ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสเป็นโรคที่สามารถระบาดในช่วงฤดูฝน กลุ่มเสี่ยงที่สุดคือเด็กวัย 0-4 ปี โดยเฉพาะ เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป, หญิงมีครรภ์, ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่จะมีอาการป่วยมากกว่าผู้อื่น โรคนี้สามารถแพร่กระจายได้ทางการหายใจ ไอ จาม ดังนั้นการดูแลตนเองเบื้องต้นก็จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงโรคภัยไม่มาเบียดเบียน
The Doctor เรื่องเล่าเรากับหมอ ตอน : โรคไข้หวัดใหญ่
- ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือใช้แอลกอฮอล์หรือเจลทำความสะอาดมือทุกครั้ง เพราะอาจรับเชื้อโรคจากตามสถานที่สาธารณะ เช่น ราวบันได เบาะโดยสาร ดังนั้นจึงควรล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารเสมอ
- สวมหน้ากากอนามัย สำหรับผู้ที่ดูแลผู้ป่วยควรจะสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรค อีกทั้งสถานที่ทำงานหรือออฟฟิศเป็นสถานที่ที่ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย ดังนั้นการใส่หน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันเชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่ตัวเราได้
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ หลอดดูด ช้อนอาหาร ควรหมั่นใช้ช้อนกลาง และไม่ใช้ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น
- ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี กลุ่มเสี่ยงที่ควรฉีด ได้แก่ ผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป, ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด วัคซีนจะป้องกันโรคได้ต่อปีเท่านั้น
- เลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้มีอาการป่วย มีไข้ เป็นหวัด และเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีคนอยู่จำนวนมากในช่วงที่มีการระบาดของโรค
- รักษาร่างกายให้อบอุ่น ช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงและช่วงฤดูฝนจะทำให้อากาศเย็นขึ้นจึงป่วยได้ง่าย ดังนั้นควรสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นเพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น นม ไข่ ในแต่ละวันควรได้รับสารอาหารที่หลากหลายและครบทั้ง 5 หมู่ เพราะจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายๆ ทั้งยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้อีกด้วย
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนหลับให้สนิทวันละ 7-8 ชั่วโมง หากนอนหลับไม่เพียงพอหรือนอนดึกจะส่งผลให้ ร่างกายจะอ่อนเพลียและป่วยได้ง่าย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย ไม่ว่าจะเต้นแอโรบิค ว่ายน้ำ ปั่นจักยาน โยคะ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา จมูก หรือปาก เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อได้หากมือสัมผัสกับเชื้อไวรัสของหวัดแล้วนำมาแตะที่ตา จมูก ปาก เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายได้