เบื้องหลังการทำคอนเทนต์ที่มีการใช้ Special Effect นั้นไม่ได้อาศัยแค่การถ่ายทำด้วยกล้องเทพ ๆ หรือใช้เทคนิคในการตัดต่อแบบมือโปร ซึ่งจริงๆ แล้ว เบื้องหลังคอนเทนต์ดังกล่าว ต้องอาศัยนวัตกรรมเข้าช่วยสร้างมุมมองและประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ภาพถ่าย ซึ่งในอดีตคนไทยต้องอาศัยนวัตกรรมเหล่านี้จากโลกตะวันตก แต่จากนี้ คนไทยจะสามารถใช้นวัตกรรมที่พัฒนาโดยดิจิทัล เทค สตาร์อัพคนไทย อย่าง PRO-toys ที่เชี่ยวชาญในนวัตกรรม Special Eftect Filming ด้วย Multi-Camera เพื่อสร้างสรรค์เป็น Special Content ในแบบ One Stop Service ที่รวมนวัตกรรมทั้ง 3D, Augmented Reality, Virtual Reality และ Artificial Intelligent
อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ PRO-toys สามารถพัฒนานวัตกรรมที่ไม่เหมือนใครได้สำเร็จ หาคำตอบจากบทสัมภาษณ์นี้
ต่อยอด Pain Point สู่ผู้สร้างนวัตกรรม
บงการ พยัฆวิเชียร ในฐานะ Co-Founder ของ PRO-toys เล่าถึงที่มาของการก่อตั้งธุรกิจว่า จากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการเอเจนซี่และโปรดักชั่นเฮ้าส์มากว่า 20 ปี ทำให้มีความเข้าใจในการสร้างคอนเทนต์ และเห็น Pain Point ในธุรกิจว่า เวลาจะสร้างคอนเทนต์ที่ใช้ Special Effect อย่าง ระบบ Bullet Time (เทคนิคที่ใช้ลดความเร็วของเวลาลง แต่ภาพที่ถ่ายทอดออกมาจากมุมกล้องจะมีความเร็วเท่าเดิม ซึ่งนำมาใช้กับภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น) ยังต้องอาศัยนวัตกรรมจากต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามโจทย์ที่ต้องการ เลยเป็นจุดเริ่มต้นไอเดียในการพัฒนา นวัตกรรม Multi Camera เพื่อการสร้างสรรค์ Special Effect ให้กับอุตสาหกรรมผลิตสื่อภาพยนตร์ โฆษณา และอีเวนต์ โดยพัฒนาในรูปแบบ Embedded Technology ครบวงจรทั้งซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์
“ตอนที่ทำ R&D ยังไม่ได้เปิดบริษัท Pro-toys จนปี 2016 ก็มองไปถึงการ Scale Up ธุรกิจเลยแตกออกมาเป็นอีกบริษัท พร้อมกับ ต่อยอดไปสู่บริการอื่นๆ จนตอนนี้มีมากถึง 23 บริการ อาทิ PhotoSFX นวัตกรรมควบคุมและสั่งแบบหลายกล้อง หรือ Bullet time (Time Slice) ความแม่นยำสูง เพื่อสร้างภาพเอฟเฟ็ก 3 มิติ คุณภาพสูง เผยทุกช่วงองศาที่ตื่นตาตื่นใจแบบเรียลไทมส์, นวัตกรรม Photogrammetry studio เปลี่ยนจากวัตถุและคนในโลกจริง แปลงสู่โลกดิจิตอลในรูปแบบของ 3 มิติ,Virtual 360 เป็น ONE STOP SERVICE เพื่อการสร้างสรรค์ Virtual Reality Content ด้วยนวัตกรรมคัดสรร ที่รับกับยุคสมัย ทั้ง VR AR และ Al ไปจนถึง AI Virtual influencer”
เดินสายประกวด ออกงานแฟร์ ปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก
แม้จะตั้งต้นธุรกิจจาก Pain Point และการมองเห็นโอกาสจากดีมานด์มหาศาล แต่ บงการ บอกว่า ความ ท้าทายหลักๆ ในช่วงเริ่มต้นคงหนีไม่พ้นการสร้างการยอมรับจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ
