กระเจี๊ยบเขียว ผักพื้นบ้านสามารถนำมาต้มรับประทานกับน้ำพริกก็อร่อยแล้วแถมยังอุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย กระเจี๊ยบเขียวยังมีเส้นใยชนิดไม่ละลายน้ำและเส้นใยที่ละลายน้ำได้ โดยมีเส้นใยสูงถึง 3.2 กรัม ต่อ กระเจี๊ยบเขียว 100 กรัม ทั้งยังมีสรรพคุณรักษาโรคได้มากมาย ดังนี้
ควบคุมน้ำตาลในเลือด
กระเจี๊ยบเขียวสามารถช่วยลดระดับปริมาณของน้ำตาลกลูโคสในเลือด และยังช่วยควบคุมน้ำตาลในร่างกายได้ดีอีกด้วย โดยจะช่วยดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้ใหญ่ให้มีระดับคงที่ จึงเป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
รักษาโรคกระเพาะอาหาร
กระเจี๊ยบเขียว มีสรรพคุณช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร เพราะในกระเจี๊ยบมีเมือกอย่างสารเพกทินและกัม ที่จะช่วยเคลือบแผลกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ดี จึงช่วยบรรเทาอาการปวดท้องของผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะ เยื่อบุกระเพาะและลำไส้อักเสบ และยังลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งลำไส้ใหญ่
ช่วยลดคอเลสเตอรอล
เส้นใยที่ละลายน้ำได้ในกระเจี๊ยบเขียว จะช่วยลดการดูดซึมของไขมันและคอเลสเตอรอล โดยเมือกของกระเจี๊ยบเขียวจะไปจับกับน้ำดีจึงช่วยกำจัดไขมันออกไปจากร่างกายทำให้คอเลสเตอรอลลดลง
กระตุ้นระบบขับถ่าย
เป็นยาระบายอ่อนๆ ทำให้ถ่ายอุจจาระได้คล่อง ช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และยังช่วยแก้โรคบิดได้อีกด้วย โดยการนำกระเจี๊ยบเขียวไปตากแห้งแล้วมาบดเป็นผง จากนั้นผสมกับน้ำร้อนชงดื่มจะช่วยแก้อาการได้ดี
ต้านอนุมูลอิสระ
กระเจี๊ยบเขียวมีสารกลูตาไทโอน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย จึงช่วยซ่อมแซมเซลล์และกำจัดสารพิษในร่างกาย ทั้งยังช่วยต้านเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี เช่น เซลล์มะเร็งกระเพาะอาหาร เซลล์มะเร็งปากมดลูก และเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง