ประเด็นน่าสนใจ
- พรรคพลังเพื่อไทย ร้อง กกต.ตรวจสอบ มงคลกิตติ์
เมื่อเวลา 11 .00 น. วันที่ 8 ก.ค. 2562 ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ หัวหน้าพรรคพลังเพื่อไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ยื่นเอกสารร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก กกต. กรณี ผู้บริหารพรรคไทยศิวิไลย์ รังแกข้าราชการผู้ปฎิบัติหน้าที่ คณะกรรมการบริหารพรรคนำโดยนายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ หัวหน้าพรรค พร้อม พ.ต.อ.สรรพิสิฐ แย้มเกสร ผบก.กองตรวจราชการภาค 5 สำนักงานจเรตำรวจ
นายเอกวรพงศ์ เปิดเผยว่า เนื่องด้วย พ.ต.อ.สรรพิสิฐ แย้มเกสร ผบก.กองตรวจราชการภาค 5 สำนักงานจเรตำรวจ ได้ยื่นเอกสารข้อร้องเรียนมายังพรรคว่า ถูกผู้บริหารพรรคการเมืองจากพรรคไทยศิวิไลย์ คุกคาม ข่มขู่ ให้ร้าย
โดยนายณัชพล สพัฒนะ “มาร์ค พิตบูล” และพรรคพวกตามที่ปรากฏในเอกสาร ดำเนินการ “คุกคามข่มขู่ และใส่ร้าย หลายครั้งหลายหน”เหตุเกิดต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2561 ณ สำนักงานจเรตำรวจ ต่อเนื่องจนถึงช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ทั้งนี้พฤติกรรมดังกล่าวพรรคพลังเพื่อไทย เห็นว่าไม่ถูกต้องอย่างยิ่งโดยเฉพาะผู้บริหารพรรค และหัวหน้าพรรค นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้-พระราม 7 ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านต้องออกมาดูแลในเรื่องนี้ แต่กลับปล่อยเพิกเฉย เพราะพรรคการเมือง ไม่สมควรจะละเลย และไม่ควรข่มเหงข้าราชการประจำผู้ปฎิบัติหน้าที่หรือบุคคลทั่วไป
ดังนั้นเมื่อมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมเข้ามา เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของพรรคการเมืองและสอดคล้องกับนโยบายพรรค จึงพร้อมจะเดินหน้ายื่นเอกสารเพื่อให้กตต.พิจารณาและดำเนินการกับพรรคและผู้บริหารพรรคไทยศิวิไลย์ต่อไป
ตนเชื่อว่ารัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ อาจจะมีอายุสั้น น่าจะอยู่ไม่น่าต้องยุบสภา เลือกตั้งใหม่ น่านที่สุดก็ไม่น่าจะผ่านงบประมาณปี 2564
“ตอนนี้ภารกิจของรัฐบาล คือเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แก้รัฐธรรมนูญ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือต้องติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง หมายถึงนายกรัฐมนตรีต้องตั้งเสนาบดีที่ดี ทำงานเพื่อบ้านเมือง และสกรีนคนที่จะดำรงตำแหน่งเสนาบดีให้ดีที่สำคัญ ต้องทำงานสร้างผลงานให้ประจักษ์ ดูแลชีวิตความปลอดภัยของประชาชนหรือคนเห็นต่าง รวมทั้งดูแลเรื่องประชาชนคนทุกคนที่ถูกรังแกหรืเอาเปรียบเหมือนเครสที่พรรคมาร้องเรียนในวันนี้ด้วย”