คาถาบูชาพระธาตุเชิงชุม วัดพระธาตุเชิงชุม วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

กราบพระธาตุ พระพุทธบาทสี่รอย วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร สกลนคร

กราบขอพรโชคลาภจาก หลวงพ่อพระองค์แสน สักการะพระธาตุเชิงชุม ขอพรมงคล การเงิน การงาน สุขภาพ โชคลาภ ความสำเร็จ จากวัดคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสกลนคร

Home / สกลนคร / กราบพระธาตุ พระพุทธบาทสี่รอย วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร สกลนคร

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมือง สกลนคร

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสกลนคร ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องเล่าตำนาน ดินแดนของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ศิลปะล้านช้างอันงดงาม ล้ำค่าทางวัฒนธรรมและศรัทธายิ่งนัก ซึ่งตามพงศาวดารลาว ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช แห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต ล้านช้าง เรียกพระธาตุเชิงชุมว่า พระธาตุหนองหาน

ที่มาของชื่อวัดพระธาตุเชิงชุม

คำว่า “เชิงชุม” หมายถึง การมีรอยเท้ามาชุมนุมกันอยู่ โดย

  • เชิง” หมายถึง เบื้องล่าง, ตีน
  • ส่วน “ชุม” หมายถึง ประชุม, ชุมนุม

อันหมายถึง “รอยพระพุทธบาทมารวมหรือชุมนุมกันอยู่” เนื่องจากที่นี่จะมีรอยพระพุทธบาทถึง 4 รอย ด้วยกัน

ก้อนข้าวใหญ่

คำบูชาก้อนข้าวใหญ่

โภสะพะธะนัง มะหาลาภัง มัยหัง โหตุ

ก้อนข้าวใหญ่

ประวัติความเป็นมาของ
“ก้อนข้าวใหญ่”(ข้าวก้นบาตรพระพุทธเจ้า) และ รอยพระพุทธบาท 4 รอย

เมื่อครั้งพระโคตมพุทธเจ้า ทรงประทับอยู่ ณ วัดเชตวัน ใกล้กรุงสาวัตถี ทรงรำลึกถึงพุทธประเพณีของพระพุทธเจ้าในอดีตแล้วเสด็จลีลามาโดยเวหนนภากาศ มีพระอานนท์ เป็นผู้ติดตาม เพื่อโปรดเวนัยสัตวในอาณาบริเวณ ลุ่มแม่น้ำโขงโดยทรงมีพุทธทำนายถึงเหตุการณ์และภูมิสถานในอนาคตกาล กับทั้งประทานรอยพระบาทไว้ในสถานที่ต่าง ๆ

ในเช้าวันหนึ่งทรงเสด็จมายังเมืองหนองหานหลวง เพื่อรับบิณฑบาตจากชาวเมือง ครั้นความทราบถึงพญาสุวรรณภิงคาร ผู้เป็นเจ้าเมืองจึงออกไปอาราธนาให้พระโคตมพุทธเจ้า และพระอานนท์ มารับบิณฑบาตพร้อมกระทำภัตกิจ ยังปราสาทของพระองค์ พระโคตมพุทธเจ้าทรงรับบิณฑบาต จากพญาสุวรรณภิงคาร และชาวเมืองเป็นที่เรียบร้อย ที่พระอานนท์จัดไว้ จากนั้นทรงกระทำภัตกิจครั้นแล้วเสร็จ ทรงแสดงเทศนาให้กับพญาสุวรรณภิงคารและชาวเมืองทั้งหลาย แล้วทรงล้วงบาตรนำข้าวที่เหลืออยู่นั้นมาปั้นเป็นก้อนเท่าปลายก้อย มอบให้กับพญาสุวรรณภิงคารไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นทรงเสด็จลงจากปราสาทมายังภูน้ำลอดเชิงชุม มีนาคตนหนึ่งนามว่า สุวรรณนาค นำแผ่นศิลาประดิษฐานรอยพระพุทธบาทของอดีตพระพุทธเจ้า ชำแรกแผ่นดินขึ้นมาประดิษฐานไว้เบื้องหน้าพระโคตมพุทธเจ้า ทรงประทับรอยพระบาทเบื้องขวาลงบนแผ่นศิลานั้น ครั้นแล้วเกิดปาฏิหาริย์ดวงแก้วมณี 4 ดวง ลอยออกมาจากรอยพระบาท เป็นลำดับ

พระโคตมพุทธเจ้า ทรงอธิบายว่า ดวงแก้วมณี 3 ดวง ได้แก่ พระกุกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า และพระกัสสปพุทธเจ้า ส่วนแก้วมณีดวงที่ 4 นั้น หากหมายถึง พระโคตมพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในภัทรกัปจะมาประทับชุมนุม รอยพระพุทธบาท ณ สถานที่แห่งนี้ เมื่อพญาสุวรรณภิงคารได้แจ้งในคำอธิบายแห่งพระโคตมพุทธเจ้าแล้ว บังเกิดศรัทธา จะตัดพระเศียรของตนบูชารอยพระพุทธบาท แต่พระเทวีได้ห้ามไว้ แล้วได้ปลดกระโจมทองคำบูชารอยพระพุทธบาทแทน พร้อมทั้งนำชาวเมืองสร้างอูบมุงหินครอบรอยพระพุทธบาท และนำปั้นข้าวที่พระโคตมพุทธเจ้าประทานให้นั้น มาประดิษฐานไว้ภายในให้เป็นที่สักการะสืบมา

ก้อนข้าวใหญ่

ส่วนแผ่นศิลาอันประดิษฐานรอยพระบาทแห่งพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ พร้อมทั้งกระโจมทองคำนั้น สุวรรณนาค
นำไปรักษายังที่อยู่แห่งตนดังเดิม

รอยพระบาทพระกุกกุสันธะ ยาว 3 วา กว้าง 1 วา รอยพระบาทของพระโกนาคมนพุทธเจ้า และรอยพระบาทพระกัสสัปปพุทธเจ้า ยาวและกว้างโดยลำดับ รอยพระบาทพระโคตมพุทธเจ้า ยาววาปลายเท่าร่องอก สั้นกว่ารอยพระบาทของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนหน้า

พระธาตุเชิงชุม

พระธาตุเชิงชุม ขอพรเรื่องอะไร

องค์พระธาตุเชิงชุมที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนั้น เป็นพระธาตุองค์ใหม่ที่สร้างครอบองค์เดิมไว้ ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นปราสาทเขมรที่ก่อด้วยศิลาแลง โดยพบหลักฐานเป็นจารึกอักษรขอมโบราณ บริเวณกรอบประตูทางด้านทิศตะวันออก เนื้อหาของจารึกกล่าวถึงการอุทิศที่ดินและสิ่งของต่าง ๆ ให้แก่เทวสถาน กำหนดอายุสมัยจากอักษรได้ประมาณพุทธศตวรรษที่ 16-19 สอดคล้องกับสถานที่ตั้งองค์พระธาตุที่ตั้งภายในแนวกำแพงเมืองคูเมืองสกลนครซึ่งมีรูปทรงคล้ายรูปสีเหลี่ยมจัตุรัสซึ่งเป็นคติการสร้างบ้านเมืองแบบวัฒนธรรมเขมรโบราณ

พระธาตุเชิงชุม ขอพรเรื่องอะไร

พระธาตุเชิงชุม เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสกลนคร นิยมมาขอพรโชคลาภ การเงิน ความเจริญรุ่งเรือง การงาน สุขภาพ และความสำเร็จในชีวิต เนื่องจากเชื่อว่าการมานมัสการจะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง และเสริมสิริมงคลสูงสุดแก่ตนเองและครอบครัว

คาถาบูชาพระธาตุเชิงชุม

(ตั้งนะโม 3 จบ)
“มหาวาปี ปุเร สุวัณณะ
ภิงคาระ ราเชนะ ฐาปิตัง
จตุพุทธะ ปาทะวะลัญชัง
สิระสา นะมามิ”

“ข้าพเจ้าขอนมัสการ รอยพระพุทธบาทของ
พระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า 4 พระองค์
ที่พระเจ้าสุวรรณภิงคาระให้สถาปนาไว้
ณ เมืองหนองหารหลวง ด้วยเศียรเกล้าฯ”

