หากพูดถึงเรื่องยันต์และของขลังที่เป็นตำนานเล่าต่อกันมา ต้องมีวัดสาลีโขอยู่ในนั้นเพราะเคยมีวลี “หนังไม่เหนียว ห้ามเที่ยววัดสาลีโข” กันเลยทีเดียว!
วัดสาลีโข
วัดสาลีโขภิตารามเป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยอยุธยา ก่อนจะกลายเป็นวัดร้างเมื่อครั้งที่พม่าเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาใน จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยนางบุญมีและนางบุญมาสองพี่น้องต้องการทำนา จึงตั้งจิตอธิษฐานในฤดูทำนาราบรื่น เมื่อทำนาสำเร็จดังคำอธิษฐาน จึงบริจาคที่ดินเพื่อสร้างวัดนี้ขึ้นและให้ชื่อว่า วัดสัลเลโข ซึ่งแปลว่า “วัดแห่งการขัดเกลากิเลส” หรือ วัดสาลีโข ซึ่งแปลว่า “วัดที่มีข้าวมาก” แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกว่า “วัดสาลีโข” และเนื่องจากชาวบ้านบริเวณนั้นทำนาเป็นอาชีพหลัก วลี สาลีโข จึงเป็นสิริมงคลแก่ชุมชนด้วย
ตำนานหลวงปู่เผือก
หลวงปู่เผือกเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดสาลีโขเมื่อวัดได้กลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง จนกระทั่งสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 หลวงปู่เผือกท่านมีชื่อเสียงมาก และโด่งดังเข้าไปถึงหูของบรรดาขุนนางเจ้านายในรั้วในวัง ทุกคนต่างพากันมาหาท่านเพื่อขอวัตถุมงคลของขลังหรือขอให้ท่านลงอักขระ เพื่อความเป็นมงคล และหนังเหนียว ว่ากันว่าท่านทำได้ขลังยิ่งนัก จึงมีลูกศิษย์มาขึ้นกับท่านมาก ช่วงนั้นวัดสาลีโขเจริญรุ่งเรืองสุดขีดเลยทีเดียว
ตามตำนานเล่าว่าหลวงปู่เผือกก็นำชาวบ้านในขบวนอพยพจากสงคราม มาพักหลบซ่อนตัวจากทหารพม่าที่ทุ่งข้าวสาลี พร้อมกับได้ประกอบพิธีบูชาพระรัตนตรัย และบวงสรวงเทพยดาที่สำนักสงฆ์ เพื่อขอความเป็นสิริมงคลให้ปราศจากภัยอันตรายต่างๆ ซึ่งในระหว่างการหลบซ่อนนั้นทั้งหลวงปู่เผือก และชาวบ้านต่างก็ไม่มีอันตรายใดใด เข้ามารบกวน จนกระทั่งสมเด็จพระเจ้าตามสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชของบ้านเมืองแล้วปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์ขึ้นครอบราชย์ บ้านเมืองเริ่มเข้าสู่ปกติสุขหลวงปู่เผือกจึงมีชื่อเสียงและเป็นที่กล่าวขวัญถึงนับตั้งแต่นั้นมา
บทบูชาหลวงปู่เผือกและเกจิอาจารย์แห่งวัดสาลีโข
ท่านใดที่ต้องการขอพรหลวงปู่เผือกและเกจิอาจารย์แห่งวัดสาลีโข แค่เพียงจุดธูปบูชา 9 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ พร้อมกับท่องคาถา
“วันทิตะวา สิระสา พุทธัง เตชะยัง ธัมมัง เตชะยัง สังฆัง เตชะยัง ปะวะรัง ครูบาทิยัง อะหัง ปูเชมิสิบนิ้วลูก ประนมยกขึ้นเหนือเกล้าเกศา ขออาราธนาคุณครูบาอาจารย์ทั้งสิบทิศ
คุณพระอาจาริยะตะถาคะโต โสกะมะสะ เชตุมัตจะมิมัตเชโต มะอะอุ สาธุโน ภันเต สังโฆ ลูกจะขอดวงวิญญาณหลวงปู่เผือก หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าหลวงปู่จำปานารโท ปู่เปี่ยม องค์หลวงพ่อสาลีโขหลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญพ่อครูฤาษีนารอด พ่อครูฤาษีนารายณ์ พ่อครูฤาษีตาไฟ พ่อครูฤาษีตาวัว พ่อครูฤาษีกลัยโกฏ พ่อครูฤาษีแสงอาทิตย์ พ่อครูฤาษีสีสัมฤทธิ์ พ่อครูฤาษียอดมหามนต์ สถิตย์อยู่สารทิศใด ขอจงมาประสิทธิลูก ด้วยนะโมพุทธายะมะอะอุนะจงมาอยู่บ่าซ้าย โมจงมาอยู่บ่าขวา พุทจงมาอยู่หูขวา ธาจงมาอยู่หูซ้าย ยะจงมาอยู่ในหัวใจของลูก ด้วยคุณพระพุทธคุณนัง คุณพระธรรมคุณนังเป็นที่พึ่ง คุณพระสังฆคุณนังเป็นที่พึ่งแก่ฝูงชนทั้งหลาย มะจงมาอยู่ในจักขุซ้าย อะจงมาอยู่ในจักขุขวา อุจงมาอยู่ทั่วสารพางค์กายาแห่งตัวลูก ด้วยครูเป็น ครูตาย ครูใหม่ ครูเก่า ครูพักลักจำ ขอจงมาปกเกล้าปกกระหม่อม สิ่งสู่อยู่ในจักขุทวาร โสตทวาร ฆานทวาร ชิวหาทวาร กายทวาร มโนทวาร แห่งตัวลูกด้วย ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด”
จากนั้นขอสิ่งที่ต้องการก็เป็นอันจบพิธี ยิ่งสวดไหว้ขอพรอย่างเป็นประจำ ก็ยิ่งทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น เพียงเท่านี้ความสิริมงคลก็จะอยู่กับผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาอยู่เสมอ
ที่ตั้ง : เลขที่ 54 หมู่ที่ 3 ซอยบางพลับ 1 ถนนชัยพฤกษ์ ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120
Google Map : https://goo.gl/maps/p6FJCosUwEs2rD8G8
เปิดทุกวัน เวลา : 06.00 น. – 18.00 น.
ภาพโดย SUTEE
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
วัดสาลีโข วัดโบราณสมัยกรุงศรีฯ สิริมงคลแห่งชุมชนนนทบุรี
MThai ใส่บาตรออนไลน์ วัดสาลีโขภิตาราม วันที่ 21 มีนาคม 2566
เพลง ‘โอมจงรวย เทพสามตามาดลใจ’ สุดฟีเวอร์! เอาใจคอหวย เต้นตามร้องตามจนติดหัว
