สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019
📍 สถานการณ์ในประเทศไทย
- 🔺 เพิ่ม ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 107 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
ผู้ป่วยยืนยัน (รายที่ 828-934)
🔸 กลุ่มที่ 1 มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย หรือ สถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ (จำนวน 27 ราย)
▪️ สนามมวย 4 ราย
▫️ อาชีพ
- พนักงานขับรถ บขส.
- รับจ้าง
▫️ อยู่ในจังหวัด
- กรุงเทพฯ
- สมุทรสาคร
▪️ เกี่ยวข้องสถานบันเทิง “จำนวน 5 ราย”
เป็นคนที่มาเที่ยว นักร้องนักดนตรี พนักงาน เจ้าของสถานบันเทิง
▪️ ผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานก่อนหน้านี้ “จำนวน 14 ราย”
▫️ อาชีพ
- รับจ้าง
- ค้าขาย
- พนักงานบริษัท
- นักศึกษา
- คนขับรถแท็กซี่
- ผู้ต้องขัง
- ตำรวจ
▫️ อยู่ในจังหวัด
- เพชรบุรี
- ฉะเชิงเทรา
- ปราจีนบุรี
- ชลบุรี
- ภูเก็ต
- กรุงเทพฯ
▪️ ผู้เข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย จำนวน 4 ราย
▫️ อยู่ในจังหวัด
- สงขลา
- ยะลา
🔸 กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ (จำนวน 13 ราย)
▪️ ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ “จำนวน 6 ราย”
คนไทย 2 ราย เป็นชาวต่างชาติ 4 ราย ชาวอังกฤษ ฟินแลนด์ เยอรมัน อเมริกา
▪️ ผู้ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่แออัดใกล้ชิดคนจำนวนมากและเกี่ยวชาวต่างชาติ “จำนวน 5 ราย”
▫️ อาชีพ
- พนักงานบริษัท
- พนักงานร้านนวด
- แคชเชียร์
- เจ้าหน้าที่สนามบิน
▪️ บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 2 ราย
พบว่าเป็นแพทย์พี่เลี้ยง แพทย์ที่ใช้ทุนปีที่ 2 ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล มีอาการเล็กน้อยและยังทำงานอยู่ ได้เข้าร่วมการผ่าตัด และร่วมทานข้าวกับเจ้าหน้าที่
ทำให้เกิดผู้สัมผัส
- เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในห้องผ่าตัด 15 คน
- หมออยู่ร่วมทำงานด้วยและใกล้ชิดอีก 10 คน
- รวมทั้งหมด 25 คน
ต้องให้หยุดพักงานกักกันดูแลตัวเองที่บ้าน
🔸 กลุ่มที่ได้รับผลแล็บยืนยันว่า “พบเชื้อแล้ว” (จำนวน 67 ราย)
แต่ยังอยู่ะในระหว่างสอบสวนโรคและรอประวัติ
▪️ อัปเดต! ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จำนวน 4 ราย ผู้ป่วยทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
▪️ เพิ่ม ผู้ป่วยยืนยัน กลับบ้าน 13 ราย
🔸 รวมผู้ป่วยหายกลับบ้าน 70 ราย
🔸 รวมผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 860 ราย
🔸 รวมผู้ป่วยเสียชีวิต 4 ราย
🔸 ผู้ป่วยสะสม 934 ราย
⭐️ มีประวัติบุคลากรทางการแพทย์ทำการตรวจผู้ป่วยเสร็จแล้ว มาทราบทีหลัง ว่าสามีคนที่มาตรวจได้ไปสนามมวยมาก่อนหน้านี้ แล้วมาให้ประวัติย้อนหลัง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ท่านนั้นต้องได้รับเชื้อ
