ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่แพร่ระบาดได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ผู้ป่วยบางรายถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่สุดคือเด็กวัย 0-4 ปี สายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ที่มักระบาดในไทยส่วนใหญ่คือ สายพันธุ์ B
ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ติดต่อได้รวดเร็วโดยการแพร่เชื้อไวรัสผ่านทางน้ำลายและทางเดินหายใจ เมื่อผู้ติดเชื้อไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งของต่างๆที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสก็สามารถติดได้ ไข้หวัดใหญ่มีอยู่ 4 สายพันธุ์ด้วยกัน โดยสายพันธุ์ A จะมีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์ B สำหรับอาการไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้สูง 38 องศาขึ้นไป หนาวสั่น เจ็บคอ ไอ ปวดกล้ามเนื้อ เมื่อยล้าอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงได้เตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดในปีนี้ เป็นวัคซีนรวม 3 สายพันธุ์ คือชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 (A H1N1) ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 (A H3N2) และไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด B โดยฉีดให้กับประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เพราะเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่จะมีอาการป่วยมากกว่าผู้อื่น
7 กลุ่มเสี่ยงที่ควร ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ได้แก่
- หญิงมีครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
- เด็กเล็ก อายุ 6 เดือนถึง 2 ปี
- ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หืด ไตวาย หลอดเลือดสมองผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
- ผู้พิการทางสมอง ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
- โรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ
- ผู้สูงอายุ ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้ป่วยโรคอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร (>100 กก./ BMI>35 kg/m²)
โดยสามารถเข้ารับวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่วัคซีน มีผลป้องกันได้ 60-70% ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองด้วยล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาด, หลีกเลี่ยงใช้สิ่งของร่วมกัน, เลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้มีอาการป่วย สำหรับผู้ที่ดูแลผู้ป่วยควรจะสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรค
สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ที่ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิด 4 สายพันธุ์ ราคา 450 บาท หรือโรงพยาบาลเอกชน ราคาประมาณ 700-1,000 บาท และควรรับการฉีดวัคซีนป้องกันทุกปี