กินหวาน กินเค็ม ทานเค็ม น้ำตาล น้ำมันพืช ปรุงอาหาร มัน รสเค็ม เค็ม แอลกอฮอล์ โซเดียม

หวาน มัน เค็ม ทานเท่าไรถึงพอดี ต่อร่างกายในแต่ละวัน ไม่ป่วยเป็นโรค!!

ในแต่ละวันเราควรได้รับปริมาณสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่หากมากเกินไปก็จะส่งผลเสียโรคต่างๆก็จะตามมา

Home / HEALTH / หวาน มัน เค็ม ทานเท่าไรถึงพอดี ต่อร่างกายในแต่ละวัน ไม่ป่วยเป็นโรค!!

ในแต่ละวันเราควรได้รับปริมาณสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่หากมากเกินไปก็จะส่งผลเสียโรคต่างๆก็จะตามมา แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าบริโภคแค่ไหนถึงเหมาะสมกับร่างกาย มาดูกันเลยว่าควรทานอาหาร หวาน มัน เค็ม และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรในแต่ละวัน

หวาน มัน เค็ม

น้ำตาล

น้ำตาลคือสารให้ความหวานที่หลายคนติดใจจนกลายเป็นอาการเสพติดน้ำตาลหรือติดของหวาน เราต่างทานขนมหวาน ทั้งขนมไทย ขนมฝรั่ง เค้ก คุ้กกี้ เครื่องดื่มต่างๆ ที่ผสมน้ำตาลอยู่เพียบ โดยไม่รู้ถึงภัยร้ายที่กำลังมาถึง น้ำตาลดูเป็นสิ่งที่ไม่มีอันตราย เพราะน้ำตาลอยู่รอบตัวเราไม่ว่าจะขนมหวาน เครื่องดื่ม ต่างมีส่วนผสมของน้ำตาลค่อนข้างสูง สำหรับปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เด็กไม่ควรบริโภคเกิน 4 ช้อนชาต่อวัน ผู้หญิง 6 ช้อนชาต่อวัน และผู้ชายบริโภคได้ไม่เกิน 9 ช้อนชา ในน้ำตาล 1ช้อนชา มีปริมาณเท่ากับ 30 แคลอรี่ เมนูเครื่องดื่มทั้งหลายต่างมีปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก เช่น

  • นมเปรี้ยว 1 ขวด มีปริมาณน้ำตาล 4 ช้อนชา
  • กาแฟ 1 แก้ว มีปริมาณน้ำตาล 7 ช้อนชา
  • น้ำอัดลม 1 กระป๋อง มีปริมาณน้ำตาล 8 ช้อนชา
  • น้ำผลไม้ 1 กล่อง มีปริมาณน้ำตาล 10 ช้อนชา
  • ชาไข่มุก 1 แก้ว มีปริมาณน้ำตาล 11 ช้อนชา
  • ชาเขียว 1 ขวด 14 ช้อนชา

น้ำมันพืช

น้ำมันพืช

ไขมันให้พลังงานเป็น 2 เท่าของแป้งและน้ำตาล จึงควรกินในปริมาณที่พอดี หากกินมากเกินไปก็จะก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมา เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง น้ำมันพืชที่ใช้ปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันอะไรก็ตามแต่ ควรบริโภคน้ำมันไม่เกิน 6-8 ช้อนชา ต่อวัน ในน้ำมันพืช  1 ช้อนชา มีปริมาณเท่ากับ 130 แคลอรี่ การกินทอดอาหารเป็นประจำจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณไขมันที่สูงเกินไปจากความต้องการในแต่ละวัน และยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย

  • เฟรนช์ฟรายส์ ขนาดเล็ก มีปริมาณน้ำมัน 2 ช้อนชา
  • ไก่ทอด 1 ชิ้น มีปริมาณน้ำมัน 3 ช้อนชา
  • ทอดมัน 1 ชิ้น มีปริมาณน้ำมัน 3 ช้อนชา
  • ผัดไทย 1 จาน มีปริมาณน้ำมัน 7 ช้อนชา
  • หอยทอด 1 จาน มีปริมาณน้ำมัน 6 ช้อนชา
  • ผัดซีอิ๋ว 1 จาน มีปริมาณน้ำมัน 7 ช้อนชา
  • พิซซ่า 1 ชิ้น มีปริมาณน้ำมัน 4 ช้อนชา
  • โดนัท 1 ชิ้น มีปริมาณน้ำมัน 4 ช้อนชา
โซเดียม

โซเดียม

คนไทยรับประทานโซเดียมกันถึง 3,000-5,000 มิลลิกรัมต่อวันซึ่งเกินกว่าค่ามาตราฐานไปมาก การกินเค็มมากๆจะทำให้เสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูงและโรคไต ดังนั้นร่างกายคนเราควรได้รับปริมาณโซเดียมในอาหารไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลาไม่เกิน 3 ช้อนชา เราได้รับโซเดียมมากมายในแต่ละวันจากอาหารหมักดอง เครื่องปรุงรส อาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป กุนเชียง แฮม ไส้กรอก ปลาร้า ไข่เค็ม ปูเค็ม ขนมขบเคี้ยวต่างๆ

  • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซอง มีโซเดียม 1,200 มิลลิกรัม
  • ไข่เค็ม 1 ฟอง มีโซเดียม 500 มิลลิกรัม
  • ผักกาดดอง 100 กรัม มีโซเดียม 1,000 มิลลิกรัม
  • น้ำจิ้มสุกี้ 2 ช้อนโต๊ะ มีโซเดียม 500 มิลลิกรัม
  • ซุปก้อน 1 ก้อน มีโซเดียม 1,750 มิลลิกรัม
แอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์ หากดื่มในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายก็จะส่งผลดีต่อหัวใจและเลือด เพราะเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเลือดให้ไหลเวียนดียิ่งขึ้น ปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน ผู้ชายควรดื่มไม่เกิน 2 แก้ว และ ผู้หญิงควรดื่มไม่เกิน 1 แก้ว การดื่มแอลกอฮอล์ที่จะไม่เกิดโทษต่อร่างกาย คือ 1 ดื่มมาตรฐาน ได้แก่

  • เบียร์แอลกอฮอล์ 5% ดื่มได้ 1 กระป๋อง
  • ไวน์ 1 แก้ว
  • เหล้า 1 ช็อท

เรียบเรียงโดย Health Mthai Team