ชมความงามประเพณีท้องถิ่นใต้ เยี่ยมวิถีชีวิตชาวใต้แบบสังคมพหุวัฒนธรรม พร้อมชวนเที่ยวชม “เทศกาลเรือกอและ ศิลปะ สี และลวดลาย” ชมการแสดงพื้นบ้าน มโนราห์ – ดิเกร์ฮูลู และชอปผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมไทยภาคใต้กระจายรายได้สู่ชุมชน
นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม มีนโยบายในการนำทุนทางวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความหลากหลายทางด้านอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา ประเพณี วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นมาขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ซึ่งจังหวัดนราธิวาสมีความหลากหลายทางด้านอัตลักษณ์ ประกอบกับมีการเชื่อมโยงประเพณีวัฒนธรรมกับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม จึงมองว่ามีความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power จึงจัด “เทศกาลเรือกอและ ศิลปะ สี และลาดลาย” ภายใต้โครงการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในระหว่างวันที่ 2 – 4 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังเก่า) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส การจัดงานเทศกาลเรือกอและ ศิลปะ สี และลวดลาย จังหวัดนราธิวาส ในครั้งนี้ นับเป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 3 ภายใต้โครงการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ต่อเนื่องจากงานเทศกาล ริเวร่าท้าลมร้อน : Shade of Pattani จังหวัดปัตตานี และเทศกาลฟื้นย่านชุมชนโบราณเมืองเบตง จังหวัดยะลา
“จุดมุ่งหมายของ วธ. ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์และสร้างภาพลักษณ์ของจังหวัดนราธิวาสควบคู่กับการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากความหลากหลายทางประเพณีวัฒนธรรม เพิ่มรายได้แก่คนในพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนบนพื้นฐาน ตลอดจนการยอมรับความหลากหลายทางประเพณีวัฒนธรรม นำไปสู่ความมั่นคงในพื้นที่และชาติ รวมถึงเป็นการเชื่อมโยงประเพณีวัฒนธรรมไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจังเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมีโอกาสมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มากขึ้น เป็นมิติใหม่ในการพัฒนาและให้ความสำคัญต่ออัตลักษณ์และวิถีชีวิตของประชาชน เพื่อขับเคลื่อน Soft Power ในจังหวัดนราธิวาส โดยเฉพาะ “เรือกอและ” เป็นเรือประมงภูมิปัญญาและเป็นศิลปะชายแดนใต้ที่มีอัตลักษณ์และสืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษสู่ลูกหลานดินแดนปักษ์ใต้ มีลวดลายที่เกิดขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์และอิทธิพลที่ได้รับจากสภาพแวดล้อมทั้งปัจจัยสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศและลักษณะสังคมพหุวัฒนธรรมและวิถีความเป็นอยู่ร่วมในจังหวัดชายแดนใต้ นับได้ว่าเป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์ซึ่งเป็นผลของวัฒนธรรมสัมพันธ์ที่มีคุณค่าสมควรอนุรักษ์ไว้อย่างยิ่ง” นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร กล่าว
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีและต้องสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในการต่อยอดนำองค์ความรู้ ลวดลาย ศิลปะ และสีสันของเรือกอและขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power สร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายหน่วยงาน รวมถึงหน่วยงานในสังกัด วธ. คือสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) ได้มีการนำลวดลาย สีสันและศิลปะของเรือกอและ ซึ่งมรดกภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ศิลปะภาคใต้ มาต่อยอดและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมสู่สินค้า Soft Power อาทิ มีการนำลวดลาย สีสันเรือกอและมาผลิตเป็นดินสอและยางลบ ลายผ้า ลวดลายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมต่างๆ ขณะที่ สศร. มีการสร้างเพิ่มมูลค่าให้ “ผ้าบาติก” ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานีและสงขลาผ่านโครงการพัฒนาผ้าไทยร่วมสมัยชายแดนใต้
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมภายในเทศกาลเรือกอและ ศิลปะ สี และลาดลาย ระหว่างวันที่ 2 – 4 สิงหาคม 2567 จะมีนิทรรศการเรือกอและ การสาธิตวาดลวดลายเรือกอและ การทำเรือกอและจำลอง ผลิตภัณฑ์จากเรือกอและ นิทรรศการศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ นิทรรศการพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน เปิดให้ชมคัมภีร์อัลกุอานเขียนด้วยมืออายุกว่าร้อยปี และการสาธิตวิธีการเก็บรักษาคัมภีร์โบราณ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จากศิลปินพื้นบ้าน เด็กและเยาวชน อาทิเช่น การแสดงดิเกร์ฮูลู การแสดงมโนราห์ การแสดงซีละ การแสดงอนาซีดกุมปัง การแสดงกลองบานอร่วมสมัยประกอบเพลง การแสดงเชิดหนังตะลุง การแสดงดนตรีอนุรักษ์ภาษาถิ่นเจ๊ะเห การแสดงรีวิวประกอบเพลง การแสดงดนตรีพื้นบ้านคลาสิค ที่สำคัญมีการนำชมพิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาสยามค่ำคืน (Night at the Museum) และสามารถเที่ยวชม ตลาดนัดวัฒนธรรม จำหน่ายอาหารพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมไทย (CPOT) จากอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี นอกจากนี้มีกิจกรรมเกมเศรษฐีมือนารอสตอรี่ DIY พลาดสติกหดได้ และผ้าห่อโลกปาเต๊ะ โดยอุทยานการเรียนรู้นราธิวาส (TK Park Narathiwat) และบริการนวดแผนโบราณด้วยน้ำมันมะพร้าว อีกด้วย