จมูกอักเสบภูมิแพ้ ภูมิแพ้อากาศ แพ้อากาศ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้จมูก โรคภูมิแพ้อากาศ

8 วิธีป้องกัน ภูมิแพ้อากาศ หรือ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ

ภูมิแพ้อากาศ หรือ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ เป็นโรคที่มีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจเป็นๆหายๆตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นอาการแพ้สิ่งที่อยู่ในอากาศแล้วทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก มักเกิดกับผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำจึงทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญ จนไม่สามารถนอนหลับได้ตามปกติ และนี่คือวิธีรักษาภูมิแพ้อากาศด้วยตัวเอง 1.ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ เช่น การสัมผัสฝุ่น ควัน กลิ่นฉุน อากาศเย็นหรือร้อนเกินไป 2.หมั่นดูดฝุ่นทำความสะอาด พรม…

Home / HEALTH / 8 วิธีป้องกัน ภูมิแพ้อากาศ หรือ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ

ภูมิแพ้อากาศ หรือ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ เป็นโรคที่มีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจเป็นๆหายๆตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นอาการแพ้สิ่งที่อยู่ในอากาศแล้วทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก มักเกิดกับผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำจึงทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญ จนไม่สามารถนอนหลับได้ตามปกติ และนี่คือวิธีรักษาภูมิแพ้อากาศด้วยตัวเอง

ภูมิแพ้อากาศ

1.ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ เช่น การสัมผัสฝุ่น ควัน กลิ่นฉุน อากาศเย็นหรือร้อนเกินไป

ภูมิแพ้อากาศ

2.หมั่นดูดฝุ่นทำความสะอาด พรม ผ้าเช็ดเท้า ผ้าเช็ดถูพื้น ผ้าม่าน หัวเตียง ใต้เตียง ของเล่นหรือตุ๊กตาที่มีขนอย่างสม่ำเสมอ

ภูมิแพ้อากาศ

3.หมั่นล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ ควรหมั่นล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศภายในเครื่องปรับอากาศ ก็จะช่วยขจัดเอาฝุ่นละออง เชื้อโรค เชื้อราออกไปด้วย

ภูมิแพ้อากาศ

4.หมั่นทำความสะอาดห้องนอนเป็นประจำ ควรซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ซักโดยใช้น้ำร้อนเป็นเวลาประมาณ 15-20 นาที เพื่อฆ่าตัวไรฝุ่นหลังจากนั้นนำไปตากแดดให้แห้งสนิท

ภูมิแพ้อากาศ

5.ควรใช้ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียง แบบกันไรฝุ่น เพราะสามารถลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ของไรฝุ่นได้ และหลีกเลี่ยงการใช้หมอนหรือที่นอนที่ทำจากนุ่น

เลี้ยงสัตว์

6.หากเลี้ยงสัตว์ เช่น แมว สุนัข ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในห้องนอน เพราะขนของเลี้ยงสัตว์อาจติดอยู่บนปลอกหมอนหรือผ้าห่มได้

ล้างจมูก

7.ควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เป็นการชะล้างเอาสิ่งสกปรกในจมูกให้หลุดออกไป โดยการใช้น้ำเกลืออุ่นๆ เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก แสบจมูก น้ำมูกไหล ควรใช้น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดความเหนียวของน้ำมูกได้

ออกกำลังกาย

8.ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกาย 3 วันต่อสัปดาห์ โดยเฉลี่ยควรใช้เวลาในการออกกำลังกายประมาณ 20-30 นาทีต่อวันก็จะช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น