นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นคำร้องให้ กกต.ตรวจสอบกิจกรรมเลี้ยงโต๊ะจีน
เมื่อ 18 ม.ค. 2562 ที่ศูนย์ราชการฯ (อาคาร B) ถ.แจ้งวัฒนะ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบ กรณีเมื่อวันที่ 18-19 ธ.ค. 2561 พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)และพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) มีการจัดกิจกรรมระดมทุน ว่าเป็นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 64 หรือไม่ หากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว จะมีโทษปรับตามมาตรา106 และมาตรา 123 หรือไม่
พร้อมกันนี้นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อวาน เป็นวันที่ครบกำหนด 30 วันที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดกิจกรรมเลี้ยงโต๊ะจีน โดยมีการคาดการณ์ว่าจะได้รับเงิน 234 ล้านบาท และครบกำหนด 30 วันที่พรรคพลังประชารัฐจัดกิจกรรมจัดเลี้ยงโต๊ะจีนที่มีการประกาศว่าได้รับเงินประมาณ 650 บ้านบาท
อย่างไรก็ตาม นายเรืองไกรกล่าวว่า ตนได้มีการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซด์ของทั้งสองพรรคการเมือง ยังไม่มีการประกาศให้ประชาชนทราบถึงจำนวนและที่มาของเงิน ทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวตามที่มาตรา 64 พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนดไว้ และหากไม่มีการประกาศกฎหมายกำหนดให้มีโทษปรับตามมาตรา 106 และมาตรา 123 ดังนั้นจึงขอให้กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองตรวจสอบ
นอกจากนี้นายเรืองไกร ได้ยื่นหนังสือโต้แย้งมติของ กกต.ที่ยกคำร้องของตนเองกรณีขอให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ตามความในมาตรา 28 โดย กกต.มีมติเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ว่า กระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบของพรรค ตนเห็นว่าข้อบังคับและระเบียบของพรรคประชาธิปัตย์ที่ กกต.อ้างเป็นเหตุในการยกคำร้องไม่อาจจะไปขัด พ.ร.ป.พรรคการเมือง 60 ได้ และการยกคำร้องเกิดขึ้น 5 วันทำการหลังจากที่ตนเพิ่งไปให้ถ้อยคำเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2561 ถือว่าเร็วเกินไป และไม่มีการแจ้งว่าได้มีการสอบข้อเท็จจริงผู้ถูกร้องหรือพยานที่เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร