ผักผลไม้หลายชนิดมีแคลเซียมสูงจึงช่วยบำรุงกระดูกและฟันได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดกลิ่นปาก แถมป้องกันฟันผุได้อีก มาดูกันเลยว่าอาหารอะไรบ้างที่จะช่วยบำรุงเหงือกและ ฟันแข็งแรง
ใบเหลียง
จัดเป็น 1 ใน 10 อันดับของผักที่มีแคลเซียมสูง ผักเหลียง 100 กรัม มีแคลเซียม 151 มิลลิกรัม มีสรรพคุณช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง แก้ปวดเมื่อยตามร่างกายและข้อกระดูก บำรุงเส้นเอ็น ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย
วอเตอร์เครส
เป็นผักที่มีแคลเซียมสูง วอเตอร์เครสปริมาณ 100 กรัม มีแคลเซียมถึง 120 มิลลิกรัม ซึ่งแคลเซียมจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง แก้ปวดเมื่อยตามร่างกายและข้อกระดูก บำรุงเส้นเอ็น วอเตอร์เครสยังช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย
กระชาย
ช่วยรักษาฟันและรักษาโรคที่เกิดในช่องปาก เช่น เหงือกบวม เหงือกอักเสบ เจ็บคอ แผลในปาก ลดเชื้อราในช่องปาก มีประสิทธิภาพในการลดกลิ่นปากได้ถึง 70-90% และยังป้องกันฟันผุได้ผลดีมาก สามารถทำน้ำยาบ้วนปากกระชายไว้ใช้เอง กระชายโขลกให้ละเอียด 1 กำมือ น้ำต้ม 1 ลิตร เกลือ 1 หยิบมือ นำมาต้มจนเกลือสะลาย ก็สามารถนำมาใช้บ้วนปากหลังปากฟันได้เลย
ตะลิงปลิง
ตะลิงปลิงมีวิตามินซี จึงช่วยรักษาแผลในช่องปาก รักษาเลือดออดตามไรฟัน แก้อาการปวดฟัน โดยนำตะลิงปลิงมาบดในบริเวณฟันที่ปวด จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้แบบชะงัด
แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลมีสารที่ชื่อว่า กรดมาลิก (malic acid) จะช่วยลดคราบที่ติดอยู่บริเวณผิวฟัน ป้องกันการสะสมของคราบแบคทีเรีย จึงช่วยให้ฟันขาวสะอาดและแข็งแรงอีกด้วย
อินทผลัม
อินทผลัม 1 ผล มีปริมาณแคลเซียม 39 มิลลิกรัม ซึ่งแคลเซียมช่วยในการเสริมสร้างและซ่อมแซมกระดูก ช่วยให้ฟันแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนอีกด้วย
แก้วมังกร
แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงและให้พลังงานต่ำ แก้วมังกรยังอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งจะช่วยในการเสริมสร้างและซ่อมแซมกระดูกช่วยให้ฟันแข็งแรง
ลูกฟิก
ลูกฟิกแห้งมีแคลเซียมสูงกว่าลูกฟิกสด ในลูกฟิกสด 100 กรัม มีแคลเซียม 35 มิลลิกรัม แต่ลูกฟิกแห้งมีแคลเซียมสูงถึง 162 มิลลิกรัม ซึ่งแคลเซียมจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
เปลือกมังคุด
มีฤทธิ์ฝาดจึงช่วยรักษาแผลในช่องปากและช่วยให้เยื่อบุช่องปากแข็งแรงขึ้น ช่วยลดกลิ่นปาก บำรุงสุขภาพภายในช่องปากและเหงือกให้แข็งแรง ช่วยในการต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยกระชับเหงือก และช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเหงือกอีกด้วย