หลวงพ่อองค์แสน

หลวงพ่อองค์แสน

พระพุทธรูป

หลวงพ่อองค์แสน ประดิษฐานภายในวิหาร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสน ซึ่งหากว่าได้เข้าไปสักการะองค์หลวงพ่อด้านในวิหารจะเห็นว่ามีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ 2 องค์ ด้านหน้านั้นคือหลวงพ่อองค์แสนองค์เดิม ส่วนด้านหลังคือหลวงพ่อองค์แสนที่สร้างขึ้นใหม่ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อครั้งที่จะบูรณะวัดครั้งใหญ่ เมื่อสร้างหลวงพ่อองค์แสนองค์ใหม่ ประดิษฐานไว้ที่ด้านหลังแล้ว ก็จะมีการทุบหลวงพ่อองค์เดิมทิ้ง แต่เกิดปาฏิหาริย์ ทำให้ไม่สามารถทุบทิ้งได้ ในเวลาต่อมาจึงประดิษฐานหลวงพ่อองค์แสนทั้งสององค์ไว้ในลักษณะเดิม นับเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่เชื่อกันว่าประทานพรด้านโชคลาภ

หลวงพ่อองค์แสน
อุโบสถ

อุโบสถใหม่

เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน และยังโดดเด่นด้วยงานจิตรกรรมฝาผนังอันแสนวิจิตรตระการตา

โบสถ์
พระประธาน

พระประธานในโบสถ์ใหม่

จิตรกรรมฝาผนัง

จิตรกรรมฝาผนัง

จิตรกรรมฝาผนัง
วัดสวย สกลนคร
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

“บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” เป็นบ่อน้ำที่มีมาพร้อมองค์พระธาตุเชิงชุม เดิมมีน้ำพุผุดขึ้นมาเนื่องจากเป็นปลายทางของลำน้ำใต้ดินซึ่งไหลมาจากเทือกเขาภูพานล้วไหลมาผุดที่นี่ เรียกว่า ภูน้ำซอด หรือ ภูน้ำลอด แล้วไหลผ่านไปที่สระพังทอง ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ซึ่งอยู่ติดกับวัด ชาวสกลนครเชื่อว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นทางเชื่อมสู่เมืองพญานาค

เมื่อน้ำน้อยลงเรื่อย ๆ จึงได้ทำผนังกั้นไม่ให้ดินพังลงไป ต่อมาได้บูรณะและสร้างเป็นรูปปั้นพญานาคพ่นน้ำบริเวณรอบบ่อ อันหมายถึงพญาสุวรรณนาค ผู้ทำหน้าที่คอยปกป้องและรักษารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ตามความเชื่อของชาวสกลนคร ซึ่งบ่อน้ำแห่งนี้มีความสำคัญด้วยเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่นำไปใช้ในพระราชพิธีต่างๆ

คาถาบูชาพญานาค (พญาสุวรรณนาค)

“ปัจฉิมรัสมิงทิศาภาเค
สันตินาคา มหิทธิกา
เอหิตุมเห อนุรักขันตุ
อโรคะเย นะสุเขนะจะ” สาธุ

ท้าวเวสสุวรรณ

และนี่คืออีกหนึ่งวัดสวย สกลนคร พระอารามหลวงสุดอลังการงดงาม หนึ่งในสถานที่สำคัญของคำขวัญจังหวัดสกลนคร “พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาน แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม” มาสกลนครครั้งหน้า ต้องไม่พลาด! แวะกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้กันหน่อยแล้วนะคะ

ภาพโดย MTHAI TEAM

ที่อยู่ : ถนนเจริญเมือง ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
Google map : https://maps.app.goo.gl/q26hzkUERaFcyimo6
เวลาทำการ : 06.00 น. – 22.00 น.

เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

สินค้าดี สกลนคร สู่สากล SAKON Global Market 2025 เปิดเวทีใหม่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก
กราบพระพุทธไสยาสน์ พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง วัดโพธิ์ชัย สกลนคร
พระธาตุภูเพ็ก พระธาตุลอยฟ้าปราสาทศักดิ์สิทธิ์ จ.สกลนคร

ดวงตาสวรรค์