เรียกว่าเพิ่งเปิดตัวก็ทำให้เกิดกระแสพูดถึงอย่างมากสำหรับ OPPO Reno7 Z 5G ที่ยังคงคอนเซปท์เรื่องการถ่ายพอร์ตเทรตดั่งกล้อง DSLR พาให้เป็นตัวเองได้ไม่จำกัดในทุกด้าน มาพร้อมดีไซน์ขอบเหลี่ยม สีสายรุ้ง พร้อมกับเพิ่มอรรถรสด้วยพลังเสียง ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยหูฟังไร้สายดีไซน์เคสโปร่งแสง OPPO Enco Air2 และติดตามการนอนหลับในทุกสถานการ์ณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกับ OPPO Watch Free
OPPO Reno7 Z 5G
สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ดีที่สุด
ก่อนเราจะไปดูความปังขั้นสุด เรามาทำความรู้จักกับ OPPO Reno7 Z 5G ในเรื่องของกล้อง โดยกล้องหลังประกอบไปด้วย กล้องหลักมีความละเอียดสูง (High-Res) 64MP / กล้อง Depth ความละเอียด 2MP ซึ่งขอบอกเลยว่าเลนส์นี้ถือทีเด็ดที่จะให้เรา ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ดีที่สุด และ กล้องมาโคร 2MP ขณะที่กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียดสูง 16MP
Bokeh Flare Portrait
เรียกว่าเป็นจุดเด่นของ OPPO Reno7 Z 5G จริงๆ เพราะเราสามารถ ถ่ายพอร์ตเทรตได้เสมือนกล้อง DSLR ด้วยการใช้อัลกอริธึมเฉพาะของ OPPO และด้วยฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait ทำให้เราถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่มีพื้นหลังเบลอแต่ตัวเราดูคมชัดมากยันเส้นผม พร้อมรีทัชขอบที่จะเปลี่ยนเป็นดวงไฟโบเก้บนพื้นหลังให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ซึ่งปังมากใครที่หลงรักการถ่าย Portrait บอกเลยห้ามพลาด!!
Portrait Retouching
อีกจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับ Portrait Retouching เพราะ OPPO Reno7 Z 5G ทำการอัปเกรด สามารถมอบเอฟเฟกต์การปรับแต่งใบหน้า ในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอพอร์ตเทรตทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ด้วยการผสมผสาน การระบุจุดสำคัญบนใบหน้าสูงสุดถึง 373 จุดบนวิดีโอ
รวมถึง AI ใหม่ที่จะมาจูนการลบจุดด่างพร้อยบนใบหน้า ทั้ง สิว รอยแผลเป็นจากสิว และจุดด่างดำได้อย่างเหมาะสม ที่มีความสวยงามเป็นธรรมชาติได้ ทำให้เราคงความสวยปังไม่ต้องผ่านฟิลเตอร์
และแน่นอนเมื่อปรับริ้วรอยแล้ว AI ก็ต้องทำให้เราสวยขึ้น ด้วยการปรับแต่งโทนสีผิวหรือสามารถแต่งหน้าได้อย่างชาญฉลาด ในขณะที่ยังคงรักษาจุดความงามอื่นๆ ที่ต้องการเก็บไว้บนใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการระบุข้อมูลอื่นๆ เช่น เชื้อชาติ เพศ และอายุ เพื่อรีทัชใบหน้าให้เหมาะสม เพียงเท่านี้ AI ก็จะมอบการปรับแต่งที่เหมาะกับสไตล์ของคุณเอง
Selfie HDR
นอกจากนี้ ยังสามารถเซลฟี่ได้แม้จะย้อนแสง ด้วยระบบ Selfie HDR ที่ช่วยให้เราเซลฟี่ได้สว่างคมชัดแม้ในที่แสงน้อยหรือย้อนแสง แต่ยังคงรายละเอียดของใบหน้าและพื้นหลังได้ครบจบใน OPPO Reno7 Z 5G ที่ทำแบบนี้ได้เพราะ กล้องหน้าจะตรวจจับแสงพื้นหลังโดยอัตโนมัติและใช้อัลกอริธึมเพื่อปรับแสงที่จ้ามากเกินไปบนใบหน้าหรือพื้นหลังเมื่อถ่ายย้อนแสง
ดีไซน์บางเบาสวยงาม
พร้อมสี Rainbow Spectrum ด้วยแรงบันดาลใจจากรุ้งหลังสายฝน
