ข้าวบาร์เลย์ เป็นธัญพืชที่มีคุณค่าโภชนาการสูง 100 กรัม ให้พลังงาน 350 กิโลแคลอรี่ หลายคนอาจเข้าใจผิดระหว่าง ข้าวบาร์เลย์ กับ ลูกเดือย เพราะมีลักษณะที่คล้ายกันมาก แต่ข้าวบาร์เลย์จะมีขนาดเล็กกว่าลูกเดือย เนื้อข้าวบาร์เลย์ยังเหนียวกว่าลูกเดือยอีกด้วย ข้าวบาร์เลย์เป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินมากมายทั้ง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เบต้ากลูแคน เพนโทแซนส์ เซลลูโลส กรดอะมิโนจำเป็น วิตามินบี ธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง แมกนีเซียม ทั้งยังสามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนูทั้ง ยำข้าวบาร์เลย์ ลาบข้าวบาร์เลย์ ข้าวต้ม ซุป ข้าวผัด สลัด ผสมกับข้าวสวย หรือทำเป็นเมนูขนมหวานก็อร่อย
ประโยชน์ของข้าวบาร์เลย์
1.ลดระดับน้ำตาลในเลือด
ข้าวบาร์เลย์ที่มีคุณสมบัติช่วยให้เกิดการลดระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน และยังสามารถลดระดับน้ำตาลกลูโคสได้ดีกว่าทานข้าวทั่วไป
2.ลดคอเลสตอรอล
ข้าวบาร์เลย์มีเบต้ากลูแคนที่สามารถควบคุมอัตราการย่อยและการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและไขมัน จึงช่วยลดการดูดซึมของคอเลสตอรอลชนิดเลวเข้าสู่กระแสเลือด ทั้งยังช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดีได้อีกด้วย
3. บำรุงสมอง
ข้าวบาร์เลย์มีวิตามินบี 1 และ 6 กาบา และ โคลีน ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการเรียนรู้และความจำ ทั้งยังช่วยบำรุงระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
4. ลดอาการข้ออักเสบ
ข้าวบาร์เลย์มีทองแดงซึ่งมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบและลดอาการของโรคไขข้ออักเสบ ทองแดงยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกายจึงช่วยฟื้นฟูเซลล์ส่วนต่างๆภายในร่างกาย
5. บำรุงหัวใจ
ข้าวบาร์เลย์เป็นอาหารบำรุงหัวใจได้อย่างดี เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า ไทโคไตรอินอล ที่จะช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ดี ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหัวใจล้มเหลวและโรคหลอดเลือดหัวใจ ทั้งยังมีลิกแนนที่ช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือด และ ซิลิกอนที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เพราะซิลิกอนจะช่วยทำให้หลอดเลือดใหญ่แข็งแรง
6. ช่วยชะลอความแก่
เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายเพื่อให้มีผิวสุขภาพดี ลดริ้วรอยก่อนวัย
7. ควบคุมน้ำหนัก
ข้าวบาร์เลย์มีแคลอรี่ต่ำและมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ จึงช่วยทำให้อิ่มท้องนานเพราะต้องใช้เวลาย่อยหลายชั่วโมง จึงเป็นธัญพืชที่เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการควบคุมหนัก รวมถึงยังช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีผลการวิจัยว่าแค่ทานข้าวบาร์เลย์ทุกเช้าช่วยลดน้ำหนักได้แล้ว
8. ป้องกันมะเร็ง
พบว่าสารสกัดจากข้าวบาร์เลย์มีฤทธิ์ยับยั้งการแพร่กระจายเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ ทั้งข้าวบาร์เลย์ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้อีกด้วย ข้าวบาร์เลย์ยังมีสารอาหารหลายชนิดที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในร่างกายโดยเฉพาะมะเร็งเต้านม
9. ป้องกันโรคโลหิตจาง
ข้าวบาร์เลย์อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก จึงช่วยบำรุงเลือด บำรุงม้าม กระเพาะอาหาร และช่วยบำรุงการทำงานของไตได้อีกด้วย
10. ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
ข้าวบาร์เลย์มีไฟเบอร์สูงจึงช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ แก้อาการท้องผูก และยังช่วยกำจัดสารพิษที่ตกค้างจากการย่อยอาหารออกจากร่างกาย รวมถึงยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดริดสีดวงทวารและโรคถุงผนังลำไส้ใหญ่
เรียบเรียงโดย Health Mthai Team