ประเด็นสำคัญ
- องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) อนุมัติวัคซีน แว็กเซวิรา (Vaxzevira) ของแอสเตราเซเนกาที่ผลิตในยุโรปแล้ว แต่วัคซีนโควิชีลด์ ยังไม่ได้ยื่นขออนุมัติทางการค้ากับสหภาพยุโรป
- และไม่ได้มีการจัดให้คซีนโควิชีลด์ ของแอสตราเซเนกาที่ผลิตในอินเดีย เป็นกลุ่มเดียวกับวัคซีนแอสตราเซเนกา
- จึงทำให้นักเดินทางที่ฉีดวัคซีน โควิชีลด์ (Covishield) ของแอสตราเซเนกาซึ่งอินเดียเป็นผู้ผลิต อาจประสบปัญหาด้านการเดินทางเข้าสู่ภูมิภาคยุโรป
…
เมื่อวันศุกร์ (2 ก.ค.) คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ระบุว่าขณะที่สหภาพยุโรปกำลังเปิดชายแดนรับนักท่องเที่ยวนอกภูมิภาคอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ครบโดสแล้ว นักเดินทางที่ฉีดวัคซีน โควิชีลด์ (Covishield) ของแอสตราเซเนกาซึ่งอินเดียเป็นผู้ผลิต อาจประสบปัญหาด้านการเดินทางเข้าสู่ภูมิภาค
สเตฟาน เดอ เคียร์ชแมกเกอร์ โฆษกด้านสุขภาพของคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ขณะที่องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) อนุมัติวัคซีน แว็กเซวิรา (Vaxzevira) ของแอสเตราเซเนกาที่ผลิตในยุโรปแล้ว แต่วัคซีนโควิชีลด์ ยังไม่ได้ยื่นขออนุมัติทางการค้ากับสหภาพยุโรป
ด้านสหราชอาณาจักรจัดการฉีดวัคซีนโดยใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นหลัก และมีประชากรส่วนหนึ่งฉีดวัคซีนโควิชีลด์ ซึ่งผลิตโดยสถาบันเซรุ่มของอินเดีย (SII)
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สหราชอาณาจักรนำเข้าวัคซีนจากอินเดีย 5 ล้านโดส แต่หน่วยงานด้านสุขภาพไม่เรียกว่าเป็นวัคซีนโควิชีลด์ และจัดให้เป็นผลิตภัณฑ์เดียวกันกับวัคซีนที่ผลิตในพื้นที่ทางตอนเหนือของเวลส์และเทศมณฑลสแตฟฟอร์ดเชอร์
“แน่นอนว่าผู้ผลิตวัคซีนโควิชีลด์สามารถยื่นขออนุมัติวัคซีนตัวนี้ได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการ” เคียร์ซแมกเกอร์กล่าว
อียู ดิจิทัล โควิด เซอร์ทิฟิเคต (EU Digital COVID Certificate) หรือใบรับรองเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของสหภาพยุโรปเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) ซึ่งเป็นการเปิดให้ประชาชนในสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศที่กำหนดสามารถเดินทางในพื้นที่ได้โดยไร้ข้อจำกัด หากพวกเขามีหลักฐานยืนยันว่าตนได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่องค์การฯ อนุมัติ ครบโดสแล้ว หรือมีผลตรวจเชื้อเป็นลบ หรือเพิ่งหายป่วยจากโรคโควิด-19
ขณะเดียวกัน ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปมีสิทธิ์เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การอนุมัติได้เช่นกัน อันรวมถึงวัคซีนโควิชีลด์ด้วย แต่รายงานของสื่อบางรายระบุว่ามีเพียงไม่กี่ประเทศจากประเทศสมาชิกทั้งหมด 27 แห่ง ที่ยอมรับวัคซีนซึ่งอยู่นอกเหนือจากรายการวัคซีนที่องค์การยายุโรปอนุมัติ
ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่าประชาชนจากสหราชอาณาจักรอาจถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าสู่สหภาพยุโรป เคียร์ซแมกเกอร์ระบุว่าคณะกรรมาธิการฯ กำลังดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานี้
“เพื่อดำเนินการไปในทางเดียวกัน คณะกรรมาธิการฯ กำลังติดต่อหารือกับประเทศสมาชิกเพื่อพิจารณาการเปิดรับผู้ฉีดวัคซีนยี่ห้อต่างๆ และตกลงดำเนินวิธีการที่มีการเห็นพ้องกันมากที่สุด”