ก่อนจะมีรายงานการติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ครั้งแรกเมื่อต้นปีนี้ หลายคนได้เข้าร่วมการกราบไหว้บูชา มาจู่ ประจำปี ซึ่งจัดโดยวัดฉือฮุ่ยมาจู่ และ Netizen Productions ในเมืองนิวไทเป เพื่อสืบสานประเพณีทางศาสนาท้องถิ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี การผสมผสานระหว่างสุนทรียศาสตร์ดั้งเดิมกับศิลปะร่วมสมัย ได้กลายเป็นองค์ประกอบทิวทัศน์ของเมืองเล็กใหญ่หลายเมืองของไต้หวันในยุคหลังโรคระบาด
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ขบวนพาเหรดผู้แสวงบุญที่ผสมผสานระหว่างศิลปะร่วมสมัยกับมรดกทางประวัติศาสตร์ ได้สร้างความสนใจในหมู่ประชาชนเมืองนิวไทเป ซึ่งเป็นเขตเทศบาลที่มีประชากรมากที่สุดของไต้หวัน พาเหรดครั้งนี้แตกต่างจากรถแห่ไฟฟ้าที่เห็นกันทั่วไปในไต้หวัน โดยมีงานศิลปะในรูปแบบของศิลปะจัดวางบนยานพาหนะ (Shinyu) แล่นไปมาระหว่างถนนเลนเก่ากับย่านที่ใหม่กว่าของเมือง ได้เปล่งคำอธิษฐานที่มอบให้และยังคงทำให้ประชาชนไต้หวันรู้สึกถึงความหวังในชีวิต โดยหนึ่งในกิจกรรมสุดท้ายของช่วงเย็น ศิลปะจัดวางบนยานพาหนะ (Shinyu) ได้หายไปอยู่ใต้งานศิลปะชื่อ Shengque ด้านหน้าวัด
จากนั้นเมื่อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ศิลปะจัดวางบนยานพาหนะ (Shinyu) ก็ถูกเปลี่ยนไปติดตั้งบนเวที กลายเป็นส่วนหนึ่งของฉากไซเบอร์พังก์ยามค่ำคืนของไทเป การใช้รูปแบบศิลปะร่วมสมัยเพื่อประกาศเริ่มพิธีฉลองวันเกิดของเทพมาจู่อย่างเป็นทางการ คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการผสมผสานระหว่างของใหม่และของเก่า กลุ่มการแสดงบนเวทีได้ผสมผสานทั้งดนตรีแนวสตรีท ตะวันออก และเพลงวัด เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมโบราณใหม่อีกครั้ง
มาจู่ เป็นเทพที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดในไต้หวัน โดยวันที่ 23 ของเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของเทพองค์นี้ แทบทุกคนจะร่วมฉลองตามวัดต่าง ๆ โดยศูนย์กลางของการเฉลิมฉลองคือวัดฉือฮุ่ยในเขตปั่นเฉียวของเมืองนิวไทเป ซึ่งครอบครัวหลินปั่นหยวน ซึ่งเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในไต้หวันในช่วงปลายราชวงศ์ชิง ได้บริจาคเงินเพื่อปฏิสังขรณ์วัดดังกล่าว และเป็นเวลาหลายชั่วคน วัดแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งจิตวิญญาณของชาวบ้านหลายชั่วอายุคน คฤหาสน์ตระกูลหลิน ซึ่งเป็นจุดโฟกัสของพื้นที่นี้ได้พัฒนาไปเป็นเมืองภายในเมือง ซึ่งเชื่อมต่อเขตการค้าและย่านช็อปปิงหลัก 3 แห่ง โดยฉากโหมโรงของชุดกิจกรรม Fuzhong Shuang cheng: Gucheng Kailu ทาง Netizen Productions ผู้จัดงานจะให้ความสำคัญกับการออกแบบในท้องถิ่น และเชื่อมเมืองโบราณกับสภาพแวดล้อมเมืองใหม่ผ่านทางชุดโครงการศิลปะร่วมสมัย ที่แสดงให้เห็นสุนทรียภาพแห่งชีวิตที่มีเอกลักษณ์ของพื้นที่
การแสวงบุญปีนี้จัดขึ้นอย่างปลอดภัยเนื่องจากมีการวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเช้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ไต้หวัน ซึ่งรวมถึงการวัดอุณหภูมิและฆ่าเชื้อด้วยการล้างมือที่ประตูทางเข้า สวมหน้ากากอนามัยและใช้ระบบลงทะเบียนที่ต้องใช้ข้อมูลการติดต่อจริงหากเกิดกรณีที่ต้องติดตามผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสใกล้ชิด ตลอดจนการควบคุมจำนวนคนเข้าออกงาน อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในไต้หวัน ทำให้ทางการไต้หวันประกาศยุติกิจกรรมแสวงบุญทั้งหมด สำหรับอนาคตอันใกล้นี้ ผู้จัดงานกำลังมองหาหนทางที่เป็นไปได้ในการแสดงผลงานศิลปะในระบบออนไลน์