“บุคลากรทางการแพทย์ไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไร ต้องการที่ได้ปกป้องท่าน ดูแลท่าน เขาต้องดูแลคนไข้วันนึงอีกหลายร้อยคน ปรากฏว่าต้องถูกแยกกักตัว บางรายต้องแอดมิท”
“ย้ำว่าอย่าปกปิดข้อมูล ประวัติเสี่ยง เพราะส่งผลต่อการวินิจฉัย การรักษาโรค เกิดความเสี่ยงต่อบุคลากรทางการแพทย์ หากติดเชื้อจากการปกปิดข้อมูลของผู้ป่วย จะส่งผลกระทบต่องานบริการ และกระทบต่อระบบสาธารณสุขเป็นอย่างมาก”
📍 ประชาชนที่ทำงานในกรุงเทพฯและปริมณฑล “การเดินทางกลับไปภูมิลำเนา”
- ท่านมีโอกาสนำโรคไปแพร่เชื้อให้กับบุคคลใกล้ชิด กระทรวงสาธารณสุขให้ทางแพทย์สาธารณสุขจังหวัด อาสาสมัครสาธารณสุข สำรวจผู้เดินทางกลับภูมิลำเนา ให้ปฏิบัติตัวแยกตนเองอยู่บ้าน 14 วัน
- ยังมีงานเลี้ยงสังสรรค์ยังมีการพบปะกันถึงเป็นเหตุให้มี “ผู้ป่วยรายใหม่” เกิดขึ้นวันนี้เป็น 100 ราย
เพราะฉะนั้น ท่านต้องงดการสังสรรค์กิจกรรมรวมกลุ่มต่างๆ
ถ้าหากพบผู้ป่วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน - กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัว เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงถ้าติดเชื้อโควิด-19 แล้วจะเป็นหนัก มีโอกาสเสียชีวิต ควรงดออกจากบ้านเพื่อลดโอกาสการรับเชื้อ
📍 บุคคลทำงาน ที่ไปทำงานนอกบ้าน
- ให้เว้นระยะห่างในครอบครัว
- โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุ และเด็กเล็กอาศัยอยู่
📍 ทุกคนหากป่วยมีไข้ มีอาการทางเดินหายใจ ให้รีบพบแพทย์ทันที
(อย่าปกปิดข้อมูลเพื่อที่จะได้รักษา ทันท่วงที และคำนึงถึงความปลอดภัยแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขทุกคน)
⭐️ เรื่องยา
- กรณียาฟาวิพิราเวียร์ ตอนนี้มีสต็อกราว 5 หมื่นเม็ด และกำลังเข้ามาเพิ่มอีกราว 2 แสนเม็ด ในต้นเดือนเมษายน 2563
- โดยคาดว่าหากมีผู้ป่วย 5,000 ราย ต้องใช้ยาราว 350,000 เม็ด ดังนั้น ก็จะมีการสั่งซื้อเพิ่มจากประเทศจีน ญี่ปุ่น เพิ่มต่อเนื่อง (ซึ่งตอนนี้ยังไม่ถึง)
⭐️ เรื่องตอนนี้ระยะ 3 หรือยัง?
- ตอนนี้ คณะกรรมการฯ ก็ยังพูดคุยหารือกันอยู่ หากมีความคืบหน้าจะประกาศให้ทราบ
- ตอนนี้มาตรการที่เตรียมไว้เกินกว่าระยะ 3 ไปแล้ว
- สำหรับผู้ติดเชื้อในตอนนี้ ส่วนใหญ่ยังเห็นกลุ่มก้อน พบที่มาที่ไปอยู่ แม้ว่ามีบางส่วนต้องใช้เวลาสอบ
⭐️ เรื่องการคัดกรองผู้ป่วย
ประชาชนที่สงสัยว่ามีความเสี่ยงโควิด-19
ขอให้ทำการประเมินด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์โรงพยาบาลราชวิถี
ตามนี้ : http://covid19.rajavithi.go.th/th_index.php
⭐️ ภาพรวมอาการผู้ป่วย (ทั่วโลก)
▪️ 80% ไข้หวัดธรรมดา อาการไม่รุนแรง ไข้ มีน้ำมูก เจ็บคอ
