ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) เกิดจากการอุดตันของไส้ติ่งจึงทำให้บวมแดง โรคนี้เป็นโรคที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนที่สุด เพราะหากปล่อยไว้เพียง 2-3 วันก็อาจทำให้ไส้ติ่งแตกจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่ยากต่อการวินิจฉัย โดยเฉพาะเพศหญิงเพราะมีรังไข่และท่อรังไข่ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน ดังนั้นถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคล่าช้าก็อาจทำให้ไส้ติ่งแตกได้
7 อาการปวดท้อง ไส้ติ่งอักเสบ
1.ปวดท้อง
อาการช่วงแรกจะเหมือนปวดท้องทั่วๆไป จะเริ่มจากปวดท้องที่บริเวณรอบๆสะดือ หรือบอกตำแหน่งแน่นอนไม่ได้ มักปวดถี่ ปวดท้องอยู่ตลอดเวลาประมาณ 6-10 ชั่วโมง
2.ปวดท้องน้อย
หลังจากนั้นอาการปวดท้องจะย้ายไปปวดท้องน้อยทางด้านขวาล่างซึ่งตรงกับตำแหน่งไส้ติ่ง
3.มีไข้
จากนั้นจะเริ่มมีไข้ต่ำๆ ระหว่าง 37.2-38 องศาเซลเซียส มักจะเกิดหลังจากเริ่มอาการปวดท้อง แต่ถ้าหากเกิดภาวะไส้ติ่งแตกจะเริ่มมีไข้สูงกว่า 38.3 องศาเซลเซียส
4.คลื่นไส้และอาเจียน
คลื่นไส้ อาเจียน อาการนี้พบได้ในผู้ป่วยเกือบทุกราย ส่วนท้องเสียอาจพบอาการในผู้ป่วยบางรายเท่านั้น
5.ยิ่งขยับตัวยิ่งปวด
จะมีอาการปวดมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหว เช่น ไอ จาม เดิน ขยับตัว พลิกตัว บางรายจึงพยายามนอนนิ่งๆ เพื่อบรรเทาอาการปวด
6.เดินตัวงอ
เริ่มเดินตัวตรงไม่ได้เพราะจะทำให้ปวดท้องมากยิ่งขึ้น เมื่อเดินงอตัวจะทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลง หรือบางรายอาจจะนอนตะแคงงอขาเล็กน้อยเพื่อให้รู้สึกสบายขึ้น
7.มีอาการกดเจ็บเฉพาะที่
การคลำหาบริเวณที่กดเจ็บ หากแพทย์เอามือกดลงไปตรงบริเวณที่ปวดท้องแล้วปล่อยมือ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวดมาก ดังนั้นหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้ไส้ติ่งแตกได้