สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019
📍 สถานการณ์ในประเทศไทย
- 🔻 เพิ่ม ผู้ป่วยยืนยันวันนี้ 7 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยัน (รายที่ 2,948 – 2,954)
- ประเทศไทย อยู่อันดับที่ 59 ของโลก
🔵 เพิ่ม ผู้ป่วยหายกลับบ้าน 22 ราย
⚫️ ผู้ป่วยเสียชีวิต 0 ราย
📍 ผู้ป่วยยืนยันวันนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
🔸 กลุ่มที่ 1 มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย หรือ สถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ (จำนวน 0 ราย)
▪️ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ จำนวน 0 ราย
🔸 กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ (จำนวน 7 ราย)
▪️ ค้นหาเชิงรุกในชุมชน (Active case finding) จำนวน 4 ราย
- ภูเก็ต 3 ราย
- กระบี่ 1 ราย
▪️ ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ (เข้าสถานที่กักกันโรค State Quarantine) จำนวน 3 ราย
- มาจากมาเลเซีย 3 ราย เข้าสถานที่กักกันที่กรุงเทพฯ
🔸 กลุ่มที่ 3 ได้รับผลแล็บยืนยันว่า “พบเชื้อแล้ว” อยู่ระหว่างสอบสวนโรค (จำนวน 0 ราย)
🔹 รวมผู้ป่วยหายกลับบ้าน 2,687 ราย
🔹 รวมผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 213 ราย
🔹 รวมผู้ป่วยเสียชีวิต 54 ราย
🔹 ผู้ป่วยสะสม 2,954 ราย
📍 จังหวัดที่มีผู้ป่วยรายใหม่
- ภูเก็ต 3 ราย
- กระบี่ 1 ราย
- กรุงเทพฯ 0 ราย แต่นำเข้าสถานที่กักกันโรค 3 ราย
📍 สถิติผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค PUI
ตั้งแต่ 4 ม.ค. 2563
- สะสม 62,018 ราย
- ผู้ป่วยยืนยัน 2,947 ราย
- เปอร์เซ็นต์ตรวจพบติดเชื้อ 4.75%
▪️ เปลี่ยนเกณฑ์สอบสวนโรค PUI (ตั้งแต่ 7 เม.ย. 2563)
- สะสม 33,991 ราย
- ผู้ป่วยยืนยัน 727 ราย
- เปอร์เซ็นต์ตรวจพบติดเชื้อ 2.14%
▪️ 12 อันดับ จังหวัดที่พบผู้ป่วย 2,954 ราย 68 จังหวัด
- กรุงเทพฯ 1,488 ราย เข้าสถานที่กักกันโรค 12 ราย
- ภูเก็ต 216 ราย
- นนทบุรี 157 ราย
- ยะลา 113 ราย เข้าสถานที่กักกันโรค 8 ราย
- สมุทรปราการ 113 ราย
- ชลบุรี 87 ราย เข้าสถานที่กักกันโรค 4 ราย
- ปัตตานี 79 ราย เข้าสถานที่กักกันโรค 12 ราย
- สงขลา 44 ราย เข้าสถานที่กักกันโรค 19 ราย
- เชียงใหม่ 40 ราย
- ปทุมธานี 39 ราย
- นราธิวาส 28 ราย เข้าสถานที่กักกันโรค 5 ราย
- นครปฐม 22 ราย
- อยู่ระหว่างสอบสวน 39 ราย
📍 มาตราการที่ยังคงไว้
- ควบคุมการเดินทางเข้าไทย ทุกช่องทาง น้ำ อากาศ บก และขยายห้ามอากาศยานบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวออกไป 1 เดือน คือ 1-31 พ.ค. 2563
- ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน “เคอร์ฟิว” ระหว่าง 22.00 น. ถึง 04.00 น.
- งด หรือ ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด
- งดการดำเนินกิจกรรมคนหมู่มาก
- ทำงานที่บ้าน
📍 มาตราการผ่อนปรนแบ่งเป็น “กิจการ” และ “กิจกรรม”
โดยทางศบค.จะเป็นผู้กำหนด (มาตรฐานกลาง) ให้ทุกพื้นที่ให้ยึดถือปฏิบัติ
- “ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด” เป็นผู้กำหนดรายละเอียดต่อไป
- มาตรการแต่ละพื้นที่สามารถเข้มข้น (มากกว่าได้) แต่ต่ำกว่ามาตรฐานกลางไม่ได้
- ยึดปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก รองลงมาเป็นสังคม และเศรษฐกิจ
📍 เริ่ม 3 พฤษภาคม 2563 “กิจการ” และ “กิจกรรม” ที่ผ่อนปรน
(ประเมินผล 14 วัน หากตัวเลขผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้น จะทบทวนการผ่อนปรนคลายล็อคดาวน์ แต่ยอดผู้ป่วยไม่เพิ่ม และลดลง จะผ่อนปรนกลุ่มกิจการ กิจกรรม อื่นๆต่อไป)
“ทุกอย่างการผ่อนปรน หรือ คลายล็อคดาวน์ ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกๆคน ขอให้ช่วยกัน”
1.ตลาด
- ตลาดสด
- ตลาดนัด
- ตลาดน้ำ
- ตลาดชุมชน
- ถนนคนเดิน แผงลอย
2. ร้านจำหน่ายอาหาร
- ร้านอาหารทั่วไป ห้องแถวไม่เกิน 2 คูหา (นั่งระยะห่าง)
- ร้านเครื่องดื่มขนมหวาน ไอศรีม (นอกห้าง)
- ร้านอาหารริมทาง
- รถเข็น หาบเร่
3. กิจการค้าปลีก-ส่ง
- ซุปเปอร์มาร์เก็ต
- ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง/ยืนรับประทาน
- รถเร่ หรือ รถวิ่งขายสินค้าอุปโภค บริโภค
- ร้านค้าปลีกขนาดย่อม
- ร้านค้าปลีกชุน
- ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
4. กีฬาสัมทนาการ
- กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดินรำไทเก๊ก
- สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกาย (โดยไม่ได้เล่นเป็นทีม และไม่มีการแข่งขัน) ได้แก่
- เทนนิส
- ยิงปืน
- ยิงธนู
- จักรยาน
- กอล์ฟและสนามซ้อม
5. ร้านตัดผม เสริมสวย
- เฉพาะตัด สระ ไดร์ผม
6. อื่นๆ
- ร้านตัดขนสัตว์
- ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์
⭐️ #ยังไม่เปิดให้ขายสุรา เพราะเสี่ยงต่อการเกิดโรค การชุมนุมรวมกลุ่มกัน ย้ำอีกครั้งว่า “ยังไม่ขาย” จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
▪️ มาตราการดำเนินการ ตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับ 1 ข้อที่ 11
- เรื่องการป้องกันโรค
- ทําความสะอาด เช็ดทําความสะอาดพื้นผิวสัมผัส ก่อน-หลัง ทำกิจกรรม และให้กําจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
- ให้เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ ลูกค้า ผู้ร่วมกิจกรรม ลูกจ้าง (สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า)
- ให้บุคคล เคร่งครัดล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
- ให้บุคคล เว้นระยะห่าง นั่ง หรือ ยืน ห่างกัน (อย่างน้อย 1-2 เมตร) เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส หรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลาย
- ให้ (ควบคุมจํานวนผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัด) หรือ (ลดเวลาในการทํากิจกรรมให้สั้นลง)