เรื่องที่ยังคงความดีไซน์สวยสะดุดตา ดูเก๋ด้วยดีไซน์ขอบเหลี่ยม ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูเรียบหรู ส่วนของสีนั้นได้นำเอากระบวนการการชั้นนำของอุตสาหกรรม เคลือบ 2 ชั้นและพื้นผิว 3 เลเยอร์ และ OPPO Glow ทำให้ฝาหลังทั้งสี Rainbow Spectrum นั้นมีความสวยงามมาก เพราะการไล่สีนั้นสามารถเปลี่ยนไปตามทุกมุมที่เรามอง ทำให้มองไม่มีเบื่อ แต่สำหรับใครที่ชอบความสุขุมก็ยังมีสี Cosmic Black มีพื้นผิวแบบ ด้านแต่ยังคงมีความเปล่งประกายระยิบระยับ
อีกหนึ่งจุดที่เราอยากนำเสนอเลยคือ Dual Orbit Lights เป็นลูกเล่นที่เพิ่มความเก๋ให้กับ OPPO Reno7 Z 5G ไปอีกขั้น เพราะไม่ว่าเรา เปิดเครื่องโทรศัพท์ ชาร์จ รับสาย เรียกเข้า การแจ้งเตือนที่ยังไม่ได้อ่าน หรือ รวมถึงการเปิดเกมอีกด้วย ก็จะมีแสงกะพริบเป็นสีน้ำเงิน ฟ้าอ่อน ฟ้าคราม หรือเบบี้บลู ตามสถานการณ์ต่างๆ ตรงเลนส์กล้อง ให้ด้านหลังของมือถือดูมีลูกเล่น เพิ่มความเก๋ไปอีก
Qualcomm® SnapdragonTM 695 5G ประสิทธิภาพสูง รองรับทุกการใช้งาน
พร้อมชาร์จไวด้วย 33W SUPERVOOCTM ชาร์จเต็มภายใน 63 นาที
OPPO Reno7 Z 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh และ 33W SUPERVOOC™ ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 100% ภายในเวลาเพียง 63 นาที หรือชาร์จเพียง 5 นาที สามารถคุยได้ถึง 3 ชั่วโมงเราได้ทำการชาร์จจริงในเวลา 15 นาทีแบตเตอรี่ขึ้นมาถึง 26%
ในส่วนของประสิทธิภาพเองก็ดีงามไม่แพ้ส่วนอื่นเลย เพราะ OPPO Reno7 Z 5G มาพร้อมขุมพลังจาก Qualcomm® SnapdragonTM 695 5G Mobile Platform ที่มีขนาดเพียง 6nm แต่ประสิทธิภาพการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงและการรองรับการใช้งานในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะ เล่นเกมแบบไร้สะดุด / การใช้งานแอปพลิเคชันที่ลื่นไหล / การเรนเดอร์กราฟิก / การเข้าเว็บไซต์ต่างๆ และการเล่นวิดีโอ แต่ใช้พลังงานน้อยลง
OPPO Enco Air2 ดีไซน์เคสโปร่งแสงที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
OPPO Enco Air2 หูฟังไร้สายตัวใหม่ล่าสุด โดดเด่นเรื่องเสียงย่านเบส ด้วยไดรเวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่ 13.4 mm composite tetanized diaphragm driver + Bass booster ช่วยให้หูฟังสามารถดันอากาศได้มากขึ้นเมื่อส่งเสียงเบสออกมา ซึ่งช่วยสร้างแรงผลักที่แข็งแกร่งในการกระตุ้นการสั่นสะเทือนของแก้วหู
ในส่วนเคสชาร์จเป็นแบบ Pebble-round โค้งมนที่พอดีกับฝ่ามือ โดยเคสเป็นแบบกึ่งโปร่งแสงแบบ Characteristic Translucent case lid ด้วยการออกแบบที่ไม่เหมือนใครทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากในบรรดาหูฟัง TWS ใช้งานได้ยาวนาน 24 ชั่วโมงสามารถสตรีมเพลงได้นานถึง 4 ชั่วโมงและสูงสุด 24 ชั่วโมง เมื่อใช้กับเคสชาร์จ และสามารถชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 1.5 ชั่วโมง
และยังมี AI deep noise cancellation for calls ตัดเสียงรบกวนแบบอัจฉริยะด้วยการแยกเสียงของมนุษย์แบบเรียลไทม์ ทำให้เราก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงที่คมชัดตลอดการใช้งาน และไม่ว่าคุณจะอยู่บนรถไฟหรือกลางฝูงชนที่คับคั่ง ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการเชื่อมต่อเพราะ Binaural low-latency with Bluetooth® 5.2 transmission รองรับระบบเสียง Binaural ค่าความหน่วงต่ำด้วยการส่งสัญญาณ Bluetooth® 5.2
ในส่วนของความบันเทิงเราก็สามารถเปิด Game mode เพื่อลดความหน่วงของเสียงให้เหลือเพียง 80ms ทำให้เราทันต่อเสียงของคู่แข่งที่กำลังคืบคลาด และเรายังเปิดได้ทันทีด้วยความสะดวกแบบอัจฉริยะเพียงแตะไปที่หูฟัง 3 ครั้ง เท่านั้น
