค์และนำทุกอย่างไปใช้ให้เกิดประโยชน์ 

• แนะนำให้เสร็จแล้วลาทันที
• ไม่วางไว้จนเน่าเสีย เพราะจะผิดบาป

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก อ.ปอนด์ นักโหราศาสตร์