firm health running รองเท้า วิ่ง ออกกำลังกาย

เลือกรองเท้าที่ใช่ สำหรับการ ออกกำลังกาย อย่างถูกต้อง

ในยุคที่คนหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น เชื่อว่าสายเฮลท์ตี้มือใหม่น่าจะเจอปัญหาการเลือกรองเท้าที่ใช่สำหรับ ออกกำลังกาย ไม่มากก็น้อย ซึ่งหลายคนมองว่าจำเป็นด้วยเหรอ? เอาพวกสนีกเกอร์มาใส่วิ่งก็ได้ ไม่ว่าจะรุ่นไหน ยี่ห้อไหนก็น่าจะใส่ออกกำลังกายได้เหมือนกันหมด คำตอบก็คือ จำเป็น และสำคัญมาก! เพราะรองเท้าแต่ละรุ่น ผลิต และเลือกวัสดุในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป นอกจากจะให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว…

Home / MEN / เลือกรองเท้าที่ใช่ สำหรับการ ออกกำลังกาย อย่างถูกต้อง

ในยุคที่คนหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น เชื่อว่าสายเฮลท์ตี้มือใหม่น่าจะเจอปัญหาการเลือกรองเท้าที่ใช่สำหรับ ออกกำลังกาย ไม่มากก็น้อย ซึ่งหลายคนมองว่าจำเป็นด้วยเหรอ? เอาพวกสนีกเกอร์มาใส่วิ่งก็ได้ ไม่ว่าจะรุ่นไหน ยี่ห้อไหนก็น่าจะใส่ออกกำลังกายได้เหมือนกันหมด คำตอบก็คือ จำเป็น และสำคัญมาก! เพราะรองเท้าแต่ละรุ่น ผลิต และเลือกวัสดุในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป นอกจากจะให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยลดอาการบาดเจ็บที่เรามองไม่เห็นได้อีกด้วย วันนี้เรามีเคล็ดลับการเลือกซื้อรองเท้าออกกำลังกายมานำเสนอ ลองไปชมกันได้เลย

1.เลือกรองเท้าที่เหมาะกับการออกกำลังกาย – ตอนนี้หลายๆ แบรนด์ต่างแข่งขันทำการตลาดเกี่ยวกับรองเท้าที่ใช้ออกกำลังกายกันมากขึ้น แล้วจะรู้ได้ยังไงละ ว่ารุ่นนั้นเหมาะกับการออกกำลังกายของเราจริง เช่น รองเท้าวิ่ง ควรจะเลือกรุ่นที่ออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูง รองรับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยมอย่างพื้น BOOST ของอาดิดาส และใช้วัสดุทีมีนำหนักเบา พร้อมกับระบายอากาศได้ดีอย่างวัสดุ Flyknit ของไนกี้ แต่ถ้าเกิดจะเอารองเท้าวิ่งไปเข้าฟิตเนสถามว่าทำได้หรือไม่? ก็ทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพของรองเท้าวิ่งได้อย่างเต็มที่

2. สวยที่สุด แต่ก็ไม่ได้เหมาะสมที่สุด – “อย่าตัดสินคนที่ภายนอก” ประโยคนี้ก็ใช้กับการเลือกซื้อรองเท้าได้เช่นกัน เพราะรองเท้ารุ่นสวยๆ ที่เราชอบ อาจจะไม่เหมาะกับการออกกำลังกายของเราก็ได้ ต้องเลือกให้เหมาะกับกิจกรรมที่เราจะทำให้มากที่สุด เพื่อที่จะดึงศักยภาพของรองเท้าออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.เลือกไซส์ให้พอดีกับเท้า – ไซส์รองเท้าของหลายๆ แบรนด์อาจจะเรียกแตกต่างกันไป เช่น adidas เรียกไซส์ UK, Nike เรียกไซส์ US หรือ Mizuno เรียกไซส์ JP เป็นต้น ควรเลือกรองเท้าให้เข้ากับรูปเท้าของเรามากที่สุด ต้องไม่คับเกินไปหรือหลวมจนเกินไป แล้วอย่าลืมใส่ถุงเท้าตอนลองใส่กันด้วยละ

4. ยอมลงทุนซื้อแพงสักนิด แล้วทุกอย่างจะออกมาดี – รองเท้าออกกำลังกายสมัยนี้อาจจะราคาสูง แต่ต้องแลกมาด้วยคุณภาพของวัสดุตามราคา เพื่อตอบโจทย์การออกกำลังกายของเราอย่างแท้จริง

5. ช่วงบ่ายๆ หรือเย็นๆ คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการซื้อรองเท้า – หลังจากการเดินมาทั้งวัน ทำให้เท้าของเราขยายออกมากกว่าปกติ เมื่อมาลองใส่รองเท้าช่วงบ่ายๆ หรือเย็นๆ จะพอได้กับรองเท้าที่เราต้องการ

6. ห้ามซื้อโดยยังไม่ได้ลองใส่ก่อน – ขณะนี้ร้านขายของออนไลน์กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก บางทีคนที่อยากออกกำลังกายจริงๆ อาจจะไม่มีเวลาไปซื้อตามห้างสรรพสินค้า จึงตัดสินใจซื้อในออนไลน์แทน ซึ่งการที่เราไม่มีโอกาสได้ลองใส่ และลองเดินก่อน ถ้าได้รองเท้ามาแล้วไซส์อาจจะไม่พอดีหรือเหมาะกับรูปทรงเท้าของเราก็ได้ อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจคือไปลองตามช้อปก่อน แล้วค่อยมาซื้อทางออนไลน์

Man Mthai เรียบเรียงเนื้อหา และขอขอบคุณรูปภาพจาก : adidas, mizuno, nike