OPPO Watch Free ติดตามการนอนหลับอย่างมืออาชีพด้วย OSleep
สำหรับ OPPO Watch Free มีฟีเจอร์เด่นที่เหมาะกับคนในยุคนี้ นั่นคือ OSleep ที่สามารถช่วยระบุปัญหาการนอนหลับและปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับในทุกสถานการณ์ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการนอนหลับ
โดย ก่อนเข้านอน OPPO Watch Free จะทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนเพื่อส่งการแจ้งเตือนเวลาเข้านอนให้คุณ และ ระหว่างการนอนหลับ OPPO Watch Free จะคอยการติดตามการนอนช่วงหลับลึก, การติดตามการนอนช่วงหลับตื้น, การติดตามการนอนช่วงหลับฝัน (REM), การวัดค่า Sp02 แบบต่อเนื่องที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น,การตรวจจับความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV) การติดตามอาการนอนกรน ฯลฯ
หลังการนอนหลับ การวิเคราะห์เวลาตั้งแต่เข้านอนจนถึงเริ่มหลับ เวลาตื่น ระยะเวลาเวลาในการนอนหลับ และช่วงในการนอนหลับ ซึ่งจะเริ่มทำงานเมื่อมีการงีบหลับเป็นเวลา 15 นาที การประเมินความเสี่ยงจากอาการนอนกรนแบบผู้เชี่ยวชาญ
โดย OPPO Watch Free มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาหลากหลายมากกว่า 40 สไตล์ มี AI Outfit watch face 2.0 จอแสดงผลขนาดใหญ่ คมชัดเป็นพิเศษ สีสันสดใส ทนต่อการขีดข่วน และสึกหรอ น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย อุปกรณ์นี้มีน้ำหนักเพียง 33 กรัม สายรัดหนังแบบเรียบดูดีมีสไตล์ แบตเตอรี่ 230mAh ใช้งานได้นานถึง 14 วัน มาพร้อมการชาร์จไว ชาร์จเพียง 5 นาทีสามารถใช้งานได้เต็มวัน
มีโหมดการออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด เพื่อให้เหมาะกับทุกความต้องการในการออกกำลังกายประจำวัน วัดอัตราการเต้นของหัวใจ 24 ชั่วโมง สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวันและแจ้งเตือนเมื่อพบการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
และยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน อาทิ การแจ้งเตือนข้อความ, การแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, การปฏิเสธการโทร, Find My Phone, การควบคุมการเล่นเพลง ฯลฯ
ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เป็น The Portrait Expert ตัวจริง สำหรับ OPPO Reno7 Z 5G ที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็ได้อารมณ์การถ่ายพอร์ตเทรตเหมือนกล้อง DSLR พาให้เป็นตัวเองได้ไม่จำกัดในทุกด้าน แล้วจะตกหลุมรักการถ่ายภาพได้แน่นอน
เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้กับสมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ดีที่สุด สวยที่สุด OPPO Reno7 Z 5G รุ่นล่าสุด ในราคา 12,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ สีรุ้ง Rainbow Spectrum และสีดำ Cosmic Black ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
พร้อมด้วย OPPO Enco Air2 ในราคาเพียง 1,999 บาท และ OPPO Watch Free มาในราคาเพียง 2,999 บาท
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ ได้ที่ : https://bit.ly/3rKil8r
#OPPOReno7Z5G #ThePortraitExpert
#เป็นตัวเองได้ไม่จำกัดด้วยพอร์ตเทรต
#FreshSoundInTheAir #OPPOEncoAir2
#NightDayWorkPlay #OPPOWatchFree