บิ๊กตู่ เชื่อทุกคนหวังได้รัฐบาลเสียงข้างมาก เชื่อวุฒิภาวะสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติและประสบการณ์ ชวน-พรเพชร คุมอยู่ วอนประชุมตามวาระอย่าอภิปรายไม่ไว้วางใจ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า อย่าเพิ่งมองว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น ต้องรอดูหลังจากวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลทุกคนก็มุ่งหวังให้เป็นเสียงข้างมาก แต่จะมากหรือน้อยเพียงใดต้องเคารพเสียงของประชาชนที่เลือกมาทั้งหมด
เชื่อว่าทุกคนอยากให้จัดตั้งรัฐบาลทันทีหลังจากโหวตนายกฯ ดังนั้นคนที่อยู่ในกลไกการจัดตั้ง ครม. ต้องหาทางออกให้ได้ ในการเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีเสถียรภาพ ซึ่งไม่ใช่รัฐบาลของพรรคใดแต่เป็นรัฐบาลของประชาชนและของประเทศ ทั้งนี้ทุกคนต่างมุ่งหวังทำงานการเมืองเพื่อประชาชนด้วยกันทั้งสิ้น ขณะที่ประชาชนยังรอความหวังจากรัฐบาลอยู่
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า หลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จแล้ว สถานการณ์การเมืองสงบเรียบร้อยเลยหรือไม่นั้น ตนไม่อยากให้มองสถานการณ์การเมืองเพียงอย่างเดียว ต้องมองในเรื่องเสถียรภาพความมั่งคงและเรื่องอื่นๆ เพราะการเมืองเป็นเพียงกลไกหนึ่งในการทำหน้าที่เพื่อคนไทยทั้งประเทศกว่า 70 ล้านคน ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ว่านายกฯ คนไหนก็ตามไม่สามารถทำคนเดียวได้ทั้งหมด ทุกคนต้องร่วมกัน ไม่สามารถแบ่งแยกกันได้ ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ เอกชน และประชาชน ต้องมีส่วนร่วมทำประเทศชาติให้เดินไปข้างหน้า
พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวถึงข้อเสนอให้เข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมรัฐสภาในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐว่า ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด พยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ มากมาย ซึ่งวิสัยทัศน์ของตนมีอยู่แล้วคือมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ภายใต้การมองอนาคตไปข้างหน้า ที่ผ่านมายังมีแผนปฏิบัติการบริหารราชการแผ่นดินมาโดยตลอด
และวันนี้ก็ได้วางยุทธศาสตร์ชาติแผนแม่บท ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารราชการ กระจายรายได้ เพิ่มความเชื่อมโยงในทุกมิติ ปรับตัวเองให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก
พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ในวันพรุ่งนี้ว่า หลายคนถามตนเองว่าจะเป็นอย่างไร ก็ขอให้มองในทางที่ดี ซึ่งตนเชื่อในวุฒิภาวะของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ทุกคน ในขีดความสามารถของประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย จะทำให้วาระการโหวตเลือกนายกฯดำเนินไปได้ตามกฏหมายและรัฐธรรมนูญ
โดยในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่าควรหารือกันในวาระที่กำหนดไว้ ไม่ใช่การเปิดและอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงขอไว้โอกาสหน้าไม่ใช่เวลานี้ ซึ่งตนคิดว่าวันนี้คนไทยทุกคนคาดหวังและติดตามการประชุมร่วมรัฐสภาพรุ่งนี้ ในการเฝ้ามอง ส.ส.ที่ได้รับการเลือกเข้ามาทำหน้าที่อันทรงเกียรติ
และที่ผ่านมาทุกคนเข้าใจดี ระยะเวลากว่า 10 ปีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย หลายคนอยากให้รัฐบาลปฏิรูปในหลายด้าน ซึ่งได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว เหลือการปฏิรูปการเมืองที่หลังจากนี้ต้องเริ่มด้วยระบบรัฐสภา ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. จะต้องช่วยกันให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ให้กลับไปสู่ปัญหาเดิม และควรเริ่มจากการประชุมครั้งแรกทำให้ประชาชนได้รู้ว่าประชาชนเลือกไม่ผิดคน