▪️ 7-15% เริ่มมีอาการปอดอักเสบ อาการไม่รุนแรง (กลุ่มนี้เริ่มได้รับยาต้านไวรัส) ข้อมูลใน (ประเทศไทย) พบผู้ป่วยกลุ่มนี้เพียง 9%
▪️ 3-5% ปอดอักเสบรุนแรง มีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 4% ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 0.4%
“ขอย้ำว่าการแพทย์ของเราไม่ได้ด้อยกว่าใคร”
⭐️ กลุ่มติดเชื้อโควิด-19 แล้วมีความเสี่ยงที่อาการปอดอักเสบ
- อายุมากกว่า 60 ปี
- ภาวะอ้วน
- มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- โรคถุงลมโป่งพอง
- โรคหัวใจวาย
- โรคไตวายเรื้อรัง
- โรคตับแข็ง
- โรคเบาหวาน
“ส่วนท่านที่มีอาการน้อยเป็นไข้หวัดธรรมดาไม่ได้มีกลุ่มโรคพวกนี้
สามารถรักษาวิธีการทั่วๆไป ที่เรารักษาหวัดกัน มีอาการไข้ ดื่มน้ำ ทานยาแก้ไข
มีน้ำมูก ทานยาลดน้ำมูก นอนพักผ่อนเยอะๆ”
📍 การคัดกรองทุกด่าน
- รวม 6,088,175 เพิ่ม 33,122 คน
- สนามบิน 4,215,701 เพิ่ม 19,221 คน
- ท่าเรือ 126,334 เพิ่ม 624 คน
- ด่านพรมแดนทางบก 1,621,802 เพิ่ม 9,904 คน
- สตม.แจ้งวัฒนะ 124,338 เพิ่ม 3,373 คน
- PUI ผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 13,027 เพิ่ม 1,220 ราย
📍 ข้อมูล (ผู้ป่วยยืนยัน วันที่ 24 มีนาคม 2563)
▪️ เพศ : ชาย 62.7% หญิง 37.3%
▪️ มีอาการ 82.2% ไม่มีอาการ 17.8%
▪️ ช่วงอายุ ส่วนใหญ่ 30-39 ปี
▪️ สัญชาติ
- ไทย 619 ราย
- จีน 28 ราย
- ฝรั่งเศส 6 ราย
- อังกฤษ 4 ราย
- เดนมาร์ก 4 ราย
- อิตาลี 3 ราย
- ญี่ปุ่น 3 ราย
▪️ พบผู้ป่วยในพื้นที่
- กรุงเทพฯและปริมณฑล 347 ราย
- ต่างจังหวัด 93 ราย
- ภาคใต้ 46 ราย
- อื่นๆ 174 ราย
▪️ กลุ่มผู้ติดเชื้อ
- ผู้ใกล้ชิดสัมผัส 146 ราย
- สนามมวย 143 ราย
- ผับ บาร์ 62 ราย
- คนไทยมาจากพื้นที่เสี่ยง 58 ราย
- อาชีพเสี่ยง 54 ราย
- ชาวต่างชาติมาจากพื้นที่เสี่ยง 48 ราย
- ร่วมงานศาสนาในมาเลเซีย 30 ราย
- ระบุไม่ได้ 25 ราย
- สัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ 11 ราย
- บุคลากรทางการแพทย์ 6 ราย
- มาจากพื้นที่เสี่ยง 1 ราย
- ไปสถานที่แออัด 1 ราย
📍 ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงที่พบผู้ป่วยติดเชื้อ
▪️ กรุงเทพฯ
- สนามมวย 84 ราย
- ผู้สัมผัสผู้ป่วย 67 ราย
- อยู่ระหว่างสอบสวน 59 ราย
- ผับบาร์ 49 ราย
- อาชีพเสี่ยง 31 ราย
▪️ ต่างจังหวัด
- สนามมวย 25 ราย
- ผู้สัมผัสผู้ป่วย 20 ราย
- อยู่ระหว่างสอบสวน 19 ราย
- คนไทยมาจากพื้นที่เสี่ยง 9 ราย
- อาชีพเสี่ยง 7 ราย
▪️ ภาคใต้
- ร่วมงานศาสนาในมาเลเซีย 25 ราย
- ระบุไม่ได้ 8 ราย
- อยู่ระหว่างสอบสวน 5 ราย
- ผู้สัมผัสผู้ป่วย 4 ราย
- คนไทยมาจากพื้นที่เสี่ยง 3 ราย
▪️ อื่นๆ
- ผู้สัมผัสผู้ป่วย 36 ราย
- สนามมวย 32 ราย
- อยู่ระหว่างสอบสวน 28 ราย
- ชาวต่างชาติมาจากพื้นที่เสี่ยง 20 ราย
- อาชีพเสี่ยง 15 ราย