มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ วันรำลึก 7 นางฟ้า วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า

10 ส.ค. 67 วันรำลึก 7 นางฟ้า ตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า

วันรำลึก 7 นางฟ้า ตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าวันแห่งความรักของจีน 10 สิงหาคม 2567 ในปีนี้ตรงกับ วันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน (七夕节…

Home / พิธีกรรม / 10 ส.ค. 67 วันรำลึก 7 นางฟ้า ตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า

วันรำลึก 7 นางฟ้า ตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า
วันแห่งความรักของจีน

10 สิงหาคม 2567 ในปีนี้ตรงกับ วันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน (七夕节 ) ซึ่งในประเทศจีนถือเป็นวันรำลึก 7 นางฟ้า อันเป็นวันแห่งความรักของจีน ซึ่งเป็นจุดกำเนิดตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า ที่ในวันนี้คู่รักจะข้ามทางช้างเผือกมาพบกันแค่ปีละครั้ง ตามมติของสวรรค์

เทศกาลวันรำลึก 7 นางฟ้า นี้มีหลักฐานบันทึกว่ามีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ในมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของชาติจีน มีความสำคัญทางด้านดาราศาสตร์ของคนจีนโบราณอีกด้วย ด้วยเป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าเปิด แจ่มใส ไม่มีเมฆ ทำให้สามารถเห็นทางช้างเผือกทอดตัวยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ โดยมีดาวฤกษ์ 2 ดวงสว่างสุกใสอยู่คนละด้านของทางช้างเผือก คือ ดาวเวก้า (Vega) ตัวแทนของจือหนี่ว์ (นางฟ้าสาวทอผ้า) และ ดาวอัลแทร์ (Altair) ตัวแทนของหนิวหลาง (หนุ่มเลี้ยงวัว) โดยมีตำนานความรักของทั้งสองคนดังนี้

หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า

ตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า

มีหนุ่มเลี้ยงวัวคนหนึ่งชื่อ “หนิวหลาง” บังเอิญไปพบนางฟ้าเจ็ดองค์ แอบลงมาจากสวรรค์เพื่อมาเล่นน้ำในทะเลสาบ วัวของหนิวหลางได้กระซิบบอกวิธี ให้เขาไปขโมยเสื้อผ้าของพวกนางมา แล้วคอยเฝ้าดู เมื่อนางฟ้าทั้งเจ็ดองค์เล่นน้ำเสร็จแล้วหาเสื้อผ้าของตนไม่พบ จึงให้น้องสาวคนสุดท้องชื่อ “จือหนี่ว์” (แปลตรงตัวว่า หญิงทอผ้า) มาเจรจาขอเสื้อผ้าคืน

หนิวหลางขอให้นางแต่งงานกับเขา และนางก็ยินยอม นางฟ้าผู้พี่ทั้งหมดจึงได้กลับคืนสู่สวรรค์ ส่วนจือหนี่ว์ได้อาศัยอยู่กับหนิวหลาง และเป็นภรรยาที่ดียิ่ง หนิวหลางรักนางมาก ทั้งสองมีบุตรด้วยกัน 2 คน จือหนี่ว์มีฝีมือในการทอผ้า ผ้าที่นางทอจะมีสีสันสวยงามไม่มีผู้ใดทัดเทียมได้ พวกเขานำไปขายได้เงินดีและมีชีวิตที่ดี

เง็กเซียนฮองเฮาผู้เป็นบิดามารดาของเหล่านางฟ้า เมื่อได้ทราบว่าบุตรสาวของตนไปแต่งงานกับคนธรรมดาก็โกรธมาก ออกคำสั่งให้จือหนี่ว์กลับสู่สวรรค์ ฝ่ายหนิวหลางเมื่อกลับมาพบภรรยาของตนหายตัวไปก็เศร้าโศกเสียใจ

ทันใดนั้นวัวของเขาก็เอ่ยคำพูดออกมาอีกครั้ง บอกให้หนิวหลางฆ่าตนเสีย แล้วเอาหนังคลุมร่างเพื่อจะได้ไปสวรรค์ตามหาภรรยาได้ หนิวหลางฆ่าวัวด้วยน้ำตา ครั้นเมื่อเอาหนังมาคลุมร่างเขากับบุตรทั้งสองก็เหาะไปยังแดนสวรรค์ตามหาจือหนี่ว์

เง็กเซียนฮองเฮาพบพวกเขาขึ้นมาบนสวรรค์ก็โกรธอีก ดึงปิ่นปักผมของนางออกมาแล้วกรีดท้องฟ้าออกกลายเป็นแม่น้ำกว้าง ทำให้คู่รักทั้งสองต้องแยกจากกันตลอดกาล (แม่น้ำนั้นบนโลก รู้จักในชื่อ ทางช้างเผือก)

จือหนี่ว์เฝ้าแต่ทอผ้าคอยอยู่ฟากหนึ่งของแม่น้ำอย่างเศร้าสร้อย ขณะที่หนิวหลางดูแลบุตรสองคนของพวกเขา (คือดาวข้างเคียงในกลุ่มดาวเดียวกัน)

ทว่ามีเพียงวันเดียวในรอบปี ที่เหล่านกกระเรียนจะมาเรียงตัวกันด้วยความเมตตาสงสาร เป็นสะพานนกกระเรียน ข้ามแม่น้ำเพื่อให้คนทั้งสองสามารถข้ามมาพบกัน

สะพานทอดข้ามในกลุ่มดาวหงส์ ทำให้จือหนี่ว์ หนิวหลาง และลูก ๆ มาพบกันได้ในวันที่ 7 เดือน 7 ของปี เพียงวันเดียวเท่านั้น

เล่ากันว่าหากมีฝนตกในคืนวันที่ 7 เดือน 7 นั่นคือ น้ำตาของหนิวหลางและจือหนี่ว์ที่ร่ำไห้กับความรักของตน ปัจจุบันคู่รักชาวจีนจะแลกช็อคโกแลต แสดงออกถึงความรักและบอกรักกันในวันนี้นี่เอง

คู่ครอง

แต่เดิมในเทศกาล七夕节 จะเป็นประเพณีเฉลิมฉลองให้แก่เด็กผู้หญิง โดยมีเคล็ดว่า เด็กหญิงต้องกลัดเข็มเย็บผ้าไว้ในเสื้อเป็นเคล็ดเพื่อให้มีสติปัญญาเฉียบแหลม และจะมีพิธีขอพรจากเทพเจ้า พิธีบวงสรวงเทพธิดาจือหนี่ว์ ที่ชาวจีนยกย่องให้เป็น “เทพธิดาแห่งการเย็บปักถักร้อย” รวมถึงขอพรให้ได้เจอคู่ครองที่ดี

เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

20 เรื่องที่ควรรู้ และเตือนสติ ในวันวาเลนไทน์
ไปดู 8 สถานที่ ขอพรความรัก ทั่วเอเชีย งานนี้คานต้องหัก!
คาถาบูชา เทพทันใจ พร้อมประวัติความเป็นมาและขั้นตอนการสักการะขอพร