การมียาสามัญประจำบ้านเก็บไว้คือสิ่งที่ดี แต่หาก เก็บรักษายา ไม่ถูกวิธีการรับประทานยาเมื่อเจ็บป่วยก็อาจลดประสิทธิภาพลงไปได้ หากยาเสื่อมก่อนวันหมดอายุก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้นการเก็บรักษายาให้ถูกวิธีจะช่วยให้ยามีคุณภาพสูงสุด
ควรเก็บยาให้พ้นแสงแดด
หลายคนคงเคยเห็นยาในซองสีน้ำตาลหรือขวดยาสีชา ซึ่งยาหลายชนิดเมื่อถูกแสงแดดจะส่งผลให้ยาเสื่อมภาพได้ทำให้การรักษาโรคนั้นไม่ได้ผลและอาจเกิดโทษต่อร่างกายได้ เช่น ยาลดความดัน, ยาคุมกำเนิด, วิตามินซี, วิตามินบี 6, ยาปฏิชีวนะ จึงได้ผลิตภาชนะบรรจุให้ทึบแสงเพื่อป้องกันแสงแดด ที่สำคัญไม่ควรแกะเม็ดยาออกจากภาชนะบรรจุยาแล้วเปลี่ยนไปเป็นแบบขาวใส เพราะตัวยามีโอกาสโดนแสงแดดทำให้ยาเสื่อมสภาพได้
อ่านสลากยา
เมื่อได้รับยามาควรอ่านสลากให้ครบถ้วน วันผลิตและวันหมดอายุ ผลข้างเคียงของยาและคำเตือนต่างๆ รวมทั้งคำแนะนำการเก็บรักษายา เช่น ระบุไว้ว่า “ควรเก็บยาให้พ้นแสง”
ยาทั่วไป
โดยทั่วไปควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส ควรเก็บยาบริเวณที่ไม่ร้อน และไม่มีแสงแดดส่อง และห้ามทิ้งยาไว้ในรถยนต์ เพราะอุณหภูมิในรถร้อนมากอาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียส จะทำให้ยาเสื่อมสภาพได้ง่าย
การเก็บยาไว้ในตู้เย็น
ควรเก็บยาไว้ชั้นกลางของตู้เย็นเพราะอุณหภูมิค่อนข้างคงที่ตลอดเวลา จึงเหมาะที่จะเก็บรักษายามากที่สุด และควรเก็บยาในตู้เย็นในช่องธรรมดาที่มีอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ที่สำคัญไม่ควรเก็บยาที่ประตูตู้เย็น เพราะอุณหภูมิตรงประตูตู้เย็นจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้อุณหภูมิอาจไม่เย็นมากพอเพราะเราเปิด-ปิดตู้เย็นอยู่ตลอดเวลา
ระวังความชื้น
ยาหลายชนิดเมื่อถูกความชื้นจะทำให้ยาสลายตัว ซึ่งยาเม็ดเมื่อถูกความชื้นก็จะทำให้ชั้นเคลือบเม็ดยาบวม จึงควรเก็บยาไว้ภายในขวดยาที่มีเม็ดกันชื้นไว้ตลอดเวลาและควรปิดภาชนะบรรจุให้แน่นสนิททุกครั้ง
ควรเก็บยาไว้ในภาชนะบรรจุเดิม
ยาที่บรรจุอยู่ในแผงไม่ควรแกะเม็ดยาออกจากภาชนะบรรจุเดิมของยามาแบ่งใส่ตลับใส่ยาเพื่อพกพาง่ายสะดวกในการรับประทานยาแต่จะทำให้ยาเสื่อมคุณภาพ หากมีความจำเป็นสามารถตัดแบ่งแผงยาเป็นชิ้นเล็กๆโดยที่ต้องไม่มีรอยฉีกขาด
วิธีเก็บยาหยอดตา
การเก็บยาหยอดตาและยาป้ายตา ควรเก็บยาไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาเพื่อป้องกันแสงแดด ยาหยอดตาที่เปิดใช้แล้ว ควรเก็บไว้ไม่เกิน 30 วัน เพราะยาหยอดตาจะมีสารป้องกันการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียแล้วจะค่อยๆเสื่อมประสิทธิภาพหลังการเปิดใช้ยาไปแล้ว 1 เดือน