“อย่างที่บอกว่าที่ผ่านมา นวัตกรรมเหล่านี้จะมาจากฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์บริบทคนไทย หรือ ตลาดอาเซียน แต่พอเราพัฒนานวัตกรรมขึ้นมาจนสำเร็จ ลูกค้า ซึ่งมีทั้งบริษัทไทยและต่างชาติก็อาจจะยังไม่มั่นใจ ช่วงแรกๆ เลยต้องโฟกัสไปที่การสร้างแบรนด์และความน่าเชื่อถือด้วยการเดินสายออกบูธ ออกโรดโชว์ Pitching กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนวันนี้ได้รับรางวัลนวัตกรรมทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 16 รางวัล”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา Pro-toys ไม่เคยหยุดเรียนรู้และพัฒนา เพื่อสร้างรอยเท้าเป็นของตนเอง หนึ่งในผลงานที่บงการบอกเล่าอย่างภาคภูมิใจ คือ “Selfie eXtreme” นวัตกรรมทางด้านการถ่ายภาพแบบเซลฟี่ ที่สามารถขยายจนเห็นภาพความงดงามของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ เพียงแค่สแกน QR CODE จากนั้นก็กดรีโมตชัตเตอร์สั่งการผ่านระบบของ PRO-toys ซึ่งอยู่อีกที่หนึ่งของแหล่งท่องเที่ยว หลังถ่ายเสร็จภาพจะถูกส่งเข้ามือถือ แล้วภาพจะแชร์ไปยังโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ต่อการเป็นเมืองท่องเที่ยวของไทยอย่างดี ทำให้สามารถได้ภาพถ่ายเพื่อบันทึกความทรงจำ ในมุมมองที่ไม่เหมือนใคร
“ตอนนั้นนอกจากจะพัฒนานวัตกรรมแล้ว ยังพัฒนาโมเดลธุรกิจในรูปแบบแชร์รายได้ (Profit Sharing) กับพาร์ตเนอร์ อาทิ ธีมปาร์คหรือสวนสนุกต่างๆ เช่น ไตรภูมิ… มหัศจรรย์สามโลก ธีมปาร์ค 3D ที่ภูเก็ต, พิพิธภัณฑ์ ริบลีส์ เชื่อหรือไม่!, Parody Art Museum เพื่อสร้างมิติใหม่และสีสันในการถ่ายภาพ สถานที่ท่องเที่ยวของไทย กระทั่งเจอวิกฤติโควิด-19 ทำให้แผนของการที่จะต่อยอดโมเดลธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงเวียดนามและพม่าต้องสะดุด”
โควิด -19 ทำให้ต้องปรับตัวขนานใหญ่
ในขณะที่ธุรกิจกำลังไปได้สวย Pro-toys ก็เจอกับวิกฤติโควิด-19 ที่กระทบธุรกิจอย่างมาก ทำให้ต้องปรับตัวขนานใหญ่ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการหันมาเจาะตลาดออนไลน์ โดยยังอยู่บนแกนหลักของธุรกิจที่เน้นนำเสนอประสบการณ์ด้วยภาพแบบพิเศษ นำเทคโนโลยีที่มีมาต่อยอดการจัด Virtual ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประชุม การช็อปปิ้ง การท่องเที่ยว ที่ให้ประสบการณ์ที่น่าสนใจและล้ำลึกกว่า พร้อมกันนี้ยังมีการรุกตลาด Virtual Influencer
อย่างไรก็ตาม พอสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย บงการให้มุมมองความเห็นว่า “ธุรกิจเหมือนได้กลับมาอีกครั้ง โดย Pro-toys มีแผนจะปรับโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณ์โควิด -19 โดยหันมาโฟกัสธุรกิจในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์มากกว่าบริการ สำหรับในปี 2023 มีแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ OneX Kiosk ระบบโฟโต้ บูธ ในรูปแบบ “พรีเมี่ยมคีออส” ดีไซน์ Modern White Minimal ใช้พื้นที่น้อย แต่ช่วยสร้างสีสัน ให้ความสนุกที่แตกต่างในทุกงานรื่นเริง มาพร้อมนวัตกรรม “PRIVATE QR สแกนดูได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว รวมถึงดาวน์โหลดในแบบ PHOTO GALLERY ส่วนตัว ตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม,ห้องอาหาร และร้านกาแฟรุ่นใหม่ แหล่งท่องเที่ยว และ ผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่มองหาช่องทางสร้างรายได้ มีหลากหลายโมเดลธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ซื้อ, เช่า, แฟรนไชส์, แชร์รายได้ “
ปักหมุด ขยายโซลูชั่นไปต่างประเทศ
และเมื่อมาถึงวันนี้ หากจะมองว่า ประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน บงการให้ความเห็นว่า “ ผมคิดว่าวิกฤติโควิด -19 ที่ผ่านมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งทำให้พฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยน จนเราต้องนำมาเป็นโจทย์ในการพัฒนาโปรดักซ์และบริการใหม่ ทุกวันนี้เลยไม่ได้มองว่าประสบความสำเร็จ แต่กลับคิดว่าทำให้มองเห็นโอกาส ในการเพิ่มโปรดักซ์และบริการที่แตกต่าง ซึ่งผมเชื่อว่า ถ้าโซลูชั่นของเราตอบโจทย์คนไทย โดยเฉพาะนวัตกรรมที่ช่วยต่อยอดธุรกิจท่องเที่ยว ในอนาคตก็น่าจะขยายไปสู่ตลาดโลกได้”
สำหรับแรงผลักดันที่ทำให้ Pro-toys มาถึงวันนี้ บงการบอกว่า “มาจาก 2 ปัจจัยหลัก หนึ่ง คือ ความเชื่อที่แน่วแน่ว่า คนไทยมีศักยภาพที่จะสร้างและส่งออกคอนเทนต์ที่มีคุณภาพได้ สองคือ สนุกกับสิ่งที่ทำ จนรู้สึกท้าทายในทุกวัน”
หัวใจสำคัญของสตาร์ทอัพ คือ Mindset นักสู้
สิ่งที่อยากจะบอกกับสตาร์ทอัพ คือ โจทย์ในการทำธุรกิจวันนี้ยากกว่าเดิมแน่นอน การที่จะยืนหยัดอยู่ได้ต้องอาศัยมายด์เซ็ทแบบนักสู้ และไม่หยุดที่จะเรียนรู้โลกที่เปลี่ยนแปลงในทุกวัน ที่สำคัญอย่าติดกรอบของการเป็นสตาร์ทอัพ ที่ต้องอาศัยการสนับสนุนของนักลงทุน แต่ให้มองว่า สตาร์ทอัพก็คือหนึ่งในรูปแบบของธุรกิจ ที่สุดท้ายแล้วต้องสามารถหารายได้ เพื่อหล่อเลี้ยงธุรกิจ
“นอกจากจะมี Mindset ที่ใช่แล้ว การได้รับการสนับสนุนก็สำคัญ อย่าง Pro-toys เองมี สำนักนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เป็นผู้สนับสนุนหลักตั้งแต่ช่วงที่เพิ่งเริ่มต้น ประเดิมด้วยการคว้ารางวัลอันดับที่ 2 จากการประกวดนวัตกรรมแห่งชาติ หลังจากนั้นก็ได้ไปร่วมโครงการต่างๆ ของ NIA ที่ช่วยทั้งเรื่องการสร้างแบรนด์ดิ้ง การประชาสัมพันธ์ พาไปหาตลาดใหม่ๆ ที่ทำให้ได้ Scale Up ช่วยให้ ไปถึงเป้าหมายของธุรกิจได้เร็วขึ้น”
ดูรายละเอียด Pro-toys เพิ่มเติม : https://protoys.online และwww.facebook.com/protoysmaker