พระฉันสมอ วัดอัปสรสวรรค์ วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร หอไตรกลางน้ำ

กราบพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ชมหอไตร วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร ภาษีเจริญ

จุดเด่นของวัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร คือ พระฉันสมอ , พระพุทธเจ้า 28 องค์ และหอไตรกลางน้ำ อันเป็นเอกลักษณ์ทรงคุณค่าในย่านภาษีเจริญแห่งนี้

Home / กรุงเทพมหานครฯ / กราบพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ชมหอไตร วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร ภาษีเจริญ

วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร ภาษีเจริญ

วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร

วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเดิมชื่อ วัดหมู เล่ากันว่า จีนอู๋เป็นผู้สร้างบนที่ดินที่เคยใช้เลี้ยงหมูมาก่อน เมื่อสร้างเสร็จมีหมูมาเดินเพ่นพ่านอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกว่า วัดหมู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน วัดก็ทรุดโทรมลงตามกาลเวลา เจ้าจอมน้อย (สุหรานากง) เห็นว่าวัดหมูทรุดโทรมมาก จึงกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เพื่อปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้และพระราชทานนามว่า วัดอัปสรสวรรค์ เพื่อเป็นที่ระลึกแด่เจ้าจอมน้อย ซึ่งมีความสามารถด้านการแสดงละครเรื่อง อิเหนา ในบท สุหรานากง จนได้รับฉายาว่า เจ้าจอมน้อยสุหรานากง และได้พระราชทานพระพุทธรูปปางฉันสมอ หรือ หลวงพ่อสมอ ประดิษฐานอยู่ภายในพระมณฑปสีขาว พระพุทธรูปเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวนครหลวงพระบาง และเวียงจันทน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่มาจากเมืองเวียงจันทน์ เดิมที่ประดิษฐานไว้ในพระวิหารพระนาก ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

อุโบสถ

หน้าบันแบบจีน

อุโบสถและวิหารยังคงเดิมตามศิลปะจีนหลังได้รับการปฏิสังขรณ์ กล่าวคือ หน้าบันไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ แต่จะประดับประดาหน้าบันด้วยลวดลายปูนปั้นแบบจีน เลียนแบบวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ อุโบสถมีพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัยขนาดเท่ากันจำนวน 28 องค์ เป็นพระประธาน ประดิษฐานอยู่บนชุกชีด้วยกัน พระพุทธรูปเหล่านี้มีพระนามจารึกไว้ที่หน้าฐานทั้ง 28 องค์ ได้แก่ พระพุทธตัณหังกร พระพุทธเมธังกร พระพุทธสรณังกร พระพุทธทีปังกร พระพุทธโกณฑัญญะ พระพุทธสุมังคละ พระพุทธสุมนะ พระพุทธเรวตะ พระพุทธโสภิตะ พระพุทธอโนมทัสสี พระพุทธปทุมะ พระพุทธนารทะ พระพุทธปทุมุตตระ พระพุทธสุเมธะ พระพุทธสุชาตะ พระพุทธปิยทัสสี พระพุทธอัตถทัสสี พระพุทธธรรมทัสสี พระพุทธสิทธัตถะ พระพุทธติสสะ พระพุทธปุสสะ พระพุทธวิปัสสี พระพุทธสิขี พระพุทธเวสสภู พระพุทธกกุสันธะ พระพุทธโกนาคมนะ พระพุทธกัสสปะ และพระพุทธโคตมะ

พระพุทธเจ้า 28 พระองค์

พระพุทธเจ้า 28 พระองค์

คำนมัสการพระพุทธเจ้า 28 พระองค์

(ตั้งนะโม 3 จบ)
นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง
ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส
สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร
โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ
สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน
โสภีโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม
ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถี
ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโล
สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ
อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท
สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร
ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม
สีขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก
กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห
กัสสะโป สิริสัมปันโน โคมะโต สักยะปุงคะโวฯ

บทสวดนี้เป็นบทสวดสำคัญในการทำวัตรเช้า – เย็น และในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ ที่เป็นบทสวดเฉพาะของวัดอัปสรสวรรค์แห่งนี้

พระพุทธเจ้า 28 พระองค์

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นผู้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อครั้งที่มีการปฏิสังขรณ์นั่นเอง ซึ่งเหตุที่สร้างพระพุทธรูปมากถึง 28 พระองค์ ก็เพื่อแทนพระพุทธเจ้าที่ได้ประสูติมาในชาติภพต่างๆ รวมแล้ว 28 พระองค์ โดยหล่อขึ้นให้มีขนาดเท่าๆ กัน หน้าตักกว้าง 1 ศอก สูงถึงยอดพระรัศมี 1 ศอก 4 นิ้ว วางเรียงตั้งลดหลั่นกันลงมาเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมงดงามแปลกตา ไม่มีวัดไหนในโลกจะมีเหมือน โดยจารึกพระนามอยู่ที่ฐานพระพุทธรูปแต่ละองค์ ซึ่งองค์ที่อยู่ด้านบนสุดคือ พระพุทธเจ้าองค์แรก หรือ พระพุทธตัณหังกร ส่วนองค์ที่อยู่ด้านหน้าสุดของแถวล่างก็คือ พระพุทธโคตมะ หรือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนั่นเอง

พระพุทธเจ้า 28 พระองค์

พระพุทธรูปปางฉันสมอ จาก เวียงจันทน์

พระพุทธรูปปางฉันสมอ หรือ หลวงพ่อฉันสมอ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานไว้ ประดิษฐานอยู่ภายในพระมณฑปสีขาว พระพุทธรูปองค์นี้กล่าวกันว่าได้มาจากเวียงจันทน์ ซึ่งอัญเชิญลงมายังกรุงเทพฯ พร้อมๆ กับพระบรมธาตุ พระบาง และพระแซกคำ แต่พระพุทธรูปปางฉันสมอในพระมณฑปนี้ ถูกอัญเชิญไปเก็บรักษาไว้บนกุฏิ และได้นำองค์จำลองมาประดิษฐานไว้แทนเพื่อความปลอดภัย โดยจะอัญเชิญออกมาให้ญาติโยมได้สรงน้ำพระในวันสงกรานต์

หอไตร วัดอัปสรสวรรค์

หอไตร วัดอัปสรสวรรค์

อีกหนึ่งจุดศาสนสถานสำคัญ “ หอไตรกลางน้ำ ” เป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาที่หาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน เหตุที่ต้องสร้างให้อยู่กลางน้ำก็เพื่อป้องกันมอด ปลวก ที่จะมากัดแทะหนังสือให้เสียหาย ตัวหอไตรนั้นวิจิตรงดงาม ฝาผนังประดับกระจก ส่วนบานประตูและหน้าต่างก็เขียนด้วยลายรดน้ำ และหอไตรแห่งนี้ยังเป็นต้นแบบของหอเขียน ที่จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาดอีกด้วย

พระปรางค์
พระพุทธรูป

นางสุชาดากำลังถวายข้าวมธุปายาสแก่พระพุทธเจ้า

พระพุทธรูป

หากเดินทางมาวัดอัปสรสวรรค์ ก็สามารถแวะเที่ยวชม กราบสักการะ ทำบุญตามวัดย่านละแวกภาษีเจริญใกล้ๆ กันได้

ภาพโดย แพรว

ที่อยู่ : หมู่ 7 ถนนเทอดไท 49 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160
Google map : https://maps.app.goo.gl/HR629vQdvGRWDJgPA
เวลาทำการ : วันธรรมดา เปิดเวลา 08.00 น. – 15.00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ เปิดเวลา 08.00 น. – 17.00 น.