3 วิธีการตรวจคัดกรองป้องกัน โรคมะเร็งปากมดลูก รีบตรวจก่อนสายเกินไป!!

โรคมะเร็งปากมดลูก พบมากเป็นอันดับ 2 ของผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม ปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกและรอยโรคก่อนมะเร็งที่เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวีสามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีคู่นอนหลายคน ซึ่งความเสี่ยงจะสูงขึ้นตามจำนวนคู่นอน มีประวัติติดเชื้อหูดหงอนไก่ หรือติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อาการของมะเร็งปากมดลูก มีเลือดหรือตกขาวออกทางช่องคลอดผิดปกติหรือมีกลิ่น มีเลือดออกจากช่องคลอด…

Home / HEALTH / 3 วิธีการตรวจคัดกรองป้องกัน โรคมะเร็งปากมดลูก รีบตรวจก่อนสายเกินไป!!

โรคมะเร็งปากมดลูก พบมากเป็นอันดับ 2 ของผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม ปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกและรอยโรคก่อนมะเร็งที่เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวีสามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก

  • เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
  • การมีคู่นอนหลายคน ซึ่งความเสี่ยงจะสูงขึ้นตามจำนวนคู่นอน
  • มีประวัติติดเชื้อหูดหงอนไก่ หรือติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

อาการของมะเร็งปากมดลูก

  • มีเลือดหรือตกขาวออกทางช่องคลอดผิดปกติหรือมีกลิ่น
  • มีเลือดออกจากช่องคลอด หลังหมดประจำเดือนแล้ว
  • มีอาการเจ็บ ขณะมีเพศสัมพันธ์
  • มีสารคัดหลั่งออกมาจากช่องคลอดมากผิดปกติ หรืออาจปนเลือด

โรคมะเร็งปากมดลูก

3 วิธีการตรวจคัดกรองป้องกัน โรคมะเร็งปากมดลูก

1. Pap Smear (แพปสเมียร์)
เป็นวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกวิธีดั้งเดิมโดยใช้ไม้ป้ายเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูก จากนั้นป้ายลงบนแผ่นสไลด์ ซึ่งอาจมีมูกเลือดบดบังเซลล์มะเร็งได้จึงทำให้มีโอกาสผิดพลาดสูง

2. Liquid base Cytology
เป็นวิธีมาตรฐานในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสามารถพบรอยโรคได้ถึง 74% โดยใช้น้ำยารักษาสภาพเซลล์ที่ช่วยกำจัดมูกและเลือด การตรวจค่อนข้างมีความแม่นยำจึงทำให้มีโอกาสพบเซลล์มะเร็งสูง

3. การตรวจหาเชื้อไวรัส HPV
การตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ด้วยวิธี เอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสท์ (HPV DNA test) สามารถพบรอยโรคได้เกือบ 100% โดยการนำเซลล์ปากมดลูกมาตรวจแบบเจาะลึกถึงระดับ DNA ของเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก การตรวจด้วยวิธีนี้มีแม่นยำสูงจึงสามารถเว้นระยะตรวจได้ถึง 5 ปี