อยากมี สุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเดิมๆของตัวเองที่อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพไปตลอดชีวิต และยังส่งผลให้โรคภัยต่างๆมาเบียดเบียนอีกด้วย ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นก็ต้องเริ่มต้นทำตั้งแต่วันนี้เลย
1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร หรือ ประมาณวันละ 8-10 แก้ว แต่ถ้าต้องทำงานในที่แจ้งเสียเหงื่อมากๆ ก็ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นอีก น้ำจะช่วยชะล้างสิ่งปกปรกและขับสารพิษออกจากร่างกาย และยังเพื่อควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติอีกด้วย ที่สำคัญควรดื่มน้ำตั้งแต่ตื่นนอนในตอนเช้าเพื่อดีท็อกซ์ลำไส้แถมยังทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
2.รับประทานอาหารเช้า
หลายคนงดอาหารเช้าทานกาแฟเพียงแก้วเดียวซึ่งทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแรง ดังนั้นมื้อเช้าเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์มากๆ อย่าง
- คารโบไฮเดรต เช่น ซีเรียลธัญพืช ข้าวกล้อง ขนมปังธัญพืช ข้าวโอ๊ต ควินัว มันฝรั่ง กล้วย
- โปรตีน เช่น ไข่ ถั่ว อัลมอนด์ ไก่ต้ม กรีกโยเกิร์ต
- ไฟเบอร์ เช่น ผักผลไม้แบบสดๆ ควรหลีกเลี่ยงผลไม้กระป๋อง
- ไขมันต่ำ เช่น ไขมันจากปลาแซลมอน ปลาทูน่า
3.รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลาเพราะระบบเผาผลาญทำงานได้ดีที่สุดในช่วงเช้า จึงช่วยทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ การทานอาหารไม่ตรงเวลายังทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติจึงอาจทำให้อ้วนได้ง่ายขึ้น และยังป้องกันการเกิดโรคกระเพาะอาหารอีกด้วย
4.เพิ่มไฟเบอร์ในอาหารให้มากขึ้น
ควรทานผักผลไม้ในแต่ละวันให้มากกว่าทานข้าวและเนื้อสัตว์ เพราะผักผลไม้มีไฟเบอร์ที่จะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติทั้งยังช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวาร ช่วยล้างสารพิษในลำไส้ และลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทั้งยังทำให้รู้สึกอิ่มนานจึงเหมาะกับคนที่ต้องการลดความอ้วน
5.ปรุงอาหารให้น้อยลง
ควรลดน้ำตาล น้ำมัน น้ำปลา ลดการปรุงอาหารต่างๆให้น้อยลงเพราะเมื่อรับประทานสะสมไปนานๆทำให้เสี่ยงต่อสุขภาพและโรคต่างๆ
- บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งคนไทยเรากินน้ำตาลเฉลี่ยวันละ 26 ช้อนชา ส่วนใหญ่มาจากเครื่องดื่มทั้งหลาย เช่น ชาเชียว ชาไข่มุก
- น้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะซ่อนอยู่ในอาหารทอดๆผัดๆ เช่น ไก่ทอด ปาท่องโก๋ เฟรนช์ฟรายส์ ไข่ดาว ผัดไทย
- เกลือไม่เกิน 1 ช้อนชาต่อวัน รสเค็มจะแอบแฝงอยู่ในเครื่องปรุง ซุปก้อน น้ำปลา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมคบเขี้ยวต่างๆ
6.ออกกำลังกาย 3 วันต่อสัปดาห์
บางคนอาจไม่มีเวลาออกกำลังกายทุกวันดังนั้นอย่างน้อยควรออกกำลังกาย 3 วันต่อสัปดาห์ โดยเฉลี่ยเราควรใช้เวลาในการออกกำลังกายประมาณ 20-30 นาทีต่อวันก็จะช่วยทำให้ สุขภาพดี และไม่ควรหยุดออกกำลังกายติดต่อกันนานๆ เพราะจะทำให้ขี้เกียจและเลิกออกกำลังกายในที่สุด
7. ตื่นเช้าทุกวัน
การตื่นนอนตอนเช้าทุกวันจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากกว่าการนอนดึกตื่นสาย แม้จะนอนจำนวนชั่วโมงเท่ากัน แต่คุณก็จะไม่รู้สึกกระชุ่มกระชวย ดังนั้นควรเข้านอนให้เป็นเวลาสร้างวินัยให้กับตัวเอง แล้วคุณจะตื่นเวลาเดิมทุกวันโดยที่ไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุกเลยล่ะ และยังมีผลวิจัยของมหาวิทยาลัยเท็กซัสด้วยว่าการตื่นเช้าเป็นประจำจะช่วยให้สมองปลอดโปร่งทำให้เรียนหนังสือหรือทำงานได้ดีกว่าคนที่นอนดึกตื่นสาย
เรียบเรียงโดย Health Mthai Team