ไหว้พระขอพรวัดเก่าแก่ช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา พร้อมชมสถาปัตยกรรมที่เป็นศิลปะสมัยอยุธยาขนานแท้ ได้ที่วัดโพธิ์บางโอย่านบางกรวย
วัดโพธิ์บางโอ
วัดโพธิ์บางโอเป็นวัดเก่าในสมัยอยุธยา ได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยกรมหลวงเสนีบริรักษ์ (ต้นสกุล เสนีวงศ์) พระโอรสในกรมพระราชวังหลัง ตั้งอยู่ในถนนเส้นบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลวัดชลอ หรือ หากไปทางน้ำต้องเดินจากท่าเรือเข้าไปประมาณ 200 เมตร เป็นวัดเก่าในสมัยอยุธยา ได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยกรมหลวงเสนีบริรักษ์ (ต้นสกุล เสนีวงศ์) โอรสในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวังหลังในรัชกาลที่ 1 เป็นผู้ดูแลการบูรณะ
ภายในวัดประดิษฐานพระสังกัจจายน์ พระสิวลี และพระอุปคุต
ให้ได้มากราบไหว้ขอพรการเงินโชคลาภได้
โดยวัดโพธิ์บางโอไม่มีประวัติการสร้างและนามผู้สร้างที่แน่ชัด แต่ในหนังสือ “ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม 2 ” ของกรมการศาสนาระบุว่าวัดนี้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2310 ส่วนพระอธิการแดง ธมฺมสโร เจ้าอาวาสรูปที่ 6 (พ.ศ. 2482–2523) เคยเล่าว่าวัดนี้สร้างในสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) แต่เดิมชาวบ้านบริเวณนี้มีอาชีพเป็นช่างสานโอน้ำแบบโบราณขายเป็นส่วนมาก จึงเติมชื่อบ้านบางโอต่อท้ายชื่อวัด
อุโบสถ
อุโบสถ หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่ลำคลอง ตามคติของไทยแต่โบราณ ลักษณะของอาคารเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 8 เมตร ยาว 14.50 เมตร มีประตูทางเข้าที่ผนังด้านหน้าและหลัง ด้านละ 2 ประตู ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปหินทรายแดงฉาบปูนปางมารวิชัย เป็นประธานของอาคาร ผนังอุโบสถล้อมรอบ โดยที่มุมของกำแพงแก้วทำเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองอยู่ทุกมุม ชายหลังคาพาไลรอบอุโบสถมีแบบอย่างมาจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หน้าบันสลักไม้รูปนารายณ์ ทรงครุฑลายกนกขมวดเกี่ยวพันกัน เบื้องหลังมีเทพนมและยักษ์พนม ซุ้มประตูทางเข้าวัดทำเป็นหัวเม็ด เป็นเสาสี่เหลี่ยมย่อมุม 12 สูงขึ้นและเอนเข้าหากัน เพื่อเป็นการรับน้ำหนักของตัวอาคาร เสาใกล้จะถึงส่วนหลังกำแพงแก้วมีบัวหงายรองรับอีกต่อหนึ่งแปลกตากว่าที่อื่น ซึ่งนับเป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย โดยสังเกตได้จากซุ้มเสมาทรงกลมตลอด ฐานของซุ้มก็ทรงกลมตัวซุ้มแหวะ เป็นช่องหน้าต่างสามช่อง ทรงยอดโค้งคล้ายซุ้มจระนำ (ซุ้มคูหาเล็กๆ ที่มีหลังคาครอบ ทำยื่นออกมาจากอาคารติดผนังองค์เจดีย์หรือท้ายโบสถ์วิหาร เพื่อตั้งพระพุทธรูป) หันหลังชนกันสามทิศ ข้างบนมียอดเล็กๆ ปั้นปูนลวดลายงดงาม รับกับบัวยอดซุ้มและแข้งสิงห์เบื้องล่าง
สิ่งที่บ่งบอกถึงศิลปะของรูปปั้นงามนี้ เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ก็คือลวดลายบ่งชัดว่าเป็นฝีมือช่างสมัยพระบรมโกศ ใบเสมาเป็นหินทรายทำรูปหัวนาคออกสองข้าง เอวเสมาเหมือนกันแต่ทรงด้านบนอวบอ้วน ใบเสมาแบบนี้อายุเก่ากว่าใบเสมาสมัยพระเจ้าเอกทัศ ใบเสมาช่วงหลังจะทรงเพรียวกว่า มีเจดีย์ทิศล้อมรอบตัวพระอุโบสถทั้งสี่ด้าน ซุ้มบันแถลงประดับกรอบประตูหน้าต่างทำจากปูนน้ำอ้อย
พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์
เป็นพระพุทธรูปประจำวันเกิดของคนเกิดวันพุธกลางคืน
พระคาถาบูชา สวด 12 จบ
กินนุ สันตะระมาโน วะ ราหุ จันทัง
ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโบ อาคัมมะ
กินนุ ภีโต วะ ติฎฐะสีติ สัตตะธา เม
ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติฯ
หอระฆัง
หอระฆังที่วัดนี้เป็นสกุลช่างเมืองนนทบุรีทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชชนนีเป็นสกุลฝ่ายเมืองนนทบุรี จึงทรงอุปการะการสร้างวัดในเขตนนทบุรี แบบมณฑปยอดเจดีย์ผสมกันระหว่างหอสูงรูปสี่เหลี่ยมและเจดีย์ย่อมุม
สายมูท่านไหนเป็นสายวัดเก่า หรือชอบศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย สามารถแวะเข้ามาไหว้พระขอพรการเงิน โชคลาภ ได้ที่วัดโพธิ์บางโอ วัดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง
ภาพโดย PREAW
ที่ตั้ง : เลขที่ 42 หมู่ที่ 9 ซอยบางขนุน ซอย 2 ถนนบางกรวย-จงถนอม ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
Google map : https://goo.gl/maps/X7jnZfZBLR84zRYT6
เวลาเปิด – ปิด : 07.00 – 18.00 น.
เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
บทสวดมนต์บูชาพระประจำวันพุธ (กลางคืน) สวด 12 จบ
ทายนิสัยตามวันเกิด ใครมีนิสัยเป็นอย่างไรบ้าง?
พระสังกัจจายน์ กับความเชื่อบีบเข่าขอพร แล้วจะสมหวัง