โรคมะเร็งตับ เป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของผู้ชายไทย และเป็นอันดับ 4 ของผู้หญิง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับคือผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบจะมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งตับสูง
อาการของโรคมะเร็งตับ
- ปวดท้อง
- ท้องอืด
- น้ำหนักลด เบื่ออาหาร เคื่นไส้อาเจียน
- ท้องโตขึ้น
- ปวดท้องโดยเฉพาะบริเวณข้างขวาส่วนบน
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- เท้าบวม
สาเหตุของมะเร็งตับ
- มีประวัติเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
- รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น กุ้ง หอย ปลาน้ำจืด
- รับประทานอาหารที่มีเชื้อรา เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ข้าวโพด แป้งสาลี พริกแห้ง
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และดื่มปริมาณมากสะสมเป็นเวลาหลายปี
- ผู้ป่วยโรคตับแข็ง เบาหวาน และโรคอ้วน
10 วิธีการป้องกัน โรคมะเร็งตับ
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งจะต้องฉีดวัคซีนทั้งหมด 3 ครั้ง ภายในเวลา 6 เดือน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี
- รับประทานอาหารปรุงสุกทุกครั้ง หลายคนชอบกินอาหารสุกๆดิบๆ เช่น ลาบ ก้อย น้ำตก ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคพยาธิที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งตับ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์มีผลทำให้ตับแข็งจนนำไปสู่โรคมะเร็งตับได้
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งตับมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงของหมักดอง การหมักดองเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง แต่อาหารหมักดองด้วยเกลือเป็นตัวการร้ายที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เมื่อรับประทานสะสมไปนานๆก็เสี่ยงก่อให้เกิดมะเร็งตับ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจมีเชื้อราปนเปื้อน เพราะอาจมีสารแอฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นก่อมะเร็งตับ
- ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ น้ำมันหากได้รับอุณหภูมิสูงเป็นระยะเวลานาน ส่งก็จะผลให้เกิดการเสื่อมคุณภาพของน้ำมัน ซึ่งหากสะสมในร่างกายเป็นระยะเวลานานก็ก่อมะเร็งในร่างกาย เช่น มะเร็งตับ
- ควบคุมน้ำหนัก โรคเบาหวานและโรคอ้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นมะเร็งตับได้
- ตรวจสุขภาพประจำปี ควรตรวจคัดกรองหามะเร็งตับทุก 6-12 เดือน ซึ่งกลุ่มเสี่ยงมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป