หมอกจางๆ หรือควันพิษ? หลายคนตื่นขึ้นมาพร้อมกับคิดว่าสิ่งที่เห็นเป็นหมอกแล้วก็สูดรับควันพิษเข้าไปเต็มปอด ซึ่งตอนนี้กรุงเทพกำลังประสบกับปัญหาฝุ่นละอองมาอย่างต่อเนื่อง
ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร
ฝุ่นละอองที่ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีขนาดเล็กมากจนเรามองไม่เห็น เป็นควันพิษที่ไม่มีกลิ่นแต่มีอันตรายมากมายถึงขั้นทำให้เป็นมะเร็งได้เลยทีเดียว และยังส่งผลต่อการหายใจสั้นและหัวใจทำงานหนักมากขึ้น ใครที่เป็นโรคทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด โรคหัวใจ ก็จะได้รับผลกระทบมากขึ้น ทั้งยังทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดในสมอง แม้แต่หญิงที่ตั้งครรภ์ถ้าได้รับฝุ่นพิษเป็นเวลานานๆ ก็เสี่ยงต่อการส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้
ระดับฝุ่น สีที่ใช้ คุณภาพอากาศ AQI (Air Quality Index)
0-50 ฟ้า คุณภาพดี
51-100 เขียว คุณภาพปานกลาง
101-200 เหลือง มีผลกระทบต่อสุขภาพ
201-300 ส้ม มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก
301 ขึ้นไป แดง อันตราย
AirVisual แอพวัดดัชนีคุณภาพของอากาศ วัดค่าล่าสุดระดับฝุ่นของกรุงเทพ คือ 182 คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ระบบทางเดินหายใจ ไอ ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดหัว เหนื่อยง่าย โดยมีค่า PM2.5 สูงถึง 115.6
ซึ่งในเขตทวีวัฒนามีค่าระดับฝุ่นถึง 233 ทำให้คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพมาก มีผลทำให้คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว มองไม่ชัด หอบหืด ปอดอักเสบ มีความเสี่ยงต่อหญิงตั้งครรภ์
AirVisual แอพวัดดัชนีคุณภาพของอากาศ ได้จัดอันดับจากทั่วโลก ปัจจุบันประเทศไทยมีคุณภาพอากาศที่แย่ติดอันดับที่ 12 ของโลก ซึ่งอันดับที่ 1 ก็คือ อิสราเอล ตามมาด้วยประเทศอินเดีย จีน บังกลาเทศ แม้แต่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ยังติดอันดับที่ 10
ส่วนประเทศที่มีอากาศดีที่สุด ก็คือ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
แม้แต่หน้ากากอนามัยที่ใช้กันทั่วไปก็ใช้ไม่ได้ผล เพราะสามารถป้องกันฝุ่นได้เพียง 3 ไมครอน จึงป้องกันฝุ่น PM2.5 ไม่ได้เพราะฝุ่นละอองที่ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน
หน้ากากอนามัย N95 เป็นหน้ากากที่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ดี สามารถป้องกันได้แม้กระทั่งฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ถึงขนาด 0.3 ไมครอน จึงสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ มีแถบโลหะทำให้กระชับกับรูปจมูกและใบหน้า ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ราคาอยู่ที่ประมาณชิ้นละ 50 บาท
ข้อแนะนำในการดูแลและป้องกันตัวเองจากฝุ่น pm 2.5
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน
- ปิดหน้าต่างเพื่อหลีกเลี่ยงไม่รับอากาศเป็นพิษเข้าไปภายในบ้านหรืออาคาร
- สวมใส่หน้ากากอนามัย N95 และควรเปลี่ยนใหม่เมื่อหน้ากากสกปรกหรือเริ่มหายใจไม่สะดวก
- ใช้น้ำสะอาดกลั้วคอ แล้วบ้วนทิ้งวันละ 3-4 ครั้ง
- หากต้องเปิดพัดลมภายในบ้าน ควรเป่าลงผิวน้ำก่อนก็จะช่วยให้ลดปริมาณฝุ่นพิษลงได้
เรียบเรียงโดย Health Mthai