lucky bag กระแสโซเชียล กล่องสุ่ม กล่องโชคดี ถุงโชคดี

กล่องสุ่ม สุ่มอะไร ใครได้ใครเสียจากกล่องสุ่มมากกว่ากัน รวมทุกคำตอบมาให้ ก่อนCF

เทรนด์กล่องสุ่มกำลังมาแรงได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้ แต่ที่จริงแล้วทุกคนที่ซื้อกล่องสุ่มจะพึงพอใจในของที่ตัวเองได้รับหรือไม่ เรารวมทุกคำตอบเกี่ยวกับกล่องสุ่มมาให้แล้วค่ะ

Home / TREND / กล่องสุ่ม สุ่มอะไร ใครได้ใครเสียจากกล่องสุ่มมากกว่ากัน รวมทุกคำตอบมาให้ ก่อนCF

เทรนด์กล่องสุ่มกำลังมาแรงได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้ สำหรับเทรนด์การขายของในบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเจ้าของเพจคนดังอย่างพิมรี่พาย ทำกล่องสุ่มออกมาขายแล้วกลายเป็นกระแสฮิตเพียงข้ามคืน เพราะเมื่อของถึงมือลูกค้าแล้วพบว่า มีของแถมเป็น รถยนตร์ ทองคำ โทรศัทพ์มือถือ หรือของอื่นๆ ที่มีมูลค่ามากกว่าราคาที่จ่ายไป แต่แท้จริงแล้วนั้น ทุกคนที่เปิดกล่องสุ่มจะได้รับของเหมือนที่กล่าวมาข้างต้นเหมือนกันหมดทุกคนหรือไม่ หรือเทคนิคของการของกล่องสุ่มคืออะไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน

คำแนะนำ อ่านให้จบก่อนตัดสินใจซื้อกล่องสุ่ม แล้วคุณจะไม่เสียใจที่หลังค่ะ

หากใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงปลายปี อาจจะคุ้นตาอยู่บ้างว่า เป็นธรรมเนียมช่วงปีใหม่ของญี่ปุ่น ที่มักจะเอาใจเหล่านักช้อป ด้วยการนำ “ถุงโชคดี” หรือ Lucky bag ออกมาวางขาย และโดยเฉพาะหากเป็นแบรนด์สินค้าใหญ่ๆ จะมีเหล่านักช้อปไปต่อคิวเพื่อซื้อถุงโชคดีกันล่วงหน้าข้ามคืนก็มี อย่างที่เคยเห็นเป็นข่าวใหญ่เลยก็คือ Apple เคยวางขายถุงโชคดีที่บางถุงมีรางวัลใหญ่เป็น macbook ก็เคยทำมาแล้ว

ในถุงโชคดีมีอะไร เปิดมาแล้วโชคดีเหมือนชื่อถุงจริงไหม

ของในถุงโชคดีนั้น ก็ตามชื่อค่ะ คือทางร้านค้าจะรวบรวมสินค้าหลากหลายใส่เข้าไปในถุง และวางขายในมูลค่าที่เท่ากับสินค้าจริงหรือมากกว่า นั่นจึงหมายความว่าหากคุณโชคดี คุณก็จะได้กำไรจากการได้ของที่มูลค่าเยอะกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่ทุกถุงจะโชคดีเหมือนกันหมด

ส่วนของที่อยู่ในถุงนั้น ก็จะเป็นอันรู้กันว่า ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นของค้างสต็อก อาจเป็นของปีที่แล้วที่ยังขายไม่หมด หรือของที่ตกรุ่นหรือไม่ผลิตแล้วมาใส่รวมกันลงไป ส่วนลูกค้าที่ซื้อไปก็คงต้องไปลุ้นกันเองว่าของในถุงนั้นคุณจะชอบหรือต้องการหรือไม่ แต่หากคุณโชคดี เหมือนชื่อถุง ในถุงที่คุณจับจองอาจจะมีของใหม่ที่มีราคาแพง หรือของขวัญพิเศษที่ทางแบรนด์ใส่ลงไปให้ได้ลุ้นกัน

นั่นหมายความว่า ในถุงโชคดีนั้น อาจมีถุงเท้าผู้ชาย(ซึ่งคุณเป็นผู้หญิง) อาจมีเสื้อยืดไซส์ใหญ่มาก (แต่คุณตัวเล็ก) หรืออาจเป็นของที่คุณไม่เคยคิดจะซื้อเสียด้วยซ้ำ แต่ได้มันมาในการเสี่ยงโชคครั้งนี้ ก็เป็นได้

https://roppongi-minato.tokyo.jp/

ยกตัวอย่างตัวแอดมินเอง เคยมีโอกาสได้ซื้อถุงโชคดีของแบรนด์ ยูนิโคล ที่ญี่ปุ่น ซึ่งวางขายในราคา 10,000 เยน หรือเป็นเงินไทยประมาณ 3พันบาท โดยเมื่อเปิดถุงดูพบว่า ของในถุงมีทั้งเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ถุงเท้า และเครื่องเขียน ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นเก่า แต่คุณภาพยังดีอยู่ รวมๆแล้วประมาณราคาด้วยตนเองคิดว่า หากตีเป็นราคาถือว่าได้ของเกินราคา แต่! ของที่ได้มาเป็นของที่เราใส่ไม่ได้ค่ะ เพราะส่วนมากจะเป็นขนาดไซส์ใหญ่ (แต่บางถุงแบบระบุไซส์ไว้ก็มีนะคะ) หรือเป็นลายที่เราไม่ชอบ เลยได้ข้อสรุปว่าถุงโชคดีที่เป็นเสื้อผ้า ไม่คุ้มค่ะ ในความหมายคือ ซื้อชิ้นที่ตนเองชอบและอยากได้ดีกว่า และนี่คือรูปแบบของถุงโชคดีนั่นเองค่ะ

กลับมาที่บ้านเรา เทรนด์การขายกล่องสุ่ม ก็คือรูปแบบเดียวกันกับ ถุงโชคดี ไม่ผิดเพี้ยนกันเท่าไหร่นัก โดยทางร้านค้าจะตั้งราคาขายกล่องสุ่มเหล่านี้ในราคาเดียว จะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการขาย และก็จะนำสินค้าใส่ลงไปให้ลูกค้าได้ลุ้นกันว่าจะได้รับสินค้าอะไรและมูลค่ามากน้อยแค่ไหน

กล่องสุ่ม ผิดกฎหมายจริงหรือไม่

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า บ้านเรามีกฎหมายที่คุ้มครองผู้บริโภค ในเรื่องของการระบุฉลากประเภทสินค้าหรือราคาให้กับผู้บริโภคอย่างชัดเจนก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย และมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน รวมทั้งแม้แต่การที่ร้านค้าตั้งราคาสินค้าที่สูงเกินจริง ก็มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาทและจำคุก 7 ปีอีกด้วย
ส่วนอีกข้อกฎหมายหนึ่งคือ เรื่องของการชิงโชค ซึ่งหากพบว่าการขายกล่องสุ่มนั้นเป็นการเชิญชวนให้ลุ้นของรางวัลที่อยู่ด้านใน หรือโฆษณาจนผู้ซื้อคิดว่าจะได้ของรางวัล ก็มีความผิดเช่นกัน

เปิดตัวอย่างกล่องสุ่ม คุ้มหรือไม่คุ้ม เราคัดมาให้ดู

ebay


กล่องโชคดีของแบรนด์ Starbucks (ญี่ปุ่น) ที่วางขายในราคาประมาณ 2,300 บาท ในถุงประกอบด้วย แก้วน้ำเก็บความเย็น 1ใบ (ปกติราคาประมาณ 1,200 บาท กระเป๋าลิมิเต็ดอิดิชั่นของแบรนด์ 1 ใบ (ราคาประมาณ 700-1,000บาท) และของที่ระลึกของแบรนด์อีก 1ชิ้น ตีมูลค่าก็น่าจะมากกว่าราคาขาย (อันนี้ถือว่าพอคุ้มทุนอยู่)

CLIO

Lucky bag เครื่องสำอาง แบรนด์ญี่ปุ่น CLIO ที่วางขายในราคาประมาณ 1,500 บาท ซึ่งทางแบรนด์ได้ระบุไว้แล้วว่าในถุงโชคดีนี้จะมีผลิตภัณฑ์อะไรอยู่บ้าง พร้อมกับระบุราคาสินค้าแต่ละชิ้นไว้แล้ว ทำให้ลูกค้ารู้ว่าจะได้ของมูลค่ามากกว่าราคาที่จ่ายไป

global.gmarket.co.kr

Lucky Box ขนมก็มี ซุปเปอร์มาเก็ตในเกาหลีเอาใจสายชอบกินขนม จัดกล่องที่มีขนมที่ขายดีมารวมใส่ไว้ในกล่องแล้วขายในราคา 350บาท (เท่าที่ตามอ่านรีวิวคือตรงปก ใส่ขนมตามที่เห็นในรูปเลย และราคาเกินกว่าที่จ่ายไป ถือว่าคุ้มค่ามาก)

https://zenplus.jp/

กล่องสุ่ม Sanrio ที่เอาใจสายมุ้งมิ้ง ชอบตัวการ์ตูนคิตตี้ วางขายในราคา 6,000 บาท ก็มีการจัดทำกล่องสุ่มวางขายเช่นกัน ซึ่งในภาพคือทางแบรนด์ระบุว่ามีสินค้าในกล่องจำนวน 11ชิ้น
ซึ่งโดยทั่วไปสินค้าลิขสิทธิ์แท้จาก Sanrio จะมีราคาแพงอยู่แล้ว แต่โดยส่วนตัวมองว่าหากเป็นนักสะสมSanrio ก็อาจจะคุ้ม เพราะผ้าห่มผืนเดียว อาจมีราคาเกือบ 2พันบาทแล้ว

กล่องสุ่มพิมรี่พาย ที่ดาราสาว พิมมาดา สั่งซื้อในราคา 10,000 บาท ซึ่งเป็นการซื้อโดยที่ทางผู้ขายบอกว่าจะใส่อะไรก็ได้ในราคา 10,000 บาท แต่เธอบอกว่าตนเองผิดหวัง ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มที่ได้ของคุ้มค่าเกินราคาเช่นกัน บางคนได้รถมอเตอร์ไซค์ บางคนได้ทองคำซึ่งก็ถือว่าโชคดีมากๆ ทีนี้ก็คงพอจะเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมคะว่า กล่องสุ่มนั้น ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะโชคดีได้รับรางวัลใหญ่เหมือนกันหมด

สรุป ซื้อกล่องสุ่ม โชคดี หรือ ชอกช้ำ

โดยสรุปคือการตลาดของ กล่องสุ่ม นั้นไม่ต่างจากการลดราคาสินค้าสักเท่าไหร่ เพียงแต่คือการนำสินค้ามาใส่รวมกันโดยที่เราไม่รู้ว่าจะได้ของชิ้นไหน ราคาเท่าไหร่ หรือหากจะให้เรียกง่ายๆก็คงเหมือนกับการโล๊ะของค้างสต็อกมารวมกันหลายๆชิ้น แล้ววางขายในราคาเดียว ที่ผู้ซื้ออาจจะได้ของที่มีมูลค่าเท่ากับ หรือ มากกว่า เงินที่จ่ายไป

ทีนี้คำถามคือ คุณพร้อมจะเสี่ยงกับการได้รับของที่ตนเองไม่ต้องการหรือไม่ หากคุณซื้อกล่องสุ่ม นั่นคือสิ่งที่ต้องเตือนใจตนเองก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพียงเพราะเห็นว่ามีคนอื่นที่ซื้อแล้วได้รางวัลใหญ่ แต่คุณอาจจะมีโชค หรือไม่มีโชคก็ได้เช่นกัน แต่สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนโชคดีกับกล่องสุ่